น้ำหอมระดับตำนาน 4 สไตล์ ที่ยังคงเดินทางผ่านหลากหลายอารมณ์กับเรื่องราวในอดีต และส่งกลิ่นหอมฟุ้งจนถึงวันนี้
“น้ำหอม” อีกหนึ่งไอเทมที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ และที่ผ่านมามีน้ำหอมที่เกิดขึ้นและตกยุคไปตามเทรนด์มากมาย แต่ยังคงมีน้ำหอมบางกลิ่นที่ยังคงไม่เลือนหายไปตามกาลเวลา ที่ยังคงหาซื้อได้ในปัจจุบัน
สิ่งที่ทำให้น้ำหอมบางกลิ่นยังคงได้รับความนิยมจนถึงตอนนี้ มีหลายปัจจัยเป็นส่วนประกอบเหมือนกับแฟชั่นเครื่องแต่งกายหรือเครื่องประดับ ที่สามารถเดินทางผ่านเวลามาได้ในหลายยุค อย่างเช่น ช่วงเวลาในการเปิดตัวอาจเป็นช่วงเวลาที่สำคัญ มีกลิ่นเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองมากๆ รวมไปถึงน้ำหอมที่บุคคลมีชื่อเสียงเลือกหยิบใช้ อย่าง 4 น้ำหอมระดับตำนาน ที่มีเอกลักษณ์และเรื่องราวความเป็นมาที่น่าสนใจ
Chanel No.5 ตำนานแห่งความหรูหรา
น้ำหอม Chanel No.5 เปิดตัวครั้งแรกในปี 1921 โดย Gabrielle “Coco” Chanel หนึ่งในดีไซเนอร์ที่มีบทบาทในวงการแฟชั่น เธอต้องการสร้างน้ำหอมสำหรับผู้หญิงที่มีความแตกต่างจากรสนิยมเดิมๆ โดยผสมผสานกลิ่นของดอกไม้ถึง 6 ชนิด ประกอบด้วย ดอกมะลิ กุหลาบ กระดังงา ซ่อนกลิ่น ไม้จันทน์ และวานิลลา พร้อมกับเติมกลิ่นของอัลดีไฮด์ ทำให้มีความสดชื่นและเพิ่มความหรูหราให้กับน้ำหอม
ในขณะที่รูปทรงของขวดน้ำหอม เป็นความสวยงามที่ดูเรียบง่าย ตรงกับคอนเซ็ปต์ “Less is more” น้อยแต่มาก เรียบแต่โก้ ได้ดีเลยทีเดียว
และความนิยมของ Chanel No.5 ยิ่งเพิ่มขึ้นไปอีก เมื่อ Marilyn Monroe (มาริลิน มอนโร) นักแสดงสาวฮอลลีวูดได้เลือกฉีด Chanel No.5. ในตอนเข้านอน โดยมีประโยคเด็ดที่เธอเคยให้สัมภาษณ์ไว้ในปี 1952 ว่า “What do I wear to bed? Just a few drops of Chanel No.5”
ด้วยความหอมและภาพลักษณ์ที่ดูหรูหราที่สุดในยุคนั้น ทำให้ Chanel No.5 กลายเป็นน้ำหอมในตำนาน ซึ่งปัจจุบันยังคงผลิตและพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง อย่างเช่น Chanel No.5 Eau de Parfum (1986) หรือ Chanel No.5 L’Eau (2016)

Miss Dior สัญลักษณ์หญิงสาวที่เข้มแข็ง
Miss Dior น้ำหอมกลิ่นแรกจากแบรนด์ Christian Dior เปิดตัวในปี 1947 โดยชื่อนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากน้องสาวของ Christian Dior อย่าง Catherine Dior และเธอคือ สัญลักษณ์ของหญิงสาวที่เข้มแข็ง
ย้อนกลับไปในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 Catherine ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกของกลุ่มต่อต้านนาซี และยังถูกจับกุมตัวเข้าค่ายกักกัน แต่ความกล้าหาญจึงทำให้เธอรอดชีวิตมาได้ และกลายเป็นน้องสาวสุดที่รักของพี่ชายอย่าง Christian
น้ำหอม Miss Dior จึงเต็มไปด้วยความหมายที่สื่อออกมาทั้ง ความรัก ความหวัง และน้องสาวผู้ที่อ่อนโยน แต่สุดเข้มแข็งในเวลาเดียวกัน ที่ปรุงออกมาด้วยกลิ่นแนว Chypre Floral ที่มีกลิ่นของไม้และมอส ผสมกับกลิ่นดอกไม้แบบหวานๆ ทำให้เกิดเป็นกลิ่นที่มีเสน่ห์ และถือว่า ทันสมัยมากๆ ในยุคนั้น
ปัจจุบัน Miss Dior รุ่นแรกเริ่มได้ยุติการผลิตไปแล้ว แต่ยังคงมีการคิดค้นกลิ่นใหม่ และใช้ของ Miss Dior อยู่ เช่น Miss Dior Chérie (2005), Miss Dior Blooming Bouquet (2014) และ Miss Dior Eau de Parfum (2021)

L'Air du Temps อิสระภาพหลังสงคราม
L'Air du Temps (แอร์ ดู เทมส์) น้ำหอมจากแบรนด์แฟชั่นหรู “Nina Ricci” ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นน้ำหอมแห่งเสรีภาพ เปิดตัวในปี 1948 หลังจากจบสิ้นสงครามโลกครั้งที่ 2 โดย Robert Ricci ลูกชายของ Maria “Nina” Ricci อยากสร้างน้ำหอมที่เป็นตัวแทน “ความสวยงาม ความหวัง และสันติภาพ”
L'Air du Temps เป็นน้ำหอมที่มีกลิ่นแนว Floral-Spicy เป็นกลิ่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยการผสมผสานระหว่างกลิ่นดอกไม้และกลิ่นเครื่องเทศ ที่มีความหอมหวาน โรแมนติก ผสมกับความอบอุ่น เผ็ดร้อน และมีพลัง
แต่สิ่งที่ทำให้ L'Air du Temps เป็นตำนาน คือ ดีไซน์ของขวดน้ำหอม ที่มีฝาปิดรูปนกพิราบ 2 ตัว กำลังบินโอบล้อมกัน ซึ่งสื่อความหมายถึงความสันติ ความรัก และอิสรภาพ และยังเป็นน้ำหอมที่ Madonna หนึ่งในราชินีเพลงป๊อป ได้เลือกฉีดเพิ่มความหอมให้กับตัวเธอ
และแม้จะผ่านเวลาไปกว่า 70 ปี แล้ว L'Air du Temps ก็ยังคงปรับปรุงกลิ่นออกมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับการวางจำหน่ายกลิ่นดั้งเดิมด้วย

Shalimar กลิ่นจากตำนานรักนิรันดร์
Shalimar ชื่อของน้ำหอมที่มาจากชื่อ “สวน Shalimar” ตั้งอยู่ในเมืองลาฮอร์ ประเทศปากีสถาน โดย Guerlain แบรนด์น้ำหอมสุดหรูจากฝรั่งเศสได้เปิดตัวน้ำหอมกลิ่นนี้ในปี 1925
“Jacques Guerlain” ผู้ที่สร้างสรรค์น้ำหอมนี้ ได้แรงบันดาลใจจากเรื่องราวความรักที่เป็นตำนานของ “จักรพรรดิชาห์จาฮัน” และ “พระมเหสีมุมตาซ มาฮาล” และเป็นแรงบันดาลใจในการสร้าง “ทัชมาฮาล” สถานที่ที่แสดงถึงความรักนิรันดร์
กลิ่นหอมของ Shalimar เรียกว่า แนว Oriental (Amber) Gourmand ที่ผสมผสานกลิ่นแนวตะวันออกกับกลิ่นหวานๆ ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น และเย้ายวนไปพร้อมๆ กัน จนได้รับการขนานนามว่า “Queen of Oriental Fragrances” หรือ ราชินีแห่งน้ำหอมแนวตะวันออก
รวมเวลากว่า 100 ปี ที่ น้ำหอมกลิ่น Shalimar ยังคงได้รับความนิยมและมีการปรับปรุงพัฒนามาจนถึงปัจจุบัน อย่างเช่น Shalimar Eau de Parfum, Shalimar Souffle de Parfum หรือ Shalimar Parfum Initial
.png)
น้ำหอมระดับตำนานเหล่านี้ ยังคงบอกเล่าเรื่องราวในอดีต ทั้งความรัก ความกล้าหาญ ความทรงจำ และยังคงความเป็นตัวเองได้อย่างสง่างามจนถึงปัจจุบัน ท่ามกลางการเกิดขึ้นของน้ำหอมหลากหลายกลิ่นจากแบรนด์ต่างๆ และนั่นอาจตอกย้ำว่า บางครั้งกลิ่นหอมจากอดีต ก็ทำให้ปัจจุบันของเรางดงามจากความหอมเหล่านี้เพิ่มขึ้นไปอีก
Photo : guerlain / dior / chanel / ninaricci
เรื่อง : Pornthida Jedeepram