เจาะลึกแนวคิด Yukio Akamine บุรุษผู้เชื่อว่า ‘สไตล์คือจิตวิญญาณ’ และแฟชั่นที่ดีเริ่มจากความเข้าใจตนเอง ไม่ใช่แค่เส้นสาย
เมื่อพูดถึงผู้ชายที่แต่งตัวดีที่สุดในโลก ชื่อของ ยูกิโอะ อาคามิเนะ (Yukio Akamine) คือหนึ่งในบุคคลซึ่งสายแฟชั่น Sartorial ที่ทั่วโลกต่างให้ความเคารพ ไม่ใช่เพียงเพราะความพิถีพิถันในการแต่งกาย แต่คือการที่เขาสามารถสื่อสารความเป็นตัวเองผ่านรายละเอียดของเสื้อผ้าอย่างลึกซึ้งและสง่างาม
ล่าสุดกับการที่เขาได้เดินทางมาที่ประเทศไทย เรื่องราวปรัชญาและมุมมองของ ยูกิโอะ อาคามิเนะ ถูกนำเสนอผ่านงาน Urban Dude x Akamine: A Journey of Style & Craft โดย Urban Dude แบรนด์ชุดสูทสัญชาติไทยที่เชื่อในพลังของ Bespoke ซึ่งได้เชิญเขามาร่วมถ่ายทอดแนวคิดแห่งการแต่งกายที่สะท้อนจิตวิญญาณและความหมายของการเป็นสุภาพบุรุษอย่างแท้จริง
สำหรับ ยูกิโอะ อาคามิเนะ เขาบอกว่า สไตล์ไม่ใช่แค่เครื่องแต่งกาย แต่คือ "ภาษาที่บอกเล่าตัวตน ความคิด และประวัติศาสตร์" ทุกสีมีความงามในตัวเอง ทุกเนื้อผ้ามีบทสนทนาในแบบเฉพาะตัว ซึ่งเขาเชื่อว่า เสื้อผ้าที่ดีไม่เพียงต้องสวย แต่ต้องกลมกลืนกับร่างกาย ฤดูกาล และบริบทของชีวิต
"สไตล์คือภาพสะท้อนของจิตวิญญาณ และเป็นสิ่งที่อยู่เหนือยุคสมัย" อาคามิเนะ กล่าวไว้อย่างเรียบง่ายแต่ทรงพลัง
ปรัชญาการแต่งตัวของเขาหยั่งรากลึกอยู่บนวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่ให้ความสำคัญกับความเรียบง่าย ความเคารพต่อธรรมชาติ และความใส่ใจในรายละเอียด แม้แต่จังหวะการเดิน การพับผ้า หรือการรีดเสื้อ ล้วนเป็นองค์ประกอบของความงาม
ด้วยสายตาของผู้เข้าใจชีวิต เขามองว่าสูทที่ดีไม่ได้เริ่มจากสายวัด หากเริ่มจาก “การทำความเข้าใจ ตัวตนของผู้สวมใส่" แล้วถ่ายทอดสิ่งนั้นออกมาเป็นงานฝีมือที่มีชีวิต ไม่ว่าจะเป็นสูท คัตติ้ง หรือเนื้อผ้า ทุกองค์ประกอบคือตัวแทนของความตั้งใจ
อาคามิเนะ ยังให้นิยาม Bespoke ว่า "ไม่ใช่แค่การตัดเย็บตามขนาดตัว แต่คือการออกแบบที่สะท้อนความเป็นตัวคุณ" เขาให้ความสำคัญกับเนื้อผ้าที่เหมาะกับอากาศ ความคล่องตัวของผู้สวมใส่ และความกลมกลืนระหว่างสไตล์กับชีวิตจริง อย่างเช่น ในเมืองไทย เขาแนะนำเนื้อผ้าที่บาง เบา และระบายอากาศได้ดี เช่น ลินิน หรือคอตตอน และเหนือสิ่งอื่นใดเขายังยึดถือคุณค่าของ Craftsmanship ที่ไม่ได้หมายถึงแค่ทักษะทางช่าง แต่รวมถึง "ความตั้งใจ รายละเอียด และคุณค่าที่ส่งต่อได้ข้ามรุ่น"
เขาเชื่อว่า เสื้อผ้าชิ้นหนึ่ง หากถูกออกแบบและดูแลอย่างเข้าใจ จะสามารถอยู่กับเราไปได้อีกนาน แม้ในวันที่เราไม่ได้อยู่แล้วก็ตาม