ลัทธิลึกลับ ความเชื่อศาสนาที่มีอยู่จริง ก่อนถูกถ่ายทอดผ่านโลกสมมติใน ธี่หยด 3

ลัทธิลึกลับ ความเชื่อศาสนาที่มีอยู่จริง ก่อนถูกถ่ายทอดผ่านโลกสมมติใน ธี่หยด 3
ลัทธิลึกลับ ในพล็อตหนังเรื่อง “ธี่หยด 3” จะถูกถ่ายทอดออกมาอย่างไร เมื่อลัทธินี้มีอยู่จริงในสมัยยุคโบราณ

พล็อตเรื่อง “ธี่หยด 3” ถูกปล่อยออกมา ก่อนจะถึงกำหนดฉายในวันที่ 8 ตุลาคม 2568 กับเรื่องราวของตัวเอก “ยักษ์” รับบทโดย “ณเดชน์ คูกิมิยะ” ที่ต้องบุกไปยังหมู่บ้านที่เต็มไปด้วยความสยอง เพื่อตามไปช่วยเหลือน้องสาว หลังถูกกลุ่ม “ลัทธิลึกลับ” จับตัวไป 

แต่ใครจะไปรู้ว่า “ลัทธิลึกลับ” ที่ว่านี้ ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องสมมติ ที่เกิดจากจินตนาการของคนเขียนบทเท่านั้น แต่มีอยู่จริง ในด้านความเชื่อทางศาสนา และอาจไม่ได้ดูน่ากลัวอย่างที่ภาพยนตร์ ธี่หยด 3 ได้ เกริ่นเอาไว้ 

นักประวัติศาสตร์ ได้อธิบายไว้ว่า ลัทธิลึกลับ ในภาษากรีก ถูกใช้คำว่า "mysterion" โดยนักประวัติศาสตร์บางคนคาดว่า อาจเกี่ยวข้องกับคำว่า "myein" ที่สื่อความหมายถึง การรักษาความลับ หรือการปิดตาและเปิดตา เพื่อการรับรู้ถึงความจริงอย่างถ่องแท้

ในอีกมุมหนึ่งได้อธิบายความหมายของ ลัทธิลึกลับ หรือ ศาสนาลึกลับ ว่าเป็นกลุ่มศาสนาในยุคโบราณที่มีพิธีกรรมเฉพาะของตนเอง และบูชาเทพเจ้าเพียงองค์เดียวเท่านั้น มีเพียงบางลัทธิลึกลับที่เปิดโอกาสให้บูชาเทพเจ้าหลายองค์ได้ โดยผู้ที่เข้าร่วมเป็นสมาชิกของลัทธินี้ จะต้องเก็บรักษาความลับเกี่ยวกับพิธีกรรม และข้อมูลต่างๆ ไม่ให้รั่วไหล เพื่อรักษาไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์ของลัทธิ โดยจะต้องผ่านการปฏิญาณตนว่า จะรักษาความลับเมื่อได้เข้าร่วมแล้ว

ความตั้งใจของผู้ที่เข้าร่วมลัทธิลึกลับนี้ พวกเขาหวังว่า จะสามารถใกล้ชิดกับเทพเจ้าที่นับถือได้มากขึ้น และอีกความเชื่อ ยังมีความคล้ายกับศาสนาคริสต์ในยุคแรก อย่าง “การเกิดใหม่” หรือการฟื้นคืนชีพของเทพเจ้าที่เสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งผู้ที่เข้าร่วมพิธีกรรมของลัทธิก็ต่างหวังว่า จะได้รับพลังจากวัฏจักรการตายและการเกิดใหม่นี้มาเป็นของตนเอง 

ความเชื่อข้างต้น นักประวัติศาสตร์ยังมองว่า อาจเป็นความคล้ายกันเพียงเล็กน้อยกับศาสนาคริสต์เท่านั้น และสิ่งที่ต่างกันอย่างเห็นได้ชัด คือ การนับถือเทพเจ้าเพียงองค์เดียว แบบตัดขาดเทพเจ้าองค์อื่นของศาสนาคริสต์ เพราะลัทธิลึกลับ ไม่ได้บังคับว่า ผู้ที่เข้าร่วมจะต้องยึดมั่นในลัทธินี้เพียงอย่างเดียว แต่ให้อิสระในการเข้าร่วมกับลัทธิหลักของศาสนาที่ผู้เข้าร่วมนับถืออยู่ต่อไปได้ เช่นเดียวกับผู้ที่นับถือศาสนากรีก-โรมันในอดีต ที่นับถือลัทธิลึกลับนี้ไว้เป็นส่วนเสริมของกิจกรรมทางศาสนาด้วย

จนเข้าสู่ช่วงปลายสมัยโบราณ เมื่อศาสนาคริสต์ได้เข้ามามีบทบาทและอิทธิพลมากขึ้น ความนิยมในลัทธิลึกลับก็เริ่มถอยลงอย่างเห็นได้ชัด 

ปัจจุบันลัทธิลึกลับ จึงเป็นเพียงร่องรอยในอดีตที่ส่งต่อข้อมูลผ่านหลักฐานที่นักประวัติศาสตร์ได้ค้นพบเท่านั้น แต่ความจริงแท้และข้อมูลลึกๆ อาจไม่มีใครรู้แจ้งเห็นจริงได้ ด้วยการปฏิญาณตนของผู้เข้าร่วมลัทธิที่ไม่แพร่งพรายกิจกรรมของลัทธิให้บุคคลภายนอกได้รับรู้แม้แต่นิดเดียว 

และต้องรอติดตามในภาพยนตร์ “ธี่หยด 3” ว่า กลุ่มลัทธิลึกลับ จะถูกนำเสนอออกมาในรูปแบบใด 

เรื่อง : Pornthida Jedeepram 

TAGS: #Movie #ลัทธิลึกลับ #ธี่หยด3