MAGURO มั่นใจครึ่งหลังปี 68 ฟื้นชัด รับผลบวกไฮซีซั่น-ขยายสาขา ยัน! ไม่กระทบปัจจัยการเมือง

MAGURO มั่นใจครึ่งหลังปี 68 ฟื้นชัด รับผลบวกไฮซีซั่น-ขยายสาขา ยัน! ไม่กระทบปัจจัยการเมือง
MAGURO แย้มผลงาน Q2/68 ใกล้เคียง Q1/68 พร้อมมั่นใจครึ่งหลังปี 68 ฟื้นชัด!! รับผลบวกไฮซีซั่น-ขยายสาขา-เจรจาการค้าสหรัฐฯ ยัน! ไม่กระทบปัจจัยการเมือง

นายจักรกฤติ สายสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท มากุโระ กรุ๊ปจำกัด (มหาชน) หรือ MAGURO เปิดเผยว่า บริษัทฯ แย้มผลงาน Q2/68 ใกล้เคียง Q1/68 และจะฟื้นตัวชัดในช่วงครึ่งหลังของปี 68 นี้ จากการเข้าสู่ช่วยไฮซีซั่นของภาคการท่องเที่ยว ควบคู่กับการขยายสาขาและแบรนด์ใหม่เพิ่มเติม ซึ่งจะช่วยผลักดันรายได้ปีนี้เติบโตตามเป้าหมายที่ 30% พร้อมรักษาระดับกำไรสุทธิปีนี้ให้อยู่ในระดับที่ดี จากการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ

โดยแผนขยายสาขาในช่วงครึ่งหลังปี 68 บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายเพิ่มอีก 8 สาขา แบ่งเป็น แบรนด์ BINCHO จำนวน 1 สาขา ,MAGURO จำนวน 2 สาขา , Tonkatsu AOKI จำนวน 2 สาขา , Hitori Shabu จำนวน 2 สาขา และแบรนด์ใหม่ 1 สาขา ภายในเดือน ส.ค.นี้ รวมถึงปัจจุบันบริษัทฯ อยู่ระหว่างการศึกษาการขยายตลาดไปยังหัวเมืองต่างจังหวัดเพิ่มเติมในแถบโซนทะเล โดยคาดส่งแบรนด์ MAGURO นำร่องรุกตลาดเป็นแบรนด์แรก ส่งผลให้สัดส่วนรายได้ของ MAGURO Group ในอนาคตจะมีการเปลี่ยนแปลงจากเดิมที่แบรนด์ MAGURO มีสัดส่วนรายได้หลักมากถึง 50% 

ส่วนประเด็นความไม่สงบทางการเมือง บริษัทฯ คาดว่าไม่กระทบต่อธุรกิจของบริษัทฯ เนื่องจากเหตุการณ์ไม่สงบทางการเมืองไทยมีมาตลอดอยู่แล้ว กลับกังวลวิกฤตอื่นๆมากกว่า เช่น การแพร่ระบาด หรือสงครามที่อาจกระทบซัพพลายเชนจ์และโลจิสติกส์ เป็นต้น รวมถึงหากรัฐบาลฯ จัดสรรงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจล่าช้า บริษัทฯ มองว่า ไม่ได้คาดหวัง เพราะที่ผ่านมาบริษัทฯ พึ่งพาตนเองมาโดยตลอด สะท้อนจากผลประกอบการที่ผ่านมาของ MAGURO Group ที่ยังเป็นบวกแม่จะเผชิญสถานการณ์วิกฤตต่างๆ

ส่วนการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ บริษัทฯ มองว่าเป็นผลดีต่อบริษัทฯ เนื่องจากสินค้าส่วนใหญ่ที่นำเข้า เป็นวัตุดิบจากญี่ปุ่น เมื่อการเก็บภาษีสินค้านำเข้าสหรัฐฯ เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ซัพพลายเออร์ต้องขยายการส่งออกสินค้าพร้อมให้ส่วนลด ซึ่งมีติดต่อบริษัทฯ เข้ามาหลายเจ้า

ล่าสุดบริษัทฯ เปิดตัวแบรนด์น้องใหม่ BINCHO ร้านอาหารญี่ปุ่นย่างถ่านแบบ ญี่ปุ่นดั่งเดิม ด้วยเตาย่างอิโอริ และโรบาตายากิ ซึ่งเป็น 1 ในกลยุทธ์เพื่อการสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงให้ กับ MAGURO Group ซึ่งจะช่วยเสริมให้ Ecosystem กลุ่มร้านอาหารญี่ปุ่นสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ครอบคลุมหลากหลายเซ็กเม้นท์ คือ MAGURO ร้านอาหารญี่ปุ่นและซูชิ, HITORI Shabu และ HITORI Sukiyaki, AOKI Tonkatsu และ BINCHO ย่างถ่านแบบญี่ปุ่นดั่งเดิม ด้วยจุดเด่นจากแนวคิด“Washoku for now” นำเสนอแก่นแท้ของอาหารญี่ปุ่นแบบดั่งเดิมวิถีชนบท สู่ชีวิตคนเมืองซึ่งมีความพิถีพิถันในทุก องค์ประกอบ ตั้งแต่วัตถุดิบ วิธีการปรุงอาหาร คุณค่าสารอาหารจนถึงการรับประทานอย่างให้เวลา เพื่อต้องการซึมซับรสชาติ และดื่มด่ำประสบการณ์มื้ออาหารในชั่วขณะนั้น ซึ่งเราเล็งเห็นถึงโอกาสในการสร้างจุดขายที่โดดเด่นและแตกต่าง แม้ว่าสถานการณ์ธุรกิจร้านอาหารโดยรวมในปี 2568 จะเติบโตไม่มาก 

โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์ว่า มูลค่าตลาดร้านอาหารรวมจะอยู่ที่ประมาณ 646,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.8% จากปีก่อนหน้า ซึ่งถือเป็นอัตราการขยายตัวที่ใกล้เคียงกับ GDP ของประเทศ และยังกล่าวถึง5 ปัจจัย ที่เป็นมาตรฐานใหม่ของผู้บริโภคในปัจจุบันสำหรับธุรกิจอาหาร ได้แก่ ความแปลกใหม่ ประสบการณ์ คุณภาพ สุขภาพ ราคาสมเหตุสมผล จึงทำให้มั่นใจว่า BINCHO จะสามารถนำเสนอประสบการณ์มื้ออาหารที่ตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคในปัจจุบัน โดยเฉพาะกลุ่มMid Market ที่ชื่นชอบอาหารอร่อย แปลกใหม่และคุ้มค่า เหมาะสมในทุกองค์ประกอบอย่างครบถ้วนทุกปัจจัย

นายธีรภพ กรานเลิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการตลาด บริษัท มากุโระ กรุ๊ปจำกัด (มหาชน) หรือ MAGURO เผยว่า BINCHO ร้านอาหารญี่ปุ่นย่างถ่านแบบญี่ปุ่นดั่งเดิม สาขา เมกาบางนา มีไฮไลต์สำคัญอยู่ที่การนำเสนอเมนูอาหารด้วยวิถีแห่ง Washoku ที่เน้นความพิถีพิถันในทุก รายละเอียด ซึ่งอาหารทุกจานจากวัตถุดิบหลัก อาทิ ไก่ หมู เนื้อวัว และอื่นๆ โดยเฉพาะปลา ที่คัดสรรปลา พิเศษนำเข้าจากญี่ปุ่น นำมาย่างบนถ่านบินโชตัน ถ่านไม้คุณภาพสูงจากประเทศญี่ปุ่น ที่ไร้ควันและมีกลิ่นหอมบาง ๆ ย่างด้วยไฟอย่างไม่รีบเร่ง ใช้อุณหภูมิที่แม่นยำทุกองศา โดยใช้เตาระบบย่างคู่ ของญี่ปุ่น 2 ชนิด ได้แก่ “อิโอริ” และ “โรบาตะยากิ” ช่วยเผยรสชาติของวัตถุดิบออกมาทีละชั้น

และใช้ข้าว Yumepirika สายพันธุ์ดีจากฮอกไกโด หุงสดใหม่ด้วยหม้อฮากามะแบบดั่งเดิม ทุกเมล็ดผ่านการควบคุมอุณหภูมิอย่างแม่นยำ เพื่อให้ได้สัมผัสที่นุ่มเหนียว เรียงตัวสวย และได้ความหวาน จากธรรมชาติ พร้อมน้ำซุปรสกลมกล่อม และเครื่องเคียงแบบญี่ปุ่นดั่งเดิม ผลิตแบบโฮมเมด ด้วยการนำ พืชผลผลิตตามฤดูกาลมาปรุงรส จัดเสิร์ฟในรูปแบบ “เทโชกุ”  คืออาหารเซ็ตแบบญี่ปุ่นดั่งเดิม จัดวางด้วย ความพอดีในทุกมิติ ทั้งรสชาติ กลิ่นและรสสัมผัสอย่างสมดุล ในราคาคุ้มค่าที่เข้าถึงง่ายสำหรับทุกคน ตอบโจทย์ในการเป็นมื้ออาหารสำหรับผู้บริโภคที่ต้องการควบคุมค่าใช้จ่าย และสามารถกลับมาทานซ้ำ ได้บ่อยครั้ง ซึ่งศูนย์การค้าเมกาบางนาเป็นหนึ่งในศูนย์กลางย่านเศรษฐกิจและไลฟ์สไตล์ สำหรับกลุ่ม ผู้บริโภคในพื้นที่โซนนอกเมืองฝั่งตะวันออก รวมถึงรองรับจังหวัดหัวเมืองสำคัญที่อยู่ใกล้เคียงอย่าง ฉะเชิงเทรา และชลบุรี จึงนับว่าเป็นโอกาสในการขยายฐานกลุ่มลูกค้า สร้างยอดขายได้มากขึ้น

BINCHO ร้านอาหารญี่ปุ่นย่างถ่านแบบญี่ปุ่นดั่งเดิม สาขาเมกาบางนา ตั้งอยู่บริเวณ ชั้น1 ศูนย์การค้า เมกาบางนา พร้อมเสิร์ฟความประทับใจด้วยเมนูพิเศษที่ห้ามพลาด ได้แก่ ปลาKinki ย่าง ปลาพรีเมียมจากญี่ปุ่น ที่มีรสหวานตามธรรมชาติ ย่างด้วยไฟถ่านจนหนังกรอบเนื้อนุ่มละลายในปาก  ปลาบู่ย่างซอสไซเกียว ที่หมักด้วยซอสไซเกียวสูตรพิเศษ ก่อนนำมาย่างบนถ่าน แซลมอนย่างเกลือและอิกุระ แซลมอนย่างหนังกรอบ เสิร์ฟพร้อมไข่ปลาอิกุระเค็มละมุน โดยอาหารเมนูเซ็ตราคาเริ่มต้นเพียง 170บาท นอกจากนี้ยังมีเมนู Yakitori เมนูย่างเสียบไม้ที่เรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยศิลปะ และวัตถุดิบถูกเลือก ด้วยความเข้าใจทุกไม้ พร้อมนำมาย่างด้วยไฟที่พอดี เริ่มต้นเพียงไม้ละ 30 บาท โอเด้งและอาหาร ว่างทานเล่นอีกหลากหลายเมนู

เปิดประสบการณ์ความอร่อยจากแก่นแท้แห่งรสชาติ Bincho ร้านอาหารญี่ปุ่นย่างถ่านแบบญี่ปุ่นดั่งเดิม สาขาแรก ณ ชั้น 1ศูนย์การค้า เมกาบางนา พร้อมเปิดให้บริการอย่างเป็น ทางการ วันที่ 9 ก.ค. 2568 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม ทาง Facebook https://www.facebook.com/bincho.washoku

TAGS: #MAGURO #BINCHO #หุ้น #รัฐบาล #การเมือง #เจรจาการค้า #สหรัฐฯ #ทรัมป์