โบรกฯ ชี้เงินบาทอ่อนค่าสุดในรอบ 1 เดือน SET ต่ำสุดรอบกว่า 2 เดือนครึ่ง

โบรกฯ ชี้เงินบาทอ่อนค่าสุดในรอบ 1 เดือน SET ต่ำสุดรอบกว่า 2 เดือนครึ่ง
KResearch ชี้เงินบาทอ่อนค่าสุดในรอบ 1 เดือน ส่วนตลาดหุ้นไทนต่ำสุดรอบกว่า 2 เดือนครึ่ง แนะจับตาการประชุมกนง.-ตัวเลขเศรษฐกิจในช่วงสัปดาห์หน้า

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย หรือ KResearch เปิดเผยว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบประมาณ 1 เดือนท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับประเด็นทางการเมืองภายในประเทศ ขณะที่ เงินดอลลาร์ฯ แข็งค่าหลังเฟดส่งสัญญาณไม่รีบลดดอกเบี้ย ทั้งนี้เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบอ่อนค่าเกือบตลอดสัปดาห์สอดคล้องกับแรงขายสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติ ประกอบกับมีปัจจัยลบเพิ่มเติมจากประเด็นทางการเมืองภายในประเทศ 

ขณะที่ เงินดอลลาร์ฯ มีแรงหนุนจากความกังวลต่อสถานการณ์ตึงเครียดที่ลากยาวต่อเนื่องระหว่างอิหร่านและอิสราเอล และสัญญาณจากประธานเฟดที่สะท้อนว่า เฟดอยู่ระหว่างรอประเมินผลกระทบจากภาษี และยังไม่รีบปรับลดดอกเบี้ย พร้อมคาดการณ์ตัวเลขเงินเฟ้อและ dot plot ใหม่ของเฟด ยังบ่งชี้ว่า เฟดมีแนวโน้มลดจำนวนรอบของการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงในปีหน้า 

ทั้งนี้ เงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบประมาณ 1 เดือน (นับตั้งแต่ 22 พ.ค. 2568) ที่ 32.94 ก่อนจะฟื้นตัวกลับมาตามภาพรวมสกุลเงินเอเชียอื่น ๆ ช่วงท้ายสัปดาห์ หลังมีรายงานข่าวว่า ปธน. โดนัลด์ ทรัมป์ ตัดสินใจเลื่อนการตัดสินใจเกี่ยวกับการเข้าแทรกแซงทางทหารของสหรัฐฯ ในความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและอิหร่านออกไป

ด้าน KBank คาดการณ์เงินบาทสัปดาห์หน้า (วันที่ 23-27 มิ.ย. 68) เคลื่อนไหวในกรอบ 32.40-33.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ ปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลการประชุม กนง. ปัจจัยการเมืองในประเทศ ฟันด์โฟลว์ของต่างชาติ ทิศทางราคาทองคำในตลาดโลก สัญญาณการเจรจาการค้าของสหรัฐฯ และคู่ค้า สถานการณ์ระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน ดัชนีราคา PCE/Core PCE เดือนพ.ค. และตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/2568 (final) ของสหรัฐฯ ตลอดจนดัชนี PMI (เบื้องต้น) เดือนมิ.ย. ของสหรัฐฯ ญี่ปุ่น ยูโรโซน และอังกฤษ

ส่วนดัชนีหุ้นไทยสัปดาห์ที่ผ่านมาร่วงลงแรงจากสัปดาห์ก่อนท่ามกลางความกังวลต่อประเด็นการเมืองในประเทศ ทั้งนี้ดัชนีหุ้นไทยย่อตัวลงในช่วงต้นสัปดาห์โดยมีข่าวลบจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน รวมถึงแรงขายหุ้นบริษัทผู้ประกอบธุรกิจท่าอากาศยานจากประเด็นคู่ค้าขอยกเลิกสัญญาสัมปทานดิวตี้ฟรี อย่างไรก็ดี แรงซื้อหุ้นบริษัทด้านพลังงานรายใหญ่แห่งหนึ่งช่วยจำกัดช่วงลบของตลาดไว้ได้บางส่วน 

รวมถึงดัชนีหุ้นไทยร่วงลงแรงอีกครั้งตั้งแต่ช่วงกลางสัปดาห์ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพของรัฐบาลหลังมีรายงานข่าวเกี่ยวกับความขัดแย้งภายในพรรคร่วมรัฐบาล ผนวกกับความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชา นอกจากนี้ สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางระหว่างอิสราเอลและอิหร่านที่ยังคงไม่คลี่คลายก็เป็นอีกปัจจัยที่กดดันบรรยากาศการลงทุนของตลาดหุ้นไทยและตลาดหุ้นภูมิภาคด้วยเช่นกัน โดยปัจจัยลบดังกล่าวส่งผลให้เกิดแรงเทขายหุ้นทุกกลุ่ม 

อย่างไรก็ดี ดัชนีหุ้นไทยลดช่วงลบลงในช่วงปลายสัปดาห์ หลังจากร่วงลงไปแตะจุดต่ำสุดในรอบกว่า 2 เดือนครึ่งที่ 1,066.02 จุด โดยหลักๆ มีแรงซื้อหุ้นกลุ่มแบงก์เข้ามาช่วยประคอง

โดย KSecurities คาดการณ์ดัชนีตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้า (วันที่ 23-27 มิ.ย.68) เคลื่อนไหวในกรอบแนวรับที่ 1,050 และ 1,020 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,080 และ 1,100 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประชุมกนง. ประเด็นเกี่ยวกับนโยบายภาษีของสหรัฐฯ สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง สถานการณ์การเมืองในประเทศ ทิศทางเงินทุนต่างชาติ ดัชนี PCE/Core PCE Price Index เดือนพ.ค. และจีดีพีไตรมาส 1/2568 (final) ของสหรัฐฯ ตลอดจนดัชนี PMI เดือนมิ.ย. (เบื้องต้น) ของสหรัฐฯ ญี่ปุ่น ยูโรโซน และอังกฤษ

TAGS: #SET #หุ้น #หุ้นไทย #ตลาดหุ้น #เงินบาท