‘สภาทองคำโลก’ มองดีมานด์ทองคำปี 67 สดใส หลังแบงก์ชาติทั่วโลกแห่ตุนทองคำ และคาดว่าจะซื้อเข้าสู่ระบบทุนสำรองอีก 24% ในอีก 12 เดือนข้างหน้า
สภาทองคำโลก (WGC) เปิดเผยรายงานแนวโน้มตลาดทองคำสำหรับปี 2567 (Gold Outlook 2024) โดยระบุว่าความต้องการทองคำในตลาดโลกมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นในปี 2567 เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ในหลายประเทศจะเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย นอกจากนี้ WGC คาดการณ์ว่าธนาคารกลางทั่วโลกจะเดินหน้าซื้อทองคำเข้าสู่ระบบทุนสำรอง ซึ่งจะเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนราคาทองคำ
"มีสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจในหลายประเทศอาจจะชะลอตัวลงอย่างค่อยเป็นค่อยไปหรือซอฟต์แลนดิ้ง แต่ก็ยังมีความเป็นไปว่าเศรษฐกิจโลกจะเผชิญภาวะถดถอย ซึ่งจะทำให้นักลงทุนเลือกถือครองทองคำเพื่อลดความเสี่ยงนอกจากนี้ สถานการณ์ตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศที่กำลังจะมีการเลือกตั้งในปีหน้า ซึ่งรวมถึงสหรัฐ, สหภาพยุโรป (EU), อินเดีย และไต้หวัน จะเป็นปัจจัยกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพื่อลดความเสี่ยงเช่นกัน"
"เช่นเดียวกับในปี 2566 ที่ความต้องการทองคำทั่วโลกพุ่งขึ้นหลังจากการล่มสลายของธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ในสหรัฐ และสงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส โดยเราประมาณการเบื้องต้นว่าสถานการณ์เหล่านี้ทำให้ราคาทองคำในตลาดโลกปี 2566 เพิ่มขึ้นประมาณ 3% - 6%" WGC ระบุ
ทั้งนี้ WGC ยังระบุด้วยว่า ธนาคารกลางทั่วโลกได้เข้าซื้อทองคำเพิ่มในระบบทุนสำรองในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และเข้าซื้อต่อเนื่องในปี 2566 เราคาดว่าธนาคารกลางจะเดินหน้าซื้อทองคำต่อไปในปี 2567 โดยผลสำรวจล่าสุดของ WGC พบว่า ธนาคารกลางทั่วโลกจะซื้อทองคำเข้าสู่ระบบทุนสำรองอีก 24% ในช่วง 12 เดือนข้างหน้า