ส่งออก-ยอดขายฟื้นหนุนยอดผลิตรถ 5 เดือนแรกทะลุ 7.7 แสนคัน

ส่งออก-ยอดขายฟื้นหนุนยอดผลิตรถ 5 เดือนแรกทะลุ 7.7 แสนคัน
ส.อ.ท.ยังคงเป้าผลิตรถยนต์ปีนี้ 1.95 ล้านคันหลังทิศทางส่งออกเริ่มฟื้นตัวขณะที่ยอดขายในประเทศภาพรวมแม้เพิ่มขึ้นแต่กลุ่มรถกระบะยังเผชิญกับกฏเหล็ก

นายสุรพงษ์  ไพสิฐพัฒนพงษ์  รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงการผลิตรถยนต์ทั้งหมดในเดือนพ.ค. 2566 มีทั้งสิ้น 150,532 คัน เพิ่มขึ้นเทียบจากปีก่อนร้อยละ 16.48 เนื่องจากการผลิตส่งออกและผลิตขายในประเทศทั้งรถยนต์นั่งและรถกระบะเพิ่มขึ้นจากฐานต่ำของปีก่อนผลจากขาดแคลนชิปจากสงครามยูเครนและการระบาดของโควิด - 19 ในประเทศจีน และเพิ่มขึ้นจากเดือนเม.ย. 2566 ร้อยละ 27.96 โดยในช่วง 5 เดือนแรกมียอดผลิต 775,955 คัน เพิ่มขึ้น ร้อยละ 6.72 จากปีก่อน

ทั้งนี้ยังคงเป้าหมายการผลิตทั้งปี 2566 อยู่ที่ 1.95 ล้านคันแบ่งเป็นการผลิตเพื่อการส่งออก  1.05 ล้านคันและผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศที่ 9 แสนคัน

 

ด้านยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนพ.ค. มีจำนวนทั้งสิ้น 65,088 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2566 ร้อยละ 9.34 และเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว ร้อยละ 0.55 เพราะรถยนต์นั่งที่เติบโตถึงร้อยละ 29.4 จากฐานต่ำในเดือนเดียวกันของปีที่แล้วจากการขาดชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์เพราะสงครามยูเครนและการล็อกดาวน์ของประเทศจีนจากโควิด - 19

ขณะที่รถกระบะยังคงลดลงร้อยละ 23.3 จากการเข้มงวดของสถาบันการเงิน โดยในช่วง 5 เดือนแรก มียอดขาย 341,691 คัน ลดลงจากปี 2565 ในระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 4.91

 

ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 184,091 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2565 ร้อยละ 48.51 แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคม 2565 ร้อยละ 13.39  โดย 5 เดือนแรกรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 814,616 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – พฤษภาคม 2565 ร้อยละ 11.23

 

 “ยอดขายรถยนต์ยังไม่ฟื้นตัวดีนัก โดยเฉพาะรถกระบะยังมีจำนวนลดลง เนื่องจากสถาบันการเงินเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ เพราะหนี้ครัวเรือนของไทยยังสูงทั้งจากราคาสินค้า ประกอบกับอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น และความไม่แน่นอนทางการเมืองแต่หวังว่าเมื่อการเมืองเริ่มชัดและจัดตั้งได้ก็น่าจะทยอยดีขึ้นในครึ่งปีหลัง”

 

สำหรับการผลิตรถยนต์เพื่อส่งออก เดือนพ.ค. มีจำนวน 89,709 คัน เท่ากับร้อยละ 59.59 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนพ.ค. 2565 ร้อยละ 23.46   โดย 5 เดือนแรก ผลิตเพื่อส่งออกได้ 445,746 คัน เท่ากับร้อยละ 57.44 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 13.63

ส่วนการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เดือนพ.ค. จำนวน 86,358 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนที่แล้วร้อยละ 8.03 และเพิ่มขึ้นจากเดือนพ.ค. 2565 ร้อยละ 12.25 เพราะฐานต่ำปีที่แล้วจากการขาดแคลนชิป จึงส่งออกเพิ่มขึ้นเกือบทุกตลาดยกเว้นตลาดออสเตรเลียที่เข้มงวดเรื่องพันธุ์พืช แมลง และดินโครนที่ติดไปกับรถ ทำให้ท่าเรือแออัดขับรถขึ้นท่าเรือไม่ได้จนกว่าจะล้างสิ่งปนเปื้อนดังกล่าวที่ติดมากับรถยนต์ออกหมด เรือกลับมาบรรทุกรถยนต์ล่าช้า มูลค่าการส่งออก 54,969.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนพ.ค.ปีก่อน ร้อยละ 18.91  โดย 5 เดือนแรกส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 439,990 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ในระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 17.09 มีมูลค่าการส่งออก 273,255.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้น ร้อยละ 22.06

นายสุรพงษ์  กล่าวถึงยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท BEV เดือนพ.ค. มีจำนวน 7,132 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคมปีที่แล้วร้อยละ 355.14 ภาพรวม 5 เดือนมียอดจดทะเบียนใหม่ 33,365 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 485.15  ขณะที่ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท HEV เดือนพ.ค. 2566 มียอดทะเบียนใหม่มีจำนวน 8,013 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคมปีที่แล้วร้อยละ 49.44  และ ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท PHEV มียอดจดทะเบียนใหม่มีจำนวน 1,025 คัน ลดลงร้อยละ 2.94

 

TAGS: #ยอดผลิตรถยนต์ #ส่งออกรถยนต์ #ยานยนต์ไฟฟ้า