รู้ทันความเครียด! เสริมสร้างสุขภาพจิต พร้อมวิธีรับมือ “ภาวะหมดไฟ” จากผู้เชี่ยวชาญ

รู้ทันความเครียด! เสริมสร้างสุขภาพจิต พร้อมวิธีรับมือ “ภาวะหมดไฟ” จากผู้เชี่ยวชาญ
“เครียดสะสมจนหมดไฟ” ต้องรู้ทัน! ลองปรับชีวิตตามคำแนะนำจากแพทย์และศิลปินชื่อดังในงานเสวนาที่ช่วยให้ทุกคนกลับมามีสุขภาพจิตดี

ในยุคที่ความเครียดจากการทำงานกลายเป็นเรื่องปกติ “งานหนักไม่เคยฆ่าใคร” อาจไม่ใช่คำตอบอีกต่อไป ความเครียดที่สะสมจากการทำงานสามารถกลายเป็นภัยเงียบที่ทำลายสุขภาพทั้งกายและใจ หากปล่อยไว้ อาจพัฒนาไปสู่ภาวะ “หมดไฟ” ที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตทั้งส่วนตัวและการงานได้อย่างรุนแรง

เพื่อตอบโจทย์การดูแลสุขภาพกายและใจ ALive Powered by AIA และ โรงพยาบาลวิมุต จัดเวทีเสวนา Stress Less, Happy More ที่เจาะลึกปัญหาความเครียด พร้อมแนะนำวิธีรับมือโดยมี พญ.เพ็ญชาญา อติวรรณาพัฒน์ แพทย์จิตเวชจากโรงพยาบาลวิมุต และสองศิลปินชื่อดัง “เขื่อน” ภัทรดนัย และ “มิกซ์” เฉลิมศรี ร่วมแชร์เคล็ดลับการจัดการความเครียด เพื่อให้ทุกคนกลับมามีชีวิตที่แฮปปี้และสุขภาพดีอีกครั้ง

รู้ทันความเครียด ทำไม “งานยุคใหม่” ทำให้เราป่วยใจ

ความเครียดในโลกการทำงานสมัยใหม่มีแนวโน้มสูงขึ้น จากการที่เทคโนโลยีและการเชื่อมต่อออนไลน์ทำให้เส้นแบ่งระหว่างการทำงานและเวลาส่วนตัวหายไป หลายคนไม่รู้ตัวว่าพกพาความเครียดกลับบ้าน ส่งผลให้ร่างกายอยู่ในโหมดเตรียมพร้อมตลอดเวลา (Fight or Flight Response) การหลั่งฮอร์โมน Adrenaline และ Cortisol ยาวนานส่งผลให้เกิดอาการสมองล้า ตัดสินใจช้า อารมณ์หงุดหงิดง่าย และอาการทางกายอย่างไมเกรนหรือปวดเมื่อยเรื้อรัง

เช็กด่วน! คุณกำลัง “เครียดสะสม” จนเป็น “ภาวะหมดไฟ” หรือเปล่า?

พญ.เพ็ญชาญา อติวรรณาพัฒน์ อธิบายว่า ภาวะ “หมดไฟ” (Burnout) เป็นผลจากความเครียดที่สะสมในระยะยาว โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุ 3 สัญญาณเตือนสำคัญ ได้แก่

  1. ความเหนื่อยล้าทางจิตใจและร่างกาย แม้ว่าจะพักผ่อนมากแค่ไหนก็ยังรู้สึกเหนื่อย

  2. ทัศนคติที่เปลี่ยนไป รู้สึกห่างเหินจากงานและเพื่อนร่วมงาน

  3. ประสิทธิภาพการทำงานลดลง เกิดการผัดวันประกันพรุ่ง และความมั่นใจหดหาย

หากมีอาการเหล่านี้ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาวิธีดูแลสุขภาพจิตที่เหมาะสม โดยเฉพาะกลุ่มคนที่มีลักษณะเป็น “Perfectionist” ซึ่งมักแบกรับความคาดหวังเกินตัว จนเกิดความเครียดสะสมโดยไม่รู้ตัว

หยุดวงจรเครียดสะสม! ปรับไลฟ์สไตล์ป้องกัน “ภาวะหมดไฟ”

การลดความเครียดเริ่มจากการปรับสมดุลระหว่างงานและชีวิตส่วนตัว เช่น จำกัดชั่วโมงทำงาน หลีกเลี่ยงการทำงานเกินเวลา และให้ความสำคัญกับการพักผ่อนอย่างเพียงพอ อีกทั้งยังควรหาวิธีผ่อนคลายที่เหมาะสมกับตัวเอง เช่น การออกกำลังกาย หรือการพูดคุยระบายความรู้สึกกับคนที่ไว้ใจ หากปรับแล้วยังไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยา

วิธีรับมือความเครียดฉบับ “เขื่อน-มิกซ์” ที่ทำตามได้ทุกคน

ในงานเสวนา Stress Less, Happy More ทั้ง “เขื่อน” ภัทรดนัย และ “มิกซ์” เฉลิมศรี ได้มาแชร์ประสบการณ์การจัดการความเครียดในชีวิตประจำวัน โดย “เขื่อน” แนะนำว่า การรู้เท่าทันอารมณ์เป็นสิ่งสำคัญ หากเครียดก็จัดการให้จบที่ตัวเอง ไม่ให้ความเครียดควบคุมตัวเรา ขณะที่ “มิกซ์” เน้นย้ำว่า การซื่อสัตย์กับความรู้สึกตัวเองเป็นสิ่งที่สำคัญ หากรู้สึกเครียดก็ยอมรับมัน และหาวิธีผ่อนคลายที่ชอบ เพื่อให้สุขภาพจิตฟื้นฟูกลับมา

พญ.เพ็ญชาญา กล่าวทิ้งท้ายว่า “ความเครียดเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ในชีวิต แต่หากรู้สึกว่าไม่ไหวแล้วจริง ๆ ก็อย่าลังเลที่จะขอคำปรึกษาจากแพทย์ เพราะการดูแลจิตใจเป็นสิ่งสำคัญในการกลับมามีความสุขและมีพลังอีกครั้ง”

ติดต่อปรึกษาแพทย์โรงพยาบาลวิมุต
หากคุณต้องการปรึกษาแพทย์ สามารถนัดหมายได้ที่ศูนย์สุขภาพใจ ชั้น 18 โรงพยาบาลวิมุต โทร. 02-079-0078 หรือดาวน์โหลด ViMUT Application เพื่อใช้บริการปรึกษาหมอออนไลน์ และนัดหมายแพทย์ได้สะดวกยิ่งขึ้น

TAGS: #เครียดสะสม #ภาวะหมดไฟ #สุขภาพจิต #HappyMoreStressLess