GGC เร่งทรานส์ฟอร์มธุรกิจสู่เคมีชีวภาพเต็มรูปแบบ เดินหน้าขยายผลิตภัณฑ์มูลค่าสูงรับอนาคต

GGC เร่งทรานส์ฟอร์มธุรกิจสู่เคมีชีวภาพเต็มรูปแบบ เดินหน้าขยายผลิตภัณฑ์มูลค่าสูงรับอนาคต
GGC ชูยุทธศาสตร์ “Transformation for Future Growth” ลุยปรับโครงสร้างจาก BioEnergy สู่ BioChemicals พร้อมดันผลิตภัณฑ์ HVP เพิ่มศักยภาพแข่งขันในตลาดโลก มั่นใจสร้างการเติบโตยั่งยืนระยะยาว

นายกฤษฎา ประเสริฐสุโข กรรมการผู้จัดการ  พร้อมด้วย นายปิยะ สุริย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานพาณิชยกิจ  นางสาวพรสุข ลิ้มสถิตย์ ผู้จัดการฝ่ายหน่วยงานการเงินและบัญชี  และนางสาวผกาวัลย์ กมลชัยวานิช ผู้จัดการฝ่ายหน่วยงานกลยุทธ์องค์กรและความยั่งยืน บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC ร่วมนำเสนอข้อมูลแก่ผู้ลงทุนในงาน Opportunity Day โดยย้ำว่าบริษัทยังคงเดินหน้าพาธุรกิจก้าวสู่อนาคตตามยุทธศาสตร์ Transformation for Future Growth ภายใต้ 3 กลยุทธ์หลัก “เข้มแข็ง–เติบโต–ยั่งยืน” เพื่อให้สอดรับกับภูมิทัศน์ทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งด้านเศรษฐกิจโลก ความผันผวนของตลาด และกฎระเบียบใหม่ ๆ รวมถึงปัจจัยภายในประเทศ

GGC เผยว่าได้ปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งใหญ่ โดยเร่งขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านจากกลุ่มพลังงานชีวภาพ (BioEnergy) ไปสู่ธุรกิจเคมีชีวภาพ (BioChemicals) และผลิตภัณฑ์เคมีชีวภาพชนิดพิเศษที่มีมูลค่าเพิ่ม พร้อมกำหนดทิศทางองค์กรใหม่ให้ชัดเจน ผ่าน 3 แนวทางสำคัญ ได้แก่

  1. Portfolio Transformation – ปรับธุรกิจ BioEnergy สู่ BioChemicals

  2. ขยายกำลังการผลิต ปูทางสู่การเติบโตในกลุ่ม BioChemicals

  3. เติบโตในกลุ่ม Specialty ด้วยกลยุทธ์ Asset Light

สำหรับแผนการดำเนินงาน GGC แบ่งออกเป็น 2 ระยะ ได้แก่
ระยะสั้น (ปี 2569–2571): เดินหน้าปรับโครงสร้างธุรกิจ BioEnergy เพื่อรับมือความผันผวนสูงในตลาดเชื้อเพลิงชีวภาพ และเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน
ระยะยาว (ปี 2572 เป็นต้นไป): มุ่งขยายฐานธุรกิจเคมีชีวภาพพื้นฐานและผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง (HVP) โดยใช้ความได้เปรียบสำคัญจากการเป็นผู้ผลิตแฟตตี้แอลกอฮอล์รายเดียวในไทย และความเชื่อมโยงใน Value Chain ของกลุ่ม GC ซึ่งสนับสนุนศักยภาพการแข่งขันในตลาดสากล

ด้านผลการดำเนินงานช่วง 9 เดือนแรกปี 2568 ของ 3 กลุ่มธุรกิจหลัก มีทิศทางดังนี้

  1. เมทิลเอสเทอร์ (ME): ราคาน้ำมันปาล์มดิบขยับขึ้น 4% ตามตลาดโลก ขณะที่ความต้องการในประเทศลดลงจากนโยบาย B5 ที่ยังไม่ปรับเพิ่มเหมือนปีก่อน

  2. แฟตตี้แอลกอฮอล์ (FA): ราคาวัตถุดิบ CPKO พุ่งกว่า 41% จากอุปทานตึงตัว แม้ราคาผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้นตาม แต่เศรษฐกิจโลกที่ถูกกดดันจากสงครามการค้าและมาตรการภาษีตอบโต้ยังทำให้ผู้ซื้อระมัดระวัง

  3. กลีเซอรีน (RGL): ผลประกอบการดีขึ้นตามราคาขายที่ปรับตัวสูงขึ้น

นายกฤษฎา กล่าวสรุปว่า GGC มั่นใจว่าการเดินหน้าตามยุทธศาสตร์และกลยุทธ์หลัก รวมถึงการขยายสู่ผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง จะเสริมศักยภาพการแข่งขันและสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ขององค์กร “To Be a Leading Green Chemical Company by Creating Sustainable Value” มุ่งเป็นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์เคมีเพื่อสิ่งแวดล้อม พร้อมสร้างสรรค์คุณค่าที่ยั่งยืนต่อไป.

 
TAGS: #GGC #GreenChemical #BioChemicals