รมว.พาณิชย์ หารือผู้ประกอบการไทยในสหรัฐฯ รับฟังปัญหาภาษีนำเข้า-ส่งออก ย้ำเดินหน้าผลักดันไทยเป็น “Food Security Hub”
นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เผยภายหลังนำคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ อาทิ น.ส.สุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เข้าหารือกับผู้บริหารภาคเอกชนไทยรายใหญ่ที่ดำเนินธุรกิจในสหรัฐอเมริกา ณ โรงแรม Sofitel Los Angeles at Beverly Hills
ผู้ประกอบการไทยที่เข้าร่วม เช่น CP North America, Best Oriental Produce, Inc., Sun Lee, Inc., Land and Houses USA, Inc., SCG International USA, Inc. และ AS World USA LLC ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ ข้อจำกัด และความท้าทายด้านธุรกิจ รวมถึงผลกระทบจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ต้นทุนการนำเข้า-ส่งออก และโลจิสติกส์
ภาคเอกชนได้เสนอแนวทางที่ต้องการให้ภาครัฐสนับสนุนเพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของสินค้าไทยในตลาดสหรัฐฯ โดยระบุให้รัฐเพิ่มบทบาทในการ เจรจาทางการค้าลดภาษี บางหมวดสินค้า การสนับสนุน การตลาด ตลอดจนการสนับสนุนด้าน ข้อมูลและการประสานงาน กับคู่ค้าในสหรัฐฯ
นอกจากนี้ ยังได้สอบถามความคืบหน้าในการเจรจา ภาษี Reciprocal Tariffs ไทย–สหรัฐฯ โดยนางศุภจีชี้แจงว่า การเจรจายังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง มีความคืบหน้าตามลำดับ และตั้งเป้าสรุปผลการเจรจาภายใต้กรอบเวลาเดิม
ประเด็นอื่น ๆ ที่หารือได้แก่ การผลักดันสินค้าของ ผู้ประกอบการ SMEs ไทย สินค้าเกษตรที่ตลาดต้องการและไทยมีศักยภาพ เช่น ไข่ไก่ และเป็ด การเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร และการสนับสนุนชาวต่างชาติที่มีศักยภาพเข้าประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นผ่านการจัดให้มี Long Stay Visa เพื่อดึงกำลังซื้อในการซื้อบ้าน ซื้อคอนโดในไทย
นางศุภจีเปิดเผยเพิ่มเติมถึงการหารือระหว่างนายกรัฐมนตรีไทยและประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ว่า รัฐบาลไทยพร้อมขับเคลื่อนให้การเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ สำเร็จตามกรอบเวลา โดยให้ความสำคัญทั้งด้านการรักษาอธิปไตยและความมั่นคงของชาติ ควบคู่ไปกับการส่งเสริมผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ
รมว.พาณิชย์ยังเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการป้องกันปัญหา การสวมสิทธิถิ่นกำเนิดสินค้า (Transshipment) และการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการใช้ Local Content มากขึ้น พร้อมระบุว่า ไทยต้องผสานนวัตกรรมและยกระดับอุตสาหกรรมอาหาร ใช้ข้อได้เปรียบด้านการเป็นผู้ผลิตสินค้าเกษตรสู่การเป็น “Food Security Hub” ขายความมั่นคงทางอาหาร เพื่อเพิ่มขีดความสามารถแข่งขันของสินค้าไทยในตลาดโลกอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 2568 ที่ผ่านมา นางศุภจีได้ประชุมร่วมภาครัฐ–เอกชน 11 หน่วยงาน เพื่อรับฟังความคืบหน้าเกี่ยวกับมาตรการปกป้องและตอบโต้ทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม รวมถึงโครงการเพิ่ม Local Content ไทยสู่ตลาดสหรัฐฯ (RVC-UP) โดยเน้น 3 ประเด็นสำคัญ คือ การแก้ปัญหาสินค้าราคาถูก ด้อยคุณภาพ และผิดกฎหมาย, การนำเข้าสินค้าที่แข่งขันอย่างไม่เป็นธรรม, และการสวมสิทธิถิ่นกำเนิดสินค้า