กกพ.มองสัญญาณค่าไฟฟ้าปีหน้าทิศทางบวกตอบรับนโยบาย Quick Big Win

กกพ.มองสัญญาณค่าไฟฟ้าปีหน้าทิศทางบวกตอบรับนโยบาย Quick Big Win
กกพ.ยันค่าไฟฟ้าปีหน้าไม่ขยับขึ้น ระดมเครื่องมือกดต่ำกว่า 3.94 บาท ขณะที่เดือนธ.ค.เคาะราคาซื้อขายไฟ Direct PPA 2,000 เมกะวัตต์

ดร.พูลพัฒน์ ลีสมบัติไพบูลย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) ในฐานะโฆษก กกพ.เปิดเผยว่า แนวโน้มค่าไฟฟ้างวดเดือนม.ค.-เม.ย. ปี 2569 ในเบื้องต้นจะไม่มีการปรับขึ้น จากปัจจุบันอยู่ที่ 3.94 บาทต่อหน่วย ตามนโยบาย Quick Big Win ของนายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์  รมว.พลังงาน ที่มุ่งลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานให้ประชาชนเป็นลำดับแรก

ส่วนจะปรับลดลงได้หรือไม่นั้น ปกติในช่วงปลายปีความต้องการก๊าซธรรมชาติในตลาดโลกจะสูงส่งผลให้ราคาปรับตัวสูงขึ้น แต่ที่ผ่านมาปริมาณก๊าซฯในตลาดมีจำนวนมาก จึงทำให้ราคาขยับไม่แรงมาก ดังนั้นก็อาจมีข่าวดีในทิศทางค่อนข้างบวกในการดูแลค่าไฟ

อย่างไรก็ตามการพิจารณาอัตราค่าไฟฟ้ายังมีปัจจัยอื่นที่นำมาคำนวณด้วย  ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลทุกอย่าง ทั้งค่าไฟฟ้าที่นำเข้าจากต่างประเทศ รวมถึงการคืนหนี้ให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จากการช่วยดูแลค่าเอฟทีในช่วงที่ผ่านมายังเหลือสะสม 6.6 หมื่นล้านบาท และ หนี้คืนปตท.ค่าก๊าซอีก 1.5 หมื่นล้านบาท

สำหรับเงินเรียกคืนจากผลประโยนข์ส่วนเกินจาก 3การไฟฟ้า หรือ Claw back  จะนำมาใช้ดูแลค่าไฟฟ้าได้หรือไม่  ขณะนี้เงินดังกล่าวเหลืออยู่ 5,000 ล้านบาท  โดยก่อนหน้านี้ได้ไปใช้พยุงค่าไฟไปแล้ว 2,600  ล้านบาท   ซึ่งเงื่อนไขการใช้เงิน Claw back  ระบุไว้ชัดว่าต้องเกิดภาวะวิกฤตในประเทศ และค่าเอฟทีที่คำนวณออกมามีผลกระทบประชาชนจำนวนมาก   หากจะนำเงินส่วนนี้มาใช้ดูแลค่าไฟก็ต้องพิจารณษให้สอดคล้องกับเงื่อนไขที่กำหนดไว้

นายพูลพัฒน์  กล่าวถึง โครงการนำร่องการซื้อขายไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบการทำสัญญาซื้อขายพลังงานไฟฟ้าได้โดยตรง (Direct Power Purchase Agreement: Direct PPA)ผ่านการขอใช้บริการระบบโครงข่ายไฟฟ้าให้แก่บุคคลที่สาม (Third Party Access: TPA) สำหรับศูนย์ข้อมูล (Data Center) ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการเปิดรับฟังความเห็นวันที่ 3-10 ต.ค. 2568   โดยหลังจากนี้จะรวบรวมความเห็นเสนอต่อ กกพ.ในวันที่ 15 ต.ค. และคาดจะสรุปรายละเอียดเงื่อนไขทั้งหมดและประกาศรับซื้อไฟฟ้า 2 ,000 เมกะวัตต์ได้ภายในเดือนธ.ค.นี้

การกำหนดอัตราค่าไฟอยู่ในช่วงของการพิจารณาของ กฟผ.ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือนนี้ ก่อนนำเข้าการพิจารณาของคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.) ยืนยันพลังงานสีเขียวไม่ได้เป็นส่วนที่ทำให้เกิดภาระต้นทุนกับประชาชน แก่พี่น้องประชาชน

ขณะที่ประโยชน์ที่จะได้รับ Direct PPA จัดทำขึ้นเพื่อรองรับความต้องการใช้ไฟสีเขียวของศูนย์ข้อมูล (Data Center)  ซึ่งจะมีต่างชาติเข้ามาลงทุนหลักแสนล้านบาทในไทยสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ

ด้านการเปิดให้บริการไฟฟ้าสีเขียวแบบผู้ใช้ไฟฟ้าเจาะจงแหล่งที่มา (UGT2) ขณะนี้ กกพ.อยู่ระหว่างการหารือกับการกฟผ.เพื่อกำหนดอัตราค่าไฟฟ้า UGT2 คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเดือน ต.ค.นี้  เบื้องต้นอัตราค่าไฟฟ้า UGT2 จะสูงกว่า UGT1 เล็กน้อย  โดยปริมาณการเสนอขายไฟฟ้า UGT2 ให้กับผู้ที่สนใจซื้ออยู่ที่ 8,000 ล้านหน่วยต่อปี หรือคิดเป็น 4,800 เมกะวัตต์ มีสัญญาซื้อขายไฟ 10 ปี

ทั้งนี้ UGT2 จะนำไฟฟ้ามาจากโครงการจัดหาไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ FiT ปี 2565-73 สำหรับกลุ่มไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิงเฟสแรก 4,852.26 เมกะวัตต์ มาให้บริการกับผู้ที่สนใจซื้อไฟฟ้าสีเขียวแบบเจาะจงแหล่งที่มาของไฟฟ้า เทียบกับ UGT1 เป็นไฟฟ้าสีเขียวที่ผู้ซื้อไฟฟ้าไม่เจาะจง โดยไฟฟ้าจะมาจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำของ กฟผ. ราคาค่าไฟ UGT1 อยู่ที่ประมาณ 4 บาทต่อหน่วย

 

TAGS: #กกพ. #Direct #PPA #ไฟสีเขียว