JobsDB บอกตลาดแรงงานในเอเชียมีความต้องการสายเทคโนโลยี ทำให้ผู้สมัครในตำแหน่งเหล่านี้มีความมั่นใจสูงต่อโอกาสหางานใหม่ พบสถิติ 47% จะปฏิเสธข้อเสนอ เมื่อเจอประสบการณ์เชิงลบ แม้ได้ข้อเสนอที่น่าสนใจ
รายงานข่าวระบุ SEEK (ซีค) บริษัทแม่ของแพลตฟอร์มหางานออนไลน์ชั้นนำของเอเชียอย่าง JobStreet (จ๊อบสตรีท) และ JobsDB (จ๊อบส์ดีบี) เปิดเผยข้อมูลจากรายงานผลสำรวจใหม่ล่าสุดในหัวข้อ "สิ่งที่ผู้สมัครสาย Tech อยากให้ผู้ประกอบการรู้: อนาคตแห่งการจ้างงานและการสรรหาที่เปลี่ยนแปลงไป (What Tech Jobseekers Wish Employers Knew: Unlocking the Future of Recruitment)"
พบว่าผู้สมัครสายเทคโนโลยีในเอเชียยังคงมั่นใจในโอกาสหางานของพวกเขา โดยวัดจากที่ผู้สมัครได้รับ ข้อเสนองานหลายครั้งต่อปีและรู้ว่าตัวเองมีอำนาจการต่อรองที่แข็งแกร่ง แม้ว่าตลาดแรงงานด้านเทคโนโลยีในภูมิภาคเริ่มมีสัญญาณของการชะลอตัว สะท้อนจากจำนวนโฆษณาประกาศรับสมัครตำแหน่งงานด้านเทคโนโลยีลดลง 8% ในไตรมาสที่ 1 ปี 2566
ผลสำรวจดังกล่าวนี้ จัดทำโดย Boston Consulting Group (BCG) (บริษัท เดอะ บอสตัน คอนซัลติ้ง กรุ๊ป จำกัด) และ The Network (เดอะ เน็ตเวิร์ค) พันธมิตรระดับโลกของเว็บไซต์หางานที่่ JobStreet (จ๊อบสตรีท) และ JobsDB (จ๊อบส์ดีบี) ภายใต้กลุ่มบริษัท SEEK (ซีค) ได้จัดทำร่วมกัน
โดยพบว่า 71% ของกลุ่ม ผู้สมัครสายเทคโนโลยีในภูมิภาคมีความรู้สึกว่าพวกเขามีอำนาจในการต่อรองสูง โดยเกือบครึ่งของผู้ตอบแบบสอบถาม (46%) ได้รับการติดต่อเรื่องตำแหน่งงานว่างใหม่ ๆ ในทุกสัปดาห์หรือทุกเดือน ทำให้พวกเขาเป็นกลุ่มแรงงานทักษะที่เป็นที่ต้องการอย่างมาก
ด้าน ปีเตอร์ บิโธส ประธานกรรมการบริหาร SEEK Asia กล่าวว่า เมื่อปี 2565 ที่ผ่านมาอัตราการจ้างงานกลุ่มผู้สมัครสายเทคโนโลยีได้ทะยานขึ้นไปสู่จุดสูงสุดอย่างรวดเร็ว จึงไม่น่าแปลกใจที่ปีนี้เราจะเห็นความต้องการผู้มีความสามารถด้านเทคโนโลยีลดลงหากเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
แต่ทั้งนี้ การประกาศรับสมัครตำแหน่งงานสายเทคโนโลยีบนแพลตฟอร์มของเรายังคงสูงกว่าระดับก่อนการเกิดการระบาดของโควิดถึง 42% ซึ่งเป็นตัวชี้วัดว่าความต้องการผู้สมัครสาย Tech ยังคงสูงอยู่ แม้ว่าการจ้างงานด้านเทคโนโลยีจะมีการชะลอตัวลงก็ตาม"
ขณะที่ บริษัทเทคโนโลยีแบบดั้งเดิมหลายแห่งกำลังปรับลดขนาดลงหลังจากมีการจ้างงานมากเกินไปในช่วงที่มีการระบาดของโควิดและยังคงลดอัตราการจ้างงานลง เนื่องจากหลายธุรกิจต้องเผชิญกับอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นและ ภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่อาจเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ความต้องการคนเก่งด้านเทคโนโลยีจะยังคงอยู่ต่อไป
ทั้งนี้ สภาเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum) คาดการณ์ว่าภายในอีก 5 ปี ข้างหน้า งานสายเทคโนโลยี จะเพิ่มขึ้น 150 ล้านตำแหน่ง และภายในปี 2573 งาน 77% จะต้องใช้ทักษะด้านดิจิทัล อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันภาคธุรกิจยังประสบปัญหาการขาดแคลนบุคลากรที่มีความรู้ด้านเทคโนโลยี เห็นได้ว่ามีเพียงแค่หนึ่งในสาม (33%) ของงานด้านเทคโนโลยีทั่วโลก ที่พนักงานมีทักษะด้านดิจิทัลที่จำเป็น
ข้อมูลจากแพลตฟอร์มของ SEEK แสดงให้เห็นว่าจำนวนใบสมัครงานโดยเฉลี่ยต่อการประกาศรับสมัครงาน ด้านเทคโนโลยีในเอเชียได้เพิ่มขึ้นกว่า 40% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งชี้ให้เห็นว่าผู้สมัครสายเทคโนโลยีที่ได้รับผลกระทบจากการเลิกจ้างงานกำลังมองหางานใหม่อยู่ หรือพวกเขาคาดหวังว่าจะมีโอกาสหางานอื่นที่ดีกว่า
ดังนั้นการเข้าใจความต้องการของกลุ่มผู้สมัครสายเทคโนโลยี จึงเป็นกุญแจสำคัญสำหรับบริษัทที่ต้องการดึงดูดคนเก่งหน้าใหม่หรือรักษาพนักงานที่มีอยู่ จากผลสำรวจ
โดยสิ่งที่ผู้สมัครสาย Tech อยากให้ผู้ประกอบการรู้: อนาคตแห่งการจ้างงานและการสรรหาที่เปลี่ยนแปลงไป" พบว่าแรงจูงใจสามอันดับแรกที่ทำให้ผู้ที่มีความสามารถด้านเทคโนโลยีต้องการเปลี่ยนงาน คือการมองหางานใหม่ที่ตำแหน่งน่าสนใจกว่าหรือตำแหน่งงานที่สูงขึ้นกว่าเดิม (55%), งานที่ทำอยู่ปัจจุบันมีโอกาสในการเติบโตน้อย (31%) และไม่พอใจกับเงินเดือนและสวัสดิการในตำแหน่งงานปัจจุบัน (26%)
ผู้สมัครที่มีทักษะด้านเทคโนโลยียังมีความต้องการงานที่มั่นคงและมีความสมดุลระหว่างงานและชีวิตส่วนตัว โดย 68% ของผู้ตอบแบบสอบถามมองว่าสิ่งนี้เป็นเส้นทางอาชีพในอุดมคติ เพราะพวกเขาสามารถใช้เวลากับครอบครัว เพื่อน และงานอดิเรกได้ ยิ่งไปกว่านั้น มีเพียง 18% เท่านั้นที่เต็มใจที่จะกลับไปทำงานเต็มเวลาที่ออฟฟิศ ในขณะที่ 64% ชอบการทำงานรูปแบบไฮบริด
ด้าน ดวงพร พรหมอ่อน กรรมการผู้จัดการ JobsDB Thailand (จ๊อบส์ ดีบี ประเทศไทย) กล่าวว่า "สำหรับประเทศไทย ผู้ประกอบการไทยสามารถดึงดูดผู้สมัครกลุ่ม Tech Talent ที่มีความสามารถด้วยการ ทำความเข้าใจถึงความต้องการและปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อผู้สมัคร ไม่ว่าจะเป็นค่าตอบแทน โบนัส และสวัสดิการ รวมถึงการพัฒนาวัฒนธรรมองค์กรให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่
เช่น การให้ความสำคัญ กับ work-life balance การทำงานที่มีความยืดหยุ่น ตลอดจนคำนึงถึงประสบการณ์ที่ผู้สมัครจะได้รับโดยเริ่มตั้งแต่ในช่วงของกระบวนการสรรหา ด้วยเหตุนี้จึงได้ทำการสำรวจและศึกษาข้อมูลเชิงลึก ที่ทำให้ผู้ประกอบการสามารถเชื่อมโยงกับตลาดแรงงานในปัจจุบันได้อย่างใกล้ชิด ตลอดจนสามารถนำข้อมูลเชิงลึกต่าง ๆ เหล่านี้ไปใช้ได้จริง
คำแนะนำสำหรับผู้ประกอบการ
65% ของผู้สมัครสายเทคโนโลยีที่ตอบแบบสอบถามเห็นว่า ขั้นตอนการสรรหาที่ราบรื่นและทันท่วงทีเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่จะทำให้ผู้ประกอบการหรือนายจ้างนั้น ๆ โดดเด่นในระหว่างการสรรหาบุคลากร และ เกือบครึ่ง (47%) จะปฏิเสธข้อเสนอ ถ้าหากพวกเขาต้องเผชิญกับประสบการณ์เชิงลบ ถึงแม้จะเป็นข้อเสนอที่น่าสนใจก็ตาม
รายงานนี้จะให้ข้อมูลรายละเอียดเชิงลึกเกี่ยวกับการดำเนินการที่ผู้ประกอบการควรพิจารณาในระหว่างการสรรหาผู้สมัครสายเทคโนโลยี เช่น เมื่อลงประกาศรับสมัครงาน, ผู้ประกอบการควรระบุ, ช่วงเงินเดือน, คำบรรยายลักษณะงานที่ละเอียดและชัดเจน ตลอดจนทางเลือกของรูปแบบการทำงานที่มีความยืดหยุ่น
ในระหว่างขั้นตอนการสมัครและการคัดเลือก ผู้ประกอบการควรเสนอรูปแบบการสัมภาษณ์แบบตัวต่อตัวกับหัวหน้าที่อาจจะได้ร่วมงานในอนาคตและผู้สรรหาพนักงานใหม่ เพราะเป็นสิ่งที่ผู้สมัครสายเทคโนโลยีให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก
รวมถึงการพูดคุยอย่างตรงไปตรงมาและเปิดเผยกับหัวหน้างานในอนาคต ขณะยื่นข้อเสนอให้กับผู้สมัคร ผู้ประกอบการควรเปิดกว้างสำหรับการเจรจาเพิ่มเติมเกี่ยวกับโบนัสหรือสวัสดิการต่าง ๆ รวมทั้งกลุ่มผู้สมัครสายเทคโนโลยีจะรู้สึกประทับใจ หากผู้ประกอบการได้ให้เวลาพวกเขามากพอในการพิจารณารับข้อเสนอ