Sam Altman ดัน “World ID” ป้องกันบอท–หลอกลวงออนไลน์ มั่นใจไม่ละเมิดข้อมูลส่วนตัว

Sam Altman ดัน “World ID” ป้องกันบอท–หลอกลวงออนไลน์ มั่นใจไม่ละเมิดข้อมูลส่วนตัว
World ยืนยันระบบสแกนม่านตาใช้เพื่อพิสูจน์ความเป็นมนุษย์ ไม่ใช่ยืนยันตัวตน – ไม่มีการขายหรือเก็บข้อมูลชีวมิติ พร้อมร่วมมือพันธมิตรไทยต้านภัยบอทและมิจฉาชีพออนไลน์

บริษัท Tools for Humanity (TFH) ผู้พัฒนาเทคโนโลยี World ID ภายใต้การก่อตั้งของ Sam Altman ซีอีโอ OpenAI และ Alex Blania ประกาศย้ำชัดเจนว่า โครงการสแกนม่านตา World ไม่ใช่โครงการที่สุ่มเสี่ยงหรือเกี่ยวข้องกับมิจฉาชีพ แต่เป็นนวัตกรรมระดับโลกที่มุ่งยืนยัน “ความเป็นมนุษย์” ของผู้ใช้งาน เพื่อแยกออกจากบอทและปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ถูกใช้ในทางที่ผิด

การแถลงข่าวในประเทศไทยนำโดย นายภัคพล ตั้งตงฉิน ผู้จัดการ TFH ประจำประเทศไทย และ นายฟาเบียน โบดันสไตเนอร์ Managing Director จาก World Foundation พร้อมพันธมิตรธุรกิจไทย ร่วมยืนยันข้อมูลเพื่อแก้ไขทุกความเข้าใจผิดที่เกิดขึ้นในสังคม

 

5 ประเด็นสำคัญที่ World เคลียร์ชัด

1. เทคโนโลยีระดับโลก ไม่ใช่โครงการลวงโลก
World ก่อตั้งโดย Sam Altman และ Alex Blania ปัจจุบันมีผู้ใช้งานกว่า 33 ล้านบัญชีทั่วโลก ครอบคลุมสหรัฐอเมริกา อังกฤษ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน สิงคโปร์ รวมถึงประเทศไทย โดยมีเป้าหมายหลักในการป้องกันการใช้บอทและ AI ในการฉ้อโกงออนไลน์

2. ยืนยันความเป็นมนุษย์ ไม่ใช่ยืนยันตัวตน
ระบบของ World ไม่เก็บชื่อ-นามสกุล เลขบัตรประชาชน เบอร์โทรศัพท์ หรือข้อมูลส่วนตัวใด ๆ ทั้งสิ้น แต่ใช้เพื่อพิสูจน์ว่า “คุณคือมนุษย์จริง ๆ” เท่านั้น

3. ปลอดภัยสูงสุด ไม่ซื้อ-เก็บ-ขายข้อมูลชีวมิติ
ภาพม่านตาจะถูกแปลงเป็น Iris Code หรือชุดตัวเลขเข้ารหัสยาวกว่า 10,000 หลัก ซึ่งไม่สามารถย้อนกลับมาเป็นภาพได้ และไฟล์ต้นฉบับจะถูกลบทันที ข่าวลือเรื่องการรั่วไหลหรือการขายข้อมูลชีวมิติไม่เป็นความจริง

4. ดำเนินงานตามกฎหมายไทยอย่างเข้มงวด
TFH ทำงานร่วมกับหน่วยงานรัฐและหน่วยงานกำกับดูแลในไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทุกขั้นตอนถูกต้องตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง ขณะเดียวกันยังเปิดเผยระบบ ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์แบบโอเพนซอร์ส บน GitHub และผ่านการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์ เช่น Theori และ Trail of Bits

5. สร้างเกราะป้องกันมิจฉาชีพยุคดิจิทัล
ภารกิจของ World คือการแยกมนุษย์ออกจากบอทเพื่อสร้างความโปร่งใสและความปลอดภัยบนโลกออนไลน์ โดยมีพันธมิตรในไทยอย่าง Pantip, Whoscall, Eventpop และเกม Ragnarok Landverse นำ World ID ไปใช้จริงในการป้องกันบัญชีปลอม บอทกว้านซื้อตั๋ว และการสวมรอยทางดิจิทัล

 

ก้าวต่อไป: Hackathon และการลงทุนในไทย

World ประกาศเดินหน้าสร้างระบบนิเวศเทคโนโลยีในไทยผ่านโครงการ “Orb Hackathon” ที่เปิดให้ผู้เชี่ยวชาญด้านไซเบอร์ทดสอบหาช่องโหว่ของระบบ พร้อมเงินรางวัลสำหรับผู้ที่ค้นพบ ถือเป็นการแสดงความโปร่งใสและความมั่นใจในมาตรการความปลอดภัย

นอกจากนี้ ภายใต้โครงการ Build With World บริษัทฯ ยังลงทุนกว่า 25 ล้านบาทในประเทศไทย เพื่อสนับสนุนนักพัฒนาไทยสร้าง Mini Apps บนแพลตฟอร์ม World ID ซึ่งจะช่วยเร่งการเติบโตของเทคโนโลยีดิจิทัลในประเทศ และผลักดันให้ผู้ประกอบการไทยก้าวสู่เวทีโลก

 

มุมมองต่อภัยไซเบอร์ในไทย

นายภัคพล ตั้งตงฉิน เปิดเผยว่า ปีที่ผ่านมา คนไทยถูกหลอกลวงออนไลน์มากกว่า 168 ล้านครั้ง คิดเป็นความเสียหายกว่า 40,000 ล้านบาท โดยหลายกรณีมิจฉาชีพใช้ AI ปลอมแปลงเสียงและภาพเพื่อหลอกลวง จึงจำเป็นต้องมีระบบยืนยันความเป็นมนุษย์ที่เชื่อถือได้

“World ไม่ได้รู้ว่าคุณคือใคร อยู่ที่ไหน หรือทำงานอะไร สิ่งเดียวที่เรายืนยันได้คือ ‘คุณคือมนุษย์จริง’ เท่านั้น” นายภัคพลกล่าว

 

ย้ำเตือนประชาชน

World ยืนยันว่า การสแกนม่านตาผ่าน Orb ต้องทำผ่าน World App อย่างเป็นทางการเท่านั้น บริษัทไม่มีการจ้างบุคคลที่สาม ไม่มีการเรียกเก็บค่าบริการ และไม่มีการแจกเงินสดหรือแลกเปลี่ยนเหรียญเป็นเงินบาท หากพบการแอบอ้าง ถือเป็นการกระทำของมิจฉาชีพ

TAGS: #World #WorldThailand #OrbHackathon #ิ #BuildWithWorld #ไทยก้าวสู่ดิจิทัล #AIปลอมเราหยุดได้