อานิสงส์ยานยนต์ฟื้น  ส่งออก-มาตรการกระตุ้นศก.หนุน ดัชนี MPI พ.ค. โต 1.88%  ต่อเนื่องเดือนที่ 2 

อานิสงส์ยานยนต์ฟื้น  ส่งออก-มาตรการกระตุ้นศก.หนุน ดัชนี MPI พ.ค. โต 1.88%  ต่อเนื่องเดือนที่ 2 
สศอ. เผย MPI เดือน พ.ค. 68 ขยายตัวร้อยละ 1.88 ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 อานิสงส์ยานยนต์ฟื้นตัว การส่งออกและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหนุนการผลิต

นายภาสกร ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.)เผย ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนพฤษภาคม 2568 อยู่ที่ระดับ 100.79 ขยายตัวร้อยละ 1.88 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มีอัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ร้อยละ 61.14 สะท้อนให้เห็นว่าภาคอุตสาหกรรมกลับมาผลิตเพิ่มขึ้น โดยปัจจัยสนับสนุนหลักต่อภาคการผลิต ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์ที่ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 โดยขยายตัวร้อยละ 12.86 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการผลิตเพื่อส่งมอบรถยนต์ให้ลูกค้าที่ได้มีการจองไว้จากงานมอเตอร์โชว์ ประกอบกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ อาทิ โครงการคุณสู้เราช่วยที่ขยายเวลาลงทะเบียน โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 10,000 บาท การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) การค้าระหว่างประเทศขยายตัวต่อเนื่อง มีมูลค่าส่งออกรวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 18.4 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นการขยายตัวต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเดือนที่ 11 เนื่องจากผู้ประกอบการเร่งส่งออกไปยังสหรัฐฯ ก่อนที่สหรัฐฯ จะขึ้นภาษีนำเข้าสินค้า โดยมีมูลค่าส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม (ไม่รวมทองคำ อาวุธ รถถัง และอากาศยานรบ) อยู่ที่ 23,552 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 22.3

อย่างไรก็ตาม จากมาตรการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ที่ยังไม่ชัดเจน ส่งผลให้การค้าระหว่างประเทศอาจจะชะลอตัว ความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนพฤษภาคมปรับตัวลดลง โดยมีปัจจัยหลักจากค่าเงินบาทแข็ง สินค้าทะลักจากต่างประเทศ การบริโภคภาคเอกชนที่ยังไม่ฟื้นตัวจากปัญหาหนี้ครัวเรือน ทำให้ผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่าย ส่งผลกระทบต่อยอดขายของสินค้าอุตสาหกรรมโดยรวม นอกจากนี้ ภาคการท่องเที่ยวมีการชะลอตัว เนื่องจากปัญหาต่อเนื่องจากเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์และเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทำให้นักท่องเที่ยวกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของไทย รัฐบาลจีนยังส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศมากขึ้น รวมถึงนักท่องเที่ยวมีความคิดว่าการเที่ยวในไทยมีค่าใช้จ่ายแพงกว่าการเที่ยวประเทศที่มีลักษณะคล้ายกัน 

สำหรับระบบการเตือนภัยด้านเศรษฐกิจอุตสาหกรรมภาพรวมของไทยเดือนมิถุนายน 2568 “ส่งสัญญาณเฝ้าระวังต่อเนื่อง” โดยปัจจัยในประเทศชะลอตัวต่อเนื่องตามความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมและความเชื่อมั่นภาคธุรกิจที่หดตัวจากความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าของสหรัฐฯ และความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ด้านปัจจัยต่างประเทศ ภาพรวมยังคงต้องเฝ้าระวังภาคการผลิตของประเทศคู่ค้าทั้งญี่ปุ่นและยูโรโซนที่ชะลอตัวลง และความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าของสหรัฐอเมริกา รวมถึงภาวะการค้าในตลาดโลก

“ทั่วโลกกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอนจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ นโยบายการค้าของสหรัฐอเมริกา และภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่มีความเปราะบางซึ่งเป็นประเด็นที่ต้องเฝ้าติดตามและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ ภาครัฐและผู้ประกอบการไทยต้องร่วมกันทั้งในภาพของมาตรการและการปรับกลยุทธ์เพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาดและสามารถแข่งขันได้ท่ามกลางความไม่แน่นอนดังกล่าว” นายภาสกร กล่าว

สำหรับอุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลบวกต่อดัชนีผลผลิตเดือนพฤษภาคม 2568 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ได้แก่ 

ยานยนต์ ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 12.86 จากรถยนต์นั่งไฮบริดขนาดมากกว่า 1800 ซีซี รถบรรทุกปิคอัพ รถยนต์นั่งไฟฟ้าแบตเตอรี่ และรถยนต์นั่งปลั๊กอินไฮบริด เป็นหลัก ตามกระแสความนิยมและความต้องการของตลาด สำหรับรถบรรทุกปิคอัพขยายตัวจากตลาดส่งออกเป็นหลัก

น้ำมันปาล์ม ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 25.14 จากผลิตภัณฑ์น้ำมันปาล์มดิบ และน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ เป็นหลัก ตามปริมาณผลปาล์มออกสู่ตลาดมากขึ้นและมีคำสั่งซื้อจากอินเดีย จีน และเมียนมาเพิ่มขึ้น

น้ำตาล ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 21.43 จากผลิตภัณฑ์น้ำตาลทรายขาว เป็นหลัก ตามปริมาณอ้อยเข้าหีบมากกว่าปีก่อน เนื่องจากมีปริมาณฝนในพื้นที่เพาะปลูกเพิ่มขึ้นและราคาอ้อยในฤดูการผลิต 2566/67 มีราคาสูง จูงใจให้เกษตรกรขยายพื้นที่เพาะปลูก

สำหรับอุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลลบต่อดัชนีผลผลิตเดือนพฤษภาคม 2568 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ได้แก่ 
    
เครื่องปรับอากาศ หดตัวลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 10.64 ตามการหดตัวของตลาดในประเทศ จากสภาพอากาศแปรปรวนเข้าสู่ฤดูฝนเร็วกว่าปีก่อน และมีการแข่งขันด้านราคาสูงโดยเฉพาะสินค้าต่างประเทศซึ่งมีราคาถูกกว่า

    
เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ หดตัวลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 13.56 จากผลิตภัณฑ์น้ำอัดลม เครื่องดื่มกาแฟสำเร็จรูป และน้ำดื่มบริสุทธ์ เป็นหลัก เนื่องจากจากผู้ผลิตรายสำคัญหยุดผลิต

    
กาแฟ ชา และน้ำสมุนไพร หดตัวลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 80.83 จากผลิตภัณฑ์กาแฟสำเร็จรูป เป็นหลัก เนื่องจากการหยุดผลิตชั่วคราวเป็นเดือนที่ 5 ของผู้ผลิตรายสำคัญ

TAGS: #ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม #เศรษฐกิจ #ยานยนต์ #ส่งออก #มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ #สศอ.