เอกชนกังวลเจรจาการค้าสหรัฐ จับสัญญาณออเดอร์ชะลอตัวกระทบส่งออก

เอกชนกังวลเจรจาการค้าสหรัฐ จับสัญญาณออเดอร์ชะลอตัวกระทบส่งออก
หอการค้าไทย ชี้ต้องเร่งเจรจาภาษีสหรัฐ หวั่นกระทบส่งออกช่วงปลายปี หลังคำสั่งซื้อเริ่มลดลงตั้งแต่เดือนพ.ค.  ขณะที่ผลกระทบจากมาตรการกัมพูชา มั่นใจมีแผนกระจายสินค้าไปตลาดอื่นทดแทนได้

ดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยเปิดเผยว่า ทางหอการค้าไทยมีความเข้าใจและเห็นถึงความตั้งใจของหน่วยงานภาครัฐที่กำลังเร่งทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเจรจาการค้ากับสหรัฐอเมริกา ท่ามกลางกรอบเวลาที่กระชั้นชิด โดยเฉพาะจาก นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง หัวหน้าทีมเจรจาฯ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ และนายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ พร้อมกับทีมงาน ที่ร่วมบูรณาการกับภาคเอกชนอย่างแข็งขัน

อย่างไรก็ดี ด้วยข้อจำกัดของเวลาและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในช่วงฤดูกาลรับคำสั่งซื้อปลายปี ทางหอการค้าฯ จึงขอให้ทุกฝ่ายเร่งสร้างความชัดเจนในแนวทางการดำเนินงานโดยเร็ว เพื่อให้ภาคธุรกิจสามารถเตรียมตัวและปรับแผนได้ทันท่วงที เพราะตอนนี้มีสัญญาณยอดคำสั่งซื้อชะลอตัวอย่างมีนัยยะสำคัญตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม และต้นเดือนมิถุนายน ซึ่งในเดือน กรกฎาคมและต่อๆไป หากไม่มีความชัดเจนก็จะกระทบยอดส่งออกครึ่งปีหลังมาก

ทางหอการค้าฯ ขอชื่นชมการทำงานของนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง นายพิชัย นริพทะพันธุ์  รมว.พาณิชย์ และนายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์    ปลัดกระทรวงพาณิชย์พร้อมกับทีมเจรจาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย พร้อมยืนยันว่าจะร่วมเป็นกำลังสนับสนุนในการผลักดันให้การเจรจาบรรลุเป้าหมาย และเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจไทยในภาพรวมหอการค้าฯ จึงขอเสนอทีมเจรจาทำงานอย่างต่อเนื่องและแข็งขัน เพื่อประสบความสำเร็จในสัญญาการค้าที่เป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่ายระหว่างไทยและอเมริกา

 นอกจากนี้ หอการค้าไทยยังติดตามสถานการณ์ด้านการค้าการลงทุนกับประเทศกัมพูชาอย่างใกล้ชิด  แม้จะเป็นประเด็นที่มีมิติทางความมั่นคงและอธิปไตย ซึ่งอยู่เหนือประเด็นทางเศรษฐกิจ แต่ทางหอฯ ขอยืนยันจุดยืนในการสนับสนุนการดำเนินงานของรัฐบาลและกองทัพไทยในการรักษาผลประโยชน์ของชาติ

สำหรับกรณีที่ทางกัมพูชาออกมาตรการห้ามนำเข้าสินค้าบางประเภทจากประเทศไทย หอการค้าฯ เชื่อว่ายังมีแนวทางในการบริหารจัดการสินค้าเหล่านี้ให้สามารถกระจายไปยังตลาดอื่นได้ และขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวไทยร่วมกันบริโภคสินค้าไทย สนับสนุนผู้ประกอบการภายในประเทศ

ทั้งนี้ศูนย์ประสานงานและประชาสัมพันธ์สินค้าเกษตรและอาหาร หรือ ศูนย์ AFC (Agriculture and Food Coordination and Public Relations Center)ของหอการค้าไทยได้ร่วมมือกับห้างสรรพสินค้าชั้นนำในการกระจายสินค้าที่ได้รับผลกระทบ อาทิ ผักและผลไม้ รวมถึงได้มีการหารือกับหอการค้าจังหวัดต่าง ๆ  และหน่วยงานราชการท้องถิ่น เพื่อร่วมกันผลักดันการบริโภคสินค้าอุปโภคและบริโภคภายในประเทศทดแทนการส่งออกไปยังกัมพูชา

อย่างไรก็ตามหอการค้าไทยพร้อมยืนเคียงข้างภาคธุรกิจและทำงานร่วมกับภาครัฐทุกภาคส่วน เพื่อให้ประเทศไทยสามารถผ่านพ้นสถานการณ์ท้าทายต่าง ๆ และเดินหน้าอย่างมั่นคงต่อไป

 

TAGS: #หอการค้าไทย #ภาษีสหรัฐ #ส่งออก #กัมพูชา