บีโอไอ ร่วมกับ KOTRA จัดสัมมนาใหญ่ กล่อมนักลงทุนเกาหลีขยายฐานผลิตต่อยอดการค้า แนะลงทุนเซมิคอนดัคเตอร์ ไฮเทคโนโลยี- AI ยานยนต์ไฟฟ้า เทคโนโลยีชีวภาพรับเทรนด์โลก
นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า บีโอไอได้ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการค้าและการลงทุนแห่งสาธารณรัฐเกาหลี (KOTRA) และหอการค้าเกาหลี-ไทย (KTCC) จัดสัมมนาใหญ่ในหัวข้อ “Thailand Business Essentials:A Comprehensive Guide for Korean Executives” ในจังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีบริษัทเกาหลีตั้งฐานการผลิตอยู่เป็นจำนวนมาก เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนเกาหลี
นอกจากนี้ยังอัพเดทนโยบายและมาตรการส่งเสริมการลงทุนของไทย นโยบายพัฒนาระบบนิเวศทางธุรกิจของรัฐบาล เช่น การจัดทำกลไกพลังงานสะอาด การพัฒนาบุคลากรทักษะสูง การพัฒนาระบบริการภาครัฐในรูปแบบ One Stop Service พร้อมทั้งได้ชี้เป้าและโอกาสการลงทุนในอุตสาหกรรมใหม่ ๆ ที่เกาหลีเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น เซมิคอนดัคเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง ดิจิทัลและ AI ยานยนต์ไฟฟ้า แบตเตอรี่ และเทคโนโลยีชีวภาพ เป็นต้น
นายพัค ยงมิน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย กล่าวว่า ท่ามกลางสภาพแวดล้อมทางการค้าที่มีความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้น ทั้งการกีดกันการค้าและความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่ทวีความรุนแรง ความท้าทายที่เกิดขึ้นนี้ นำมาซึ่งโอกาสใหม่ ๆ อีกด้วย ซึ่งตลอดหลายปีที่ผ่านมา เกาหลีและไทยมีความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่ก้าวหน้าอย่างมาก และมีศักยภาพที่จะขยายโอกาสร่วมกันได้อีก โดยเฉพาะด้านการลงทุนการเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานจากอุตสาหกรรมดั้งเดิมสู่อุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เช่น ยานยนต์ไฟฟ้าและปัญญาประดิษฐ์ โดยในอนาคตอันใกล้รัฐบาลทั้งสองประเทศจะผลักดันข้อตกลงความร่วมมือทางเศรษฐกิจ (EPA) ระหว่างไทย - เกาหลี ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจอย่างรอบด้าน ร่วมกับข้อตกลง ASEAN - Korea Free Trade Agreement (AKFTA) และ Regional Comprehensive Economic Partnership (RCEP)
ทั้งนี้ภายในงานบีโอไอยังได้เชิญหน่วยงานภาครัฐที่สำคัญ เช่น กรมศุลกากร กรมการจัดหางาน และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ร่วมบรรยายเกี่ยวกับการใช้สิทธิประโยชน์ในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านสิทธิประโยชน์ในการส่งเสริมการลงทุน สิทธิประโยชน์ด้านเครื่องจักรและวัตถุดิบ การใช้ระบบการนำเข้า - ส่งออกแบบอิเล็กทรอนิกส์การใช้สิทธิประโยชน์ด้านวีซ่าและใบอนุญาตทำงาน
รวมทั้งกฎหมายแรงงานที่สำคัญ โดยมีผู้บริหารบริษัทเกาหลี ที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนให้ความสนใจเข้าร่วมงานกว่า 130 ราย จากหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มยานยนต์ กลุ่มผลิตภัณฑ์โลหะและเคมีภัณฑ์ เป็นต้น นอกจากนี้ในงานยังมีบริการคลินิกให้คำปรึกษาเป็นรายบริษัท โดยมีบริษัทเกาหลีแสดงความสนใจลงทุนเพิ่มเติมในการปรับปรุงประสิทธิภาพโดยการใช้ระบบอัตโนมัติในการผลิต รวมถึงขยายการลงทุนเพิ่มในกิจการวิจัยและพัฒนาและกลุ่มผลิตภัณฑ์โลหะ
“รัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบนิเวศในการประกอบธุรกิจ เพื่อทำให้ประเทศไทยเป็นพื้นที่ที่มีความพร้อมสำหรับการลงทุน มีความสะดวก ปลอดภัย สามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงของห่วงโซ่อุปทานโลก ที่ผ่านมาเกาหลีใต้เป็นหนึ่งในนักลงทุนรายสำคัญ และมีความโดดเด่นในอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีสูง ไม่ว่าจะเป็น ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะ และดิจิทัล อีกทั้งยังมีศักยภาพในการเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ ๆ เช่น เซมิคอนดักเตอร์ ยานยนต์ไฟฟ้า การแพทย์ และ AI บีโอไอ KOTRA และหอการค้าเกาหลี - ไทย จึงได้ร่วมกันจัดสัมมนาในครั้งนี้ เพื่ออัพเดทสถานการณ์และมาตรการส่งเสริมการลงทุนในประเทศไทย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนเกาหลี และนำไปสู่การตัดสินใจขยายการลงทุนในอนาคต”
ปัจจุบันเกาหลีใต้ เป็นคู่ค้าอันดับที่ 13 ของไทย โดยมีมูลค่าการค้ารวมกันประมาณ 15,000 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับด้านการลงทุน บริษัทเกาหลีมีการขยายการลงทุนในไทยอย่างต่อเนื่อง ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (2563 – 2567) มีโครงการจากเกาหลียื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุน จำนวน 141 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 63,000ล้านบาท
ขณะที่ในไตรมาสแรกของปีนี้ ตัวเลขการลงทุนจากเกาหลียังคงอยู่ในทิศทางใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา มีการขอรับการส่งเสริม 7 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 1,200 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องจักรและชิ้นส่วน และยานยนต์ โดยมีบริษัทขนาดใหญ่จากเกาหลีใต้ได้ขยายการลงทุนในไทย เช่น HYUNDAI ในกิจการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า HANON SYSTEMS ในกิจการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ SAMSUNG และ LG ในกิจการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะ HANSOL TECHNICS ในกิจการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น