เศรษฐกิจฟื้นช้า-เทรดวอร์รุม ทุบตลาดรถยนต์โตอืดฉุดส่งออกร่วง

เศรษฐกิจฟื้นช้า-เทรดวอร์รุม ทุบตลาดรถยนต์โตอืดฉุดส่งออกร่วง
ส.อ.ท.เกาะติดกำแพงภาษีสหรัฐกระทบส่งออกรถยนต์ต่ำกว่าเป้า ขณะที่ยอดขายในประเทศขยับเล็กน้อยจากงานมอเตอร์โชว์  ด้านการผลิตกระบะลดต่อเนื่องเกือบ30%

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงสถานการณ์ยานยนต์ไทยในเดือนมี.ค. 2568  จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนมีนาคม 2568 มีทั้งสิ้น 129,909 คัน เพิ่มขึ้น ร้อยละ 12.49 จากเดือนก่อน แต่ลดลงจากเดือนมี.ค.ปีก่อน ร้อยละ 6.09 เนื่องจากการผลิตส่งออกลดลงร้อยละ 9.36 จากการผลิตรถยนต์นั่งลดลงร้อยละถึง 51.18

ทั้งนี้มีสาเหตุจากมีการเปลี่ยนรุ่นรถบางรุ่นของรถยนต์นั่ง แต่ผลิตรถยนต์นั่งเพื่อจำหน่ายในประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 35.01 เพราะผลิตรถยนต์ไฟฟ้าทั้ง BEV และ PHEV เพิ่มขึ้น แต่ผลิตรถกระบะลดลงร้อยละ 29.32 ตามยอดขายรถกระบะยังคงลดลง

ส่งผลให้ไตรมาสแรกมีการผลิตรถยนต์รวม 352,499 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน ร้อยละ 14.88

ด้านการผลิตเพื่อส่งออกจำนวน  83,217 คัน ลดลงจากปีก่อน ร้อยละ 9.36  ส่วนช่วง 3 เดือนแรก ผลิตเพื่อส่งออกได้ 236,796 คัน ลดลงร้อยละ 13.48 ขณะที่ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ เดือนมีนาคมจำนวน 46,692 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ร้อยละ 0.36 และช่วง 3 เดือนแรกของปี ผลิตได้ 115,703 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 17.62

สำหรับยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนมีนาคม มีจำนวน 55,798 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ร้อยละ 13.15 และลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนร้อยละ 0.54 จากรถกระบะที่ยังคงขายลดลงร้อยละ 7.84 เพราะการเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงินที่ยังกังวลหนี้ครัวเรือนสูงและเศรษฐกิจของประเทศเติบโตในอัตราต่ำ ค่าครองชีพสูง ส่วนรถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ มียอดขาย 34,685 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 2.83

ด้านการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปเดือนมีนาคม มีจำนวน 80,914 คัน ลดลงจากเดือนที่แล้วร้อยละ 0.50 และลดลงจากเดือนมีนาคม 2567 ร้อยละ 14.91 เพราะมีการเปลี่ยนรุ่นรถยนต์นั่งบางรุ่น และจากการเข้มงวดในการลดการปล่อยคาร์บอนของบางประเทศและการเข้ามาของรถยนต์ไฟฟ้าราคาถูกของจีนในบางประเทศคู่ค้า จึงส่งออกลดลงในตลาดออสเตรเลีย ตะวันออกกลาง ยุโรป อเมริกากลางและอเมริกาใต้ โดยไตรมาสแรกไทยส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 220,139 คัน ลดลงจากช่วงระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 18.63

อย่างไรก็ตามสถานการณ์ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท BEV เดือนมีนาคม 2568 จดทะเบียนใหม่ 9,905 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 33.20 ภาพรวมไตรมาสแรกมียอดจดทะเบียนใหม่สะสมจำนวน 31,991 คัน

ส่วนยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท HEV จดทะเบียนใหม่จำนวน 12,570 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 4.92 โดยไตรมาสแรกมียอดจดทะเบียนใหม่สะสม 38,165 คัน ด้านยานยนต์ประเภทไฟฟ้า (PHEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 2,038 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคมปีที่แล้วร้อยละ 132.65  

นายสุรพงษ์ กล่าวว่า สถานการณ์รถยนต์ตอนนี้ยังไม่ดีนักทั้งการผลิต การส่งออก และยอดขาย สะท้อนว่าเศรษฐกิจในประเทศยังไม่ดีนัก โดยเฉพาะการผลิตเพื่อส่งออกลดลง เนื่องจากมีการยกเลิกการผลิตรถยนต์บางรุ่น ขณะเดียวกันต้องติดตามผลกระทบจากนโยบายภาษีสหรัฐ ตัวเลขภาษีจะต้องเสียถึง 36% หรือไม่ แต่ที่เป็นกังวลคือการส่งออกชิ้นส่วนรถยนต์ 33,000 ล้านเหรียญสหรัฐ มีสัดส่วนส่งออกไปสหรัฐ 1,156 ล้านเหรียญสหรัฐ   

อย่างไรก็ตามอาจทบทวนปรับเป้าการส่งออกเหลือ 9 แสนคันจากเป้าเดิมที่มองไว้ 1 ล้านคัน ซึ่งรวมถึงเป้าหมายผลิตรถยนต์ ทั้งปีอาจลดลงอยู่ที่ 1.4 ล้านคัน จากเดิมคาดว่าจะผลิตได้ 1.5 ล้านคัน ด้วย

 

TAGS: #ส.อ.ท. #กำแพงภาษีสหรัฐ #ส่งออกรถยนต์