กรมพัฒนาธุรกิจฯ ผนึก สำนักงาน ปปง. ออกกฎหมายยึดทรัพย์ ตัดวงจรอุบาทว์ขบวนการนอมินีทำลายชาติ ใช้เป็นเครื่องมือฟอกเงินทำเศรษฐกิจเสียหาย
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงานปปง.) ได้ร่วมกันพิจารณายกร่างกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเสร็จแล้ว เพื่อป้องกันธุรกิจไทยไม่ให้ถูกครอบงำโดยชาวต่างชาติและถูกใช้เป็นเครื่องมือในการฟอกเงินที่สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจประเทศ ตัดวงจรอุบาทว์ขบวนการนอมินีที่ทำลายชาติ
สำหรับสาระสำคัญของกฏหมายดังกล่าวเป็นการกำหนดเพิ่มเติมให้คนไทยที่ให้ความช่วยเหลือ สนับสนุน หรือร่วมประกอบธุรกิจกับคนต่างด้าว หรือถือหุ้นแทนคนต่างด้าวในธุรกิจที่อยู่ในบัญชีท้ายพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. ๒๕๔๒ หรือคนต่างด้าวที่ยอมให้คนไทยกระทำการแทนดังกล่าว ตามมาตรา ๓๖ (ความผิดฐานนอมินี)
และกรณีที่คนต่างด้าวประกอบธุรกิจโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา ๓๗ เป็นความผิดมูลฐาน ตามร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ซึ่งจะนำไปสู่การยึด อายัดทรัพย์สินของผู้กระทำความผิดทั้งที่เป็นคนไทยและคนต่างด้าว ให้ตกเป็นของแผ่นดิน
ทั้งนี้เพื่อไม่ให้นำทรัพย์สินไปใช้ประโยชน์ หยุดยั้งการใช้บริษัทนอมินีและคนไทยเป็นเครื่องมือในการฟอกเงิน สร้างความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือของระบบธุรกิจในประเทศไทย และป้องกันการใช้ช่องว่างทางกฎหมายในการกระทำความผิด
ปัจจุบันร่างกฎหมายอยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็นในเว็บไซต์ระบบกลางทางกฎหมาย (https://law.go.th) ผู้สนใจสามารถเข้าร่วมแสดงความคิดเห็นได้จนถึงวันที่ 25เมษายน เพื่อสนับสนุนร่างกฎหมายดังกล่าว และเมื่อสิ้นสุดการรับฟังความคิดเห็นแล้ว สำนักงาน ปปง. จะพิจารณาเสนอร่างกฎหมายดังกล่าวต่อคณะรัฐมนตรีให้พิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบตามลำดับถัดไป
อย่างไรก็ดีการปราบปรามและการแก้ไขป้องกันธุรกิจอำพรางของคนต่างด้าว หรือนอมินีในประเทศไทย เป็นวาระสำคัญที่รัฐบาลเร่งดำเนินการเพื่อป้องปรามไม่ให้สร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมไทยเป็นอย่างมาก โดยมีการดำเนินการต่อเนื่องเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น โดยมีกระทรวงพาณิชย์เป็นหน่วยงานหลัก พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการความร่วมมือการทำงานร่วมกัน ตามแผนการดำเนินการของคณะกรรมการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย