ไมเนอร์ฯ รีแบรนดิ้ง ธุรกิจโรงแรมรอบ 50 ปี ปรับใหญ่ดิจิทัล ดึงนักเดินทางตรงทั่วโลก

ไมเนอร์ฯ รีแบรนดิ้ง  ธุรกิจโรงแรมรอบ 50 ปี ปรับใหญ่ดิจิทัล ดึงนักเดินทางตรงทั่วโลก
ไมเนอร์ โฮเทลส์ ใช้กลยุทธ์เชิงประสบการณ์ดิจิทัลผ่านแพลตฟอร์มโปรแกรมสมาชิกเพิ่มโอกาสจองที่พักตรง หลังรีแบรนดิ้งครั้งใหญ่ ปึ'70 มีโรงแรมเพิ่ม 850 แห่งทั่วโลก

'ดิลิป ราชากาเรีย’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไมเนอร์ โฮเทลส์ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ผู้ดำเนินธุรกิจโรงแรมระดับโลก เปิดเผยว่า ไมเนอร์ฯ ปรับโฉมใหม่แบรนด์ (Rebranding) ‘ไมเนอร์ โฮเทลส์’ เพื่อสะท้อนความสำเร็จตลอด 50 ปีที่ผ่านมา พร้อมมุ่งสู่การเติบโตธุรกิจอย่างยั่งยืน ในระดับโลก  

สำหรับการรีแบรนด์ ครั้งนี้ยังเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ ไมเนอร์ โฮเทลส์ นับตั้งแต่จุดเริ่มต้นธุรกิจในปี 2521 (1978) หลังจาก วิลเลียม อี. ไฮเน็ค ผู้ก่อตั้งบริษัท ได้เข้าซื้อกิจการโรงแรม Royal Garden Resort ในพัทยา ถึงปัจจุบัน ไมเนอร์ฯ กลายเป็นหนึ่งในผู้นำระดับโลกด้านธุรกิจโรงแรม ด้วยโรงแรมในเครือมากกว่า 560 แห่งใน 58 ประเทศ

ด้าน 'เอียน ดิ ทูลลิโอ' ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพาณิชย์ของ ไมเนอร์ โฮเทลส์ ผู้ดำเนินธุรกิจโรงแรมระดับโลก เปิดเผยว่าไมเนอร์ฯ วางแนวทางการเติบโตเชิงกลยุทธ์ พร้อมปรับอัตลักษณ์แบรนด์ (Rebranding) ครั้งใหญ่เพื่อมุ่งให้บริการประสบการณ์ดิจิทัลลูกค้าโดยตรง ด้วยโปรแกรมสมาชิก และโซลูชันสำหรับลูกค้ากลุ่มธุรกิจต่อธุรกิจ (B2B) พร้อมรองรับการขยายตัวธุรกิจในปี 2570 จะมีโรงแรมราว 850 แห่งทั่วโลก

“การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของกลุ่มธุรกิจโรงแรมระดับโลก ซึ่งปูทางการขยายพอร์ตโฟลิโอโรงแรมเพิ่มขึ้นอีกเกือบ 300 แห่ง ภายในปี 2570” เอียน กล่าว

ขณะเดียวกัน ยังได้ต่อยอดหลังการเข้าซื้อกิจการ เอ็นเอช โฮเทล กรุ๊ป (NH Hotel Group) ในปี 2561 ซึ่งปัจจุบันดำเนินงานภายใต้ชื่อ Minor Hotels Europe & Americas ที่เข้ามาช่วยขยายขอบเขตธุรกิจของกลุ่มให้เติบโตขึ้น 3 เท่าในตลาดโลก

สำหรับ การรีแบรนด์ครั้ง เพื่อสร้างอัตลักษณ์ใหม่ โดยรวมแบรนด์โรงแรมทั้งหมดมาไว้ภายใต้แบรนด์หลัก ไมเนอร์ โฮเทลส์ เพื่อผลักดันให้ธุรกิจก้าวสู่การเติบโต ด้วยช่องทางการขายที่แข็งแรงขึ้น พร้อมสร้างการจดจำในกลุ่มเป้าหมายนักเดินทาง ผ่านแประสบการณ์ดิจิทัลรูปแบบใหม่ อาทิ โปรแกรมสมาชิกที่ใช้งานง่ายขึ้น

ปัจจุบัน โรงแรมในเครือทั้ง 8 แบรนด์ของ ไมเนอร์ โฮเทลส์  ได้แก่

  • อนันตรา (Anantara)
  • อวานี (Avani)
  • เอเลวาน่า คอลเลคชั่น (Elewana Collection)
  • เอ็นเอช (NH)
  • เอ็นเอช คอลเลคชั่น (NH Collection)
  • นาว (nhow) โอ๊คส์ (Oaks)
  • ทิโวลี (Tivoli)

นอกจากนี้ ยังรวมประสบการณ์การเดินทางอื่น ๆ มาไว้ภายใต้แบรนด์หลัก ไมเนอร์ โฮเทลส์ เพื่อช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์และความโดดเด่นของกลุ่มโรงแรมให้แข็งแกร่งขึ้น และยังมาพร้อมกับการปรับโครงสร้างแบรนด์ โดยจัดกลุ่มโรงแรมออกเป็นสามระดับ ได้แก่

  • ลักชัวรี (Luxury)
  • พรีเมียม (Premium)
  • เซเลกต์ (Select)

ทั้งนี้ เพื่อช่วยให้แขกสามารถเลือกโรงแรมที่เหมาะกับความต้องการของตนเองได้อย่างตรงจุด ทางกลุ่มยังมีแผนขยายพอร์ตโฟลิโอแบรนด์โรงแรมเพิ่มเติม เพื่อตอบสนองความต้องการของทั้งแขกผู้เข้าพักและเจ้าของโรงแรม โดยมีแผนจะเปิดตัวแบรนด์ใหม่อย่างน้อยสองแบรนด์ภายในปีนี้

 

ถอด ‘อัตลักษณ์’ แบรนด์ใหม่

 

สำหรับ ภาพลักษณ์ใหม่ ‘ไมเนอร์ โฮเทลส์’ จะให้ความสดใสด้วยหัวลูกศรภายในตัวอักษร ‘M’ ของโลโก้ใหม่เป็นสัญลักษณ์ทิศทางและการนำทาง ชี้ไปสู่การค้นพบ การเชื่อมต่อ และการผจญภัย พร้อมสะท้อนบทบาทของไมเนอร์ฯ ร่วมสร้างประสบการณ์การเดินทางให้กับผู้เข้าพัก    

 

อัตลักษณ์ใหม่ของแบรนด์ ประกอบด้วย สีสัน ฟอนต์เอกลักษณ์ของแบรนด์ และสไตล์ภาพถ่ายที่ดึงดูด โดยรับแรงบันดาลใจจากแก่นแท้ของแบรนด์ภายใต้แนวคิด ‘What Matters Most’ หรือ ‘สิ่งที่สำคัญที่สุด’

เน้น 'ประสบการณ์ดิจิทัล'

 

นอกจากนี้ ไมเนอร์ โฮเทลส์ ยังได้ปรับโฉมหน้าเว็บไซต์ minorhotels.com มาเป็นแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์การใช้งานของผู้บริโภคโดยเฉพาะ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า/แขก สามารถจองที่พักจากโรงแรมในเครือกว่า 560 แห่ง รวมถึงค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับจุดหมายปลายทางต่าง ๆ  ได้ครบจบภายในเว็บไซต์เดียว

พร้อมกันนี้ ยังเปิดตัวใหม่ แอปพลิเคชันมือถือแพลตฟอร์มเดียวที่รวมทุกแบรนด์ในเครือเข้าไว้ด้วยกัน แทนแอปพลิเคชันแยกตามแบรนด์โรงแรม เพื่อให้นักเดินทางใช้แอปฯ Minor Hotels ทำการจอง/จัดการการจอง/ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับจุดหมายปลายทางต่าง ๆ รวมถึงติดต่อทีมโรงแรมและขอรับบริการต่าง ๆ ระหว่างการเข้าพักผ่านแอปพลิเคชันเดียวอีกด้วย พร้อมฟังก์ชั่นรวมห้องอาหาร สปา และเวลเนส ไว้ด้วยกันกับห้องพักในที่เดียว โดยนำความชอบและข้อเสนอแนะจากลูกค้ามาใช้ในการพัฒนาเพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีขึ้น

 

 

โปรแกรมรักษาฐานสมาชิกฯ

 

ขณะเดียวกัน ไมเนอร์ โฮเทลส์ ยังพัฒนาโปรแกรมสะสมคะแนนสมาชิกของกลุ่มพันธมิตรโรงแรมสากล (Global Hotel Alliance: GHA) ในชื่อใหม่ Minor DISCOVERY ซึ่งจะมาแทนโปรแกรมสมาชิกเดิมของแต่ละแบรนด์โรงแรม ได้แก่

  • Anantara DISCOVERY
  • Avani DISCOVERY
  • NH DISCOVERY
  • Oaks DISCOVERY
  • Elewana DISCOVERY
  • Tivoli DISCOVERY

 

ขยายฐานกลุ่มลูกค้า B2B

 

นอกจากนี้ ไมเนอร์ โฮเทลส์ ยังเปิดตัวแพลตฟอร์มใหม่ Minor PRO โดยรวมแพลตฟอร์มเดิมของแต่ละแบรนด์ เช่น NH PRO, Anantara Journeys และ Oaks Professionals ไว้ในที่เดียว เพื่อนำเสนอโซลูชันที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ากลุ่มมืออาชีพ เพื่อมอบประสบการณ์ที่สะดวกยิ่งขึ้น สำหรับกลุ่มลูกค้า B2B

จากแนวทางดังกล่าว ไมเนอร์ โฮเทลส์ ได้วางแผนสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าทุกกลุ่ม ผ่านช่องทางต่าง ๆ บนแพลตฟอร์มดิจิทัล  และมือถือ พร้อมการเปลี่ยนแปลงด้านการตลาด ช่องทางการขาย และการสื่อสารภายในโรงแรมในเครือ

 

 

 

 

 

 

 

 

TAGS: #ไมเนอร์โฮเทลส์