ALPLA ยกให้ไทย ‘ฮับ’ ผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติก เปิดโรงงานใหม่ รับดีมานด์ตลาดเอเชียฯ

ALPLA ยกให้ไทย ‘ฮับ’ ผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติก เปิดโรงงานใหม่ รับดีมานด์ตลาดเอเชียฯ
ALPLA Group ขยายลงทุนในไทย เปิดโรงงานแห่งใหม่ในฉะเชิงเทรา ย้ำตำแหน่งศูนย์กลางผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติก รับความต้องการตลาดเอเชียฯ พร้อมรีไซเคิลพลาสติกขนาดใหญ่เสริมแกร่งเศรษฐกิจหมุนเวียน

ฟิลิป เลห์เนอร์ ซีอีโอของ ALPLA เปิดเผยว่า ALPLA ดำเนินธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติกมากว่า 70 ปี มีโรงงานกว่า 200 แห่งใน 46 ประเทศ และเข้ามาอยู่ในไทยเมื่อปี 2000 โดยก่อตั้งโรงงานร่วมกับบริษัทสินค้าอุปโภคบริโภคระดับโลก และขยายการดำเนินงานที่จังหวัดปราจีนบุรีในปี 2004 ล่าสุด บริษัทได้ขยายการลงทุนโดยเปิดโรงงานใหม่ในจังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อรองรับความต้องการผลิตภัณฑ์ฯ ที่จะเพิ่มขึ้นและยกระดับนวัตกรรมการผลิต เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในตลาดระดับเอเชียแปซิฟิก

บรรจุภัณฑ์พลาสติกเป็นโซลูชันที่ปลอดภัย คุ้มค่า และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าวัสดุอื่น เช่น แก้วหรือโลหะ เนื่องจากมีน้ำหนักเบา ทนทาน และใช้พลังงานต่ำในการผลิต อีกทั้ง PET และ PE ซึ่งเป็นวัสดุหลัก ยังสามารถรีไซเคิลได้สูง และเป็นส่วนสำคัญของเศรษฐกิจหมุนเวียน

“บรรจุภัณฑ์พลาสติกช่วยให้การขนส่งง่ายขึ้น ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และยังคงคุณภาพสินค้าได้อย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่ม ผงซักฟอก หรือแม้แต่น้ำมันเครื่อง นอกจากนี้ ต้นทุนการผลิตที่ต่ำยังช่วยส่งเสริมการเข้าถึงสินค้าจำเป็นในภูมิภาคที่กำลังพัฒนา เช่น เอเชียแปซิฟิก” เลห์เนอร์กล่าว

ด้าน แดเนียล ชู  ผู้จัดการทั่วไปของ ALPLA ประเทศไทย กลาวว่า โรงงานแห่งใหม่นี้มีพื้นที่กว่า 24,000 ตารางเมตร รองรับการผลิตด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง และจะเป็นสำนักงานใหญ่ของ ALPLA ในไทย โดยมีพนักงาน 192 คน ครอบคลุมทั้งฝ่ายผลิต ฝ่ายเทคนิค และฝ่ายบริหาร

“ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางสำคัญของเราในเอเชียแปซิฟิก ซึ่งโรงงานใหม่ในฉะเชิงเทรา เป็นทำเลศักยภาพด้วยเชื่อมต่อกับกรุงเทพฯสะดวก ทำให้เราสามารถให้บริการลูกค้าได้รวดเร็วขึ้น อีกทั้งยังช่วยดึงดูดบุคลากรที่มีคุณภาพมาร่วมงานกับเรา” ชู กล่าว

นอกจากนี้ ALPLA ยังมุ่งให้ความสำคัญการผลิตด้วยนวัตกรรมผ่าน STUDIOa ศูนย์ออกแบบผลิตภัณฑ์ครบวงจร ซึ่งจะช่วยเร่งกระบวนการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้ลูกค้าสามารถเห็นต้นแบบได้อย่างรวดเร็ว

ด้าน โรแลนด์ วอลล์เนอร์ กรรมการผู้จัดการภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (APAC) ของ ALPLA ระบุว่า STUDIOa จะเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เน้นการรีไซเคิลและลดการใช้วัสดุโดยไม่ลดคุณภาพ โดยบริษัทเตรียทนำเทคโนโลยีการฉีดขึ้นรูป (IM) และการเป่าขึ้นรูปแบบขั้นตอนเดียว (ISBM) เข้ามาในไทย พร้อมทั้งลงทุนอย่างต่อเนื่องในโรงงานรีไซเคิล ENVICCO โดยบริษัทฯ ก่อตั้งร่วมกับ PTT Global Chemical ในปี 2022

“ENVICCO เป็นโรงงานรีไซเคิลพลาสติกขนาดใหญ่ที่สุดในไทย สามารถผลิตเม็ดพลาสติก rPET (รีไซเคิลจากขวดเครื่องดื่ม) ได้ 30,000 ตัน และ rHDPE (รีไซเคิลจากขวดพลาสติกชนิดแข็ง) ได้ 15,000 ตันต่อปี ซึ่งถูกนำไปใช้ในโรงงานของ ALPLA ในปราจีนบุรีและฉะเชิงเทรา ขวดพลาสติกที่ผลิตจาก rPET 100% ได้ออกสู่ตลาดไทยแล้วตั้งแต่ปี 2023 และเราจะเดินหน้าขยายโครงการรีไซเคิลเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจหมุนเวียนต่อไป” วอลล์เนอร์กล่าว

สำหรับอนาคตของ ALPLA ในไทย ในจังหวัดปราจีนบุรีจะมุ่งเน้นการผลิตเฉพาะทาง ขณะที่โรงงานฉะเชิงเทราจะกลายเป็นศูนย์กลางแห่งใหม่ โรงงานที่ปราจีนบุรีจะปรับบทบาทให้มุ่งเน้นการผลิตบรรจุภัณฑ์แบบเป่าขึ้นรูป (Extrusion Blow Moulding - EBM) ซึ่งเหมาะสำหรับสินค้าประเภทเครื่องสำอาง ของใช้ในบ้าน อาหาร น้ำมัน และสารหล่อลื่น

ปัจจุบัน ALPLA Group มีพนักงานกว่า 24,350 คน ทั่วโลก โดยให้บริการลูกค้าในหลายอุตสาหกรรม ตั้งแต่ อาหารและเครื่องดื่ม เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด น้ำมันเครื่อง และยานอกจากการผลิตบรรจุภัณฑ์ บริษัทฯ ยังมีโรงงานรีไซเคิล PET และ HDPE ในหลายประเทศ รวมถึง ออสเตรีย เยอรมนี โปแลนด์ เม็กซิโก อิตาลี สเปน แอฟริกาใต้ โรมาเนีย ไทย และบราซิล เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจหมุนเวียนและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยกลยุทธ์การขยายกำลังการผลิต ควบคู่ไปกับการมุ่งเน้นนวัตกรรมและการรีไซเคิล ALPLA พร้อมเดินหน้าสู่อนาคตของบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ปลอดภัย คุ้มค่า และยั่งยืน

TAGS: #ALPLA #ALPLAGroup #พลาสติก