‘เพลิคาน่า’ แบรนด์ร้านไก่ทอดเก่าแก่จากเกาหลีมาเปิดตัวในไทยแล้ว ด้วยกลยุทธ์เปิดกว้างให้มาสเตอร์แฟรนไชส์ ‘ครีเอท’ ได้ทั้งเมนูและรูปแบบร้าน เพื่อชิงส่วนแบ่งตลาดไก่ทอดมูลค่ากว่า 3 หมื่นล.บาท
มาคัส ลี ผู้บริหารแบรนด์เพลิคาน่า ประเทศเกาหลีใต้ (Pelicana Korea) ย้อนจุดเริ่มต้นไก่ทอดแบรนด์ ‘เพลิคาน่า’ เป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกธุรกิจร้านไก่ทอดเกาหลี โดยก่อตั้งขึ้นในปี 1982 ถึงปัจจุบันมีอายุกว่า 42 ปี และได้รับความนิยมอย่างสูง ด้วยมีถึง 1,245 สาขาในเกาหลี และจำนวนมากกว่า 3,000 สาขาทั่วโลก
ต่อการเติบโตธุรกิจสะท้อนผ่านสาขาจำนวนมากดังกล่าว มาจากหนึ่งในกลยุทธ์การขยายธุรกิจ Pelicana ในรูปแบบแฟรนไชส์ไปยัง 16 ประเทศสำคัญทั่วโลก อาทิ สหรัฐอเมริกา แคนาดา อังกฤษ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ไต้หวัน มาเลเซีย และ จีน
ล่าสุดในปี 2568 นี้ ได้ขยายการทำธุรกิจไก่ทอดเกาหลี ‘เพลิคาน่า’ มายังประเทศไทย โดยมอบสิทธิ์การบริหารในรูปแบบมาสเตอร์แฟรนไชส์ให้กับพันธมิตรท้องถิ่น (บริษัท เพลิคาน่า ประเทศไทย จำกัด) เป็นผู้ดำเนินงานทั้งหมด โดย เพลิคาน่า เกาหลี จะเข้าไปสนับสนุนในส่วนของเทคโนโลยี วัตถุดิบ และ การวิจัยและพัฒนาเมนูอาหารต่าง ๆ ร่วมกัน
“การให้สิทธิ์มาสเตอร์แฟรนไชส์ในไทย ถือเป็นโมเดลธุรกิจรูปแบบใหม่ครั้งแรกของเพลิคาน่า ที่เปิดโอกาสให้พาร์ทเนอร์ท้องถิ่น มีความอิสระในการดำเนินธุรกิจ ทั้งการพัฒนาเมนูใหม่อย่างข้าวมันไก่ทอด ที่ขายเฉพาะสาขาในไทย ซึ่งหากได้ผลตอบรับดี ยังมีแผนนำสินค้าไปทำตลาดในสาขาต่างประเทศด้วย” มาคัส กล่าวพร้อมเสริมว่า “บริษัทแม่ ยังเปิดโอกาสให้เพลิคาน่า ประเทศไทย พัฒนาการขยายสาขาร้านในโมเดลที่เหมาะสมในแต่ทำเลที่จะเข้าไปเปิดให้บริการ เพื่อสร้างโอกาสในการทำตลาดและขยายฐานกลุ่มเป้าหมายในวงกว้างด้วย”
พร้อมทิ้งท้ายที่มาแบรนด์ ‘เพลิคาน่า’ ไก่ทอดเกาหลี มีจุดเริ่มต้นมาจากวัฒนธรรมการกินไก่ทอดของคนอเมริกา ได้นำเข้ามาเผยแพร่ในเกาหลีใต้เมื่อกว่า 40 ปีก่อน โดยในช่วงเวลานั้นผู้ก่อตั้ง ‘เพลิคาน่า’ มองเห็นโอกาสในการทำตลาดไก่ทอดพร้อมคิดค้น ‘สูตรลับ’ นำมาใช้ทั้งการหมักวัตถุดิบ และตัวซอสโคชูจังปรุงพิเศษเพื่อใช้คลุกไก่ทอด จนได้รสชาติเอกลักษณ์ทำให้ครองใจเหล่านักกินไก่ทอดในตลาดมาได้นานถึง 4 ทศวรรษ
ส่วนที่มาชื่อของแบรนด์ ‘เพลิคาน่า’ มาจากคำศัพท์ภาษาอังกฤษ นกกระทุง (Pelican) และคำว่า 'อเมริกาน่า' (Americana) ที่หมายถึงคนอเมริกัน ซึ่งเมื่อนำมารวมกันจนได้เป็นชื่อแบรนด์ เพลิคาน่า (Pelicana) เพื่อทำตลาดไก่ทอดสไตล์เกาหลีที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และกลายเป็นแบรนด์ส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมไก่ทอดคลุกซอสเกาหลีของทั้งผู้บริโภคท้องถิ่นและตลาดทั่วโลก ถึงในปัจจุบัน
ใช้รสชาติ-โมเดลสาขาใหม่ ขยายธุรกิจ
ด้าน อรรถวุฒิ นิธิกอบกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัท เพลิคาน่า (ประเทศไทย) กล่าวว่า บริษัทมั่นใจความเป็นเอกลักษณ์ไก่ทอดเกาหลีเพลิคาน่าด้วยรสชาติที่แตกต่างไปจากรายอื่น และมั่นใจว่า จะเป็น ‘รสชาติอร่อยที่สุด’ ทำให้ตัดสินใจรับสิทธิ์บริหารธุรกิจเพลิคาน่า ในฐานะมาสเตอร์แฟรนไชส์ในไทย
“จากประสบการณ์การทำธุรกิจอาหารในช่วงก่อนหน้า พบว่า รสชาติอาหารที่อร่อยจะเป็นคีย์ซัคเซสในการทำร้านอาหารให้ประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน” อรรถวุฒิ กล่าวพร้อมเสริมว่า "บริษัทฯ ได้เซ็นสัญญาเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในประเทศไทยเพียงผู้เดียว พร้อมเปิด สาขาแรกที่อาคาร สยาม สเคป ชั้น 3 ใจกลางสยามสแควร์"
ขณะที่ จุดเด่นร้านไก่ทอดเพลิคาน่า คือ คุณภาพอาหารระดับพรีเมียม รสชาติเดียวกับในเกาหลี พร้อมทอดไก่ทีละจาน ใช้วัตถุดิบนำเข้าจากเกาหลี มี 10 รสชาติ อาทิ ซอสซิกเนเจอร์ ซอสน้ำผึ้ง ซอสสโมกกี้ฮ็อต ซอสกังจอง ซอสเผ็ด ซอสสโมกกี้มาโย ซอสเผ็ดมาโย ซอสกระเทียม ซอสถั่วเหลือง และ โรยผงชีส วางจำหน่ายสินค้าในราคาเริ่มต้น 99 บาท
นอกจากนี้ ยังมีอาหารเกาหลียอดนิยม อาทิ เบอร์เกอร์ไก่ทอด ซุปกิมจิ ข้าวผัดกิมจิ ต๊อกบกกี ชีสบอล เป็นต้น และพัฒนาเมนูพิเศษวางขายเฉพาะในไทย คือ ข้าวมันไก่ พร้อมแผนพัฒนาเมนูตามฤดูกาล (Seasonal Menu) เพื่อกระตุ้นการบริโภคอย่างต่อเนื่อง
สำหรับแผนขยายธุรกิจ วางแผนเปิดอีก 5 สาขาในปีนี้ และเพิ่มเป็น 10 สาขาในปี 2569 และ 20 สาขาในปี 2570 คาดใช้งบลงทุนไม่ตำกว่า 10 ล้านบาทต่อสาขา
“เพลิคาน่า ในไทยยังมีแผนพัฒนาสาขาเพลิคาน่าในรูปแบบใหม่ๆ เพื่อรองรับและเข้าถึงผู้บริโภคชาวไทยโดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ให้เข้าถึงการกินไก่ทอดเกาหลีเพลิคาน่า ได้ครอบคลุมทุกกลุ่มในแต่ละทำเลที่เปิดให้บริการ รวมถึงมีความเป็นไปได้ในการปิดสาขาในพื้นที่แฮงค์เอาต์บันเทิงอย่างกรูฟ เซ็นทนรัลเวิลด์ ด้วยในอนาคต” อรรถวุฒิ กล่าว
สร้างแบรนด์โตพร้อมเจนฯอัลฟ่า
ด้าน อทิต ปัญทเศรษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่การตลาด (CMO) บริษัท เพลิคาน่า ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ภายใน 2 ปีนี้ บริษัทฯมีแผนทำตลาดหลักในกรุงเทพมหานคร ในศูนย์การค้าต่างๆ เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าหลัก Gen Y ช่วงต้นๆ ในกลุ่ม First Jobber และคนทำงานรุ่นใหม่อายุ 22-30 ปี และ Gen Z กลุ่มนักเรียนมัธยมและนักศึกษามหาวิทยาลัย รวมถึงแฟนคลับของซีรีส์เกาหลี แฟนคลับศิลปิน K-Pop ทุกเพศทุกวัย รวมถึงกลุ่มนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะชาวเอเชีย ที่มีกำลังซื้อเป็นลูกค้าเป้าหมายด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนเปิดบริการเดลิเวอรี่ (Delivery) ผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ ทั้ง Grab, Lineman, Robinhood เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าในกรุงเทพมหานคร พร้อมแผนขยาย CLOUD Kitchen เพื่อขยายพื้นที่การให้บริการได้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้จากสินค้าและราคาไก่ทอดเกาหลีเพลิคาน่าที่วางไว้ รวมถึงการเปิดสาขาแรกในย่านสยามสแควร์ จะเป็นองค์ประกอบเชิงกลยุทธ์สำคัญในการทำตลาด ทั้งการสร้างแบรนด์เพลิคาน่าให้เข้ากลุ่มเป้าหมายเจนเนอเรชั่นซีและอัลฟ่า ที่อย่างหลังเป็นช่วงวัยกำลังเติบโตเป็นวัยรุ่นให้เข้าถึงแบรนด์ด้วยรสชาติความอร่อยของไก่ทอดเกาหลี และเมนูต่างๆ และสร้างให้เป็นกระแสปากต่อปาก (Word of mouth) ได้เป็นอย่างดี
จากศักยภาพของทำเลอาคารสยามสเคป เป็นแหล่งรวมผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ นักเรียน/นักศึกษา ที่ไม่มีผลกระทบด้านกำลังซื้อด้วยผู้ปกครองส่วนใหญ่พร้อมสนับสนุนค่าใช้จ่ายให้กับลูกหลานที่ใช้ชีวิตในย่านนี้เฉลี่ย 500-1,000 บาทต่อวัน
“เพราะว่าเด็กๆชอบกินไก่ทอด และเพลิคาน่าจะใช้ความอร่อยของไก่ทอดเกาหลีเข้ามาทำความรู้จักและสร้างการเติบโตไปพร้อมกับกลุ่มเป้าหมายนเจนฯ อัลฟ่าในอนาคต” อทิต กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทฯตั้งเป้ารายได้ปี 2568 ราว 100 ล้านบาท และตั้งเป้าธุรกิจ 3 ปี จะมีรายได้รวมประมาณ 500 ล้านบาท และจะมีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 2.5 % ของตลาดร้านอาหารแนวใหม่ที่ทันสมัย ซึ่งธุรกิจอาหารประเภท QSR ซึ่งมีร้านไก่ทอดเป็นเซกเมนต์ที่สำคัญ มีมูลค่าตลาดประมาณ 30,000 ล้านบาทต่อปี และเติบโตปีละ 8 % โดยแบรนด์เคเอฟซี (KFC) ครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุด 52% ส่วนแบรนด์บอนชอน (Bonchon) คาดมีlสัดส่วนรายได้ราว 2,200 ล้านบาท