‘พีระพันธุ์’สั่งพลังงานจังหวัดศึกษาหวังแปลงกระแสน้ำให้เป็นพลังงานผลิตไฟฟ้าช่วยดูแลประชาชน 400 ครัวเรือน ใช้ไฟฟ้าราคาถูก

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน  เปิดเผยหลังติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดชุมพร สุราษฏร์ธานี และนครศรีธรรมราช ถึงแนวทางแก้ไขปัญหาน้ำท่วมอย่างยั่งยืนว่า วิธีการที่สามารถดำเนินการได้คือการแปลงพลังงานน้ำให้เป็นพลังงานไฟฟ้า ซึ่งช่วยชะลอกระแสน้ำไม่ให้สร้างความเดือดร้อนเสียหายแก่ประชาชนแล้ว  ความแรงของกระแสน้ำยังสามารถนำไปผลิตไฟฟ้าในต้นทุนต่ำเพื่อลดภาระค่าไฟฟ้าของครัวเรือน และยังเป็นแหล่งกักเก็บน้ำสำหรับใช้ในการเกษตรได้ด้วย

ทั้งนี้จากการไปตรวจเยี่ยมและพบปะประชาชนครั้งนี้ ตนเห็นว่าในบางพื้นที่ที่มีปริมาณน้ำมากและไหลแรงสามารถนำกระแสน้ำมาผลิตเป็นกระแสไฟฟ้าได้ ซึ่งจะเป็นอีกแนวทางในการแก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากอย่างยั่งยืน และสามารถช่วยเหลือเกษตรกรให้มีน้ำใช้ในการเพาะปลูก อีกทั้งยังช่วยลดภาระค่าไฟฟ้าของประชาชนในพื้นที่ เนื่องจากการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานน้ำมีต้นทุนถูกกว่าการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติหลายเท่า ทั้งนี้ได้มอบหมายให้ทางพลังงานจังหวัดศึกษาข้อมูลรายละเอียดและประสานงานกับส่วนกลางเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ต่อไป

.อย่างไรก็ตามสถานการณ์น้ำท่วมที่ บ้านห้วยน้ำเน่า อ.สิชล ได้เสนอแนวทางแก้ปัญหาน้ำท่วมอีกวิธีหนึ่ง   ซึ่งพื้นที่ตรงนั้นมีปริมาณน้ำเยอะและไหลแรง  แต่ไม่ได้เห็นเป็นแค่น้ำ เพราะเห็นเป็นไฟฟ้า  ดังนั้นตรงนี้น่าจะทําเป็นแหล่งเก็บน้ำเพื่อผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กให้ชาวบ้าน  เนื่องจากจะช่วยชะลอน้ำเวลาถึงฤดูน้ำหลาก และยังสามารถเก็บกักน้ำไว้ใช้เพื่อการเกษตร

ขณะเดียวกัน ความแรงของน้ำที่ไหลผ่านยังสามารถนำมาผลิตกระแสไฟฟ้าได้อย่างน้อย 2 เมกะวัตต์  ซึ่งสามารถดูแลพี่น้องประชาชนได้ประมาณ 400 ครัวเรือน  และจะช่วยลดภาระค่าไฟฟ้าหลัก ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 4.18 บาทต่อหน่วยเพราะผลิตจากก๊าซ  ขณะที่ต้นทุนการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังน้ำอยู่ที่ประมาณ 1 บาทกว่า ๆ เท่านั้น โดยได้ให้กระทรวงพลังงานรวบรวมข้อมูลและศึกษาความเป็นไปได้เพื่อจัดทำเป็นโครงการต้นแบบในการแก้ปัญหาน้ำท่วมอีกแนวทางหนึ่ง