เซ็นทรัลพัฒนา ย้ำแพลตฟอร์มครบวงจรหนุนระบบนิเวศธุรกิจแกร่ง พาแบรนด์ระดับโลกปักหมุดไทยพร้อมเติมคู่ค้าแบรนด์ไทยโตด้วยกัน ปี68 ยังไปต่อเปิดศูนย์ฯ ใหม่ทั้งใน/ต่างประเทศ
อิศเรศ จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายขาย บริษัทเซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรโรงแรม, ศูนย์การค้า และอาคารสำนักงาน เปิดเผยว่า เซ็นทรัลพัฒนา วางแนวทางการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืนไปพร้อมทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องและพันธมิตรคู่ค้า
โดยปัจจุบันมีศูนย์การค้ากว่า 41 สาขาในทำเลยุทธศาตร์ (Strategic Prime Locations) ทั่วประเทศ ด้วยจำนวนแบรนด์กว่า 18,000 ร้านค้า และยังเป็น เฮาส์ ออฟ โกลบอล แบรนด์ (House of Global Brands) จาก 76 แบรนด์ดังระดับโลก เข้ามาเปิดสาขาแรกในไทย พร้อมแฟลกชิปสโตร์กว่า 44 แบรนด์
“ในปี 2568 เตรียมพบกับแบรนด์ระดับโลกที่เลือกกลับมาเปิดใหม่ในไทยอีกครั้ง อาทิ AESOP แบรนด์สกินแคร์ชั้นนำระดับโลกจากประเทศออสเตรเลียเปิดตัวแฟล็กชิปสโตร์ในคอนเซปต์ใหม่ และ GENKI SUSHI ซูชิสายพานจากญี่ปุ่น ใช้ Kousoku Train รถไฟความเร็วสูงเพื่อเสิร์ฟซูชิถึงโต๊ะ” อิศเรศ กล่าวพร้อมเสริมว่า
ในไตรมาส 4 ปีหน้า ยังวางแผนเปิดศูนย์การค้าอีก 1 แห่งในมาเลเซีย รวมถึงโครงการ ‘ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค’ โครงการขนาดใหญ่ที่ร่วมพัฒนากับบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) โดยในส่วนของเซ็นทรัล พาร์ค ออฟฟิศ (Central Park Office) จะเปิดให้บริการใน Q3 ปี 2568 และศูนย์การค้าเซ็นทรัล พาร์ค (Central Park) จะเปิดให้บริการใน Q4 ปี 2568 เพื่อดึงดูดคลื่นนักท่องเที่ยวให้หลั่งไหลเข้ามาพร้อมเม็ดเงินหมุนเวียนจากทั่วโลก
“ในสาขาเมืองท่องเที่ยว เซ็นทรัล ภูเก็ต ยังมีแบรนด์แฟชั่นไลฟ์สไตล์ชั้นนำที่จะเปิดเพิ่มอีกในปีหน้า ด้วย” อิศเรศ กล่าว
ขณะที่ในปี 2567 นี้ เซ็นทรัลฯ ได้แบรนด์ระดับโลกมาเปิดสาขาแรก รวมถึงแฟล็กชิปสโตร์กับศูนย์การค้าเซ็นทรัล ซึ่งได้รับความนิยมและเป็นกระแสไวรัล สร้าง Talk of the Town ให้ถูกพูดถึงในวงกว้างทั่วประเทศ อาทิ
- Food & Beverage: HIKINIKU TO COME ร้านแฮมเบิร์กยอดนิยมจากญี่ปุ่น
- KATSU MIDORI ร้านซูชิสายพานเจ้าดังจากญี่ปุ่น
- TONKATSU AOKI ร้านทงคัตสึเจ้าดังจากญี่ปุ่น
- KAZAMA YAKINIKU เนื้อย่างระดับพรีเมี่ยมจากญี่ปุ่น
- BHC CHICKEN แบรนด์ไก่ทอดเกาหลี
- PIZZA MARU พิซซ่าชื่อดังจากเกาหลี
- CHICHA SAN CHEN ชาระดับพรีเมียมจากไต้หวัน แฟล็กชิปสโตร์ร้านแรกที่เดียวในไทย
- KUMO KUMO CHEESE ร้านชีสเค้กสไตล์ญี่ปุ่น จากประเทศจีน
- Fashion & Lifestyle: BEYOND THE VINES กระเป๋าแบรนด์ดังจากสิงคโปร์ แฟล็กชิปสโตร์แห่งแรกและใหญ่ที่สุด
- RITUALS แบรนด์เครื่องหอมชื่อดังจาก Amsterdam
- WILSON แบรนด์อุปกรณ์เทนนิสระดับโลก ในคอนเซ็ปต์ 360 Store รูปแบบใหม่แห่งแรกในไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
- APM MONACO แบรนด์เครื่องประดับหรูจากโมนาโก
- CASETIFY แบรนด์ไลฟ์สไตล์ที่เชี่ยวชาญด้านเคสโทรศัพท์และอุปกรณ์เทคโนโลยีจากฮ่องกง
- NATIONAL GEOGRAPHIC แบรนด์ร้านเสื้อผ้าและอุปกรณ์ท่องเที่ยวแห่งแรกในประเทศไทย
- AERIE แบรนด์ชื่อดังจากอเมริกาที่ครอบคลุมทุกความต้องการของผู้หญิง
- BOUNCETOPIA สวนสนุกเป่าลมยักษ์อันดับ 1 จากสิงคโปร์แห่งแรกในไทย ใหญ่สุดในเอเชีย
- เป็นต้น
อิศเรส กล่าวว่า แบรนด์ทั้งหมดดังกล่าว เป็นส่วนยืนยันความสำเร็จของเซ็นทรัล ในฐานะผู้นำศูนย์การค้าจุดหมายปลายทางอันดับแรกที่แบรนด์ระดับโลกและแบรนด์ไทยชั้นนำเลือกขยายธุรกิจไปทั่วประเทศสู่ตลาดใหม่และขยายกลุ่มฐานลูกค้า แบรนด์ระดับโลก อาทิ BIRKENSTOCK, CAMPER, COACH, H&M, H&M HOME, LONGCHAMP, LULULEMON, MAISON KITSUNE, MASSIMO DUTTI, MCM, MUJI, POLO RALPH LAUREN, POP MART, UNIQLO, ZARA, HAIDILAO, SUSHIRO, YAKINIKU LIKE, NITORI, BOUNCETOPIA
ล่าสุด ยังได้ขยายในรูปแบบแฟล็กชิปสโตร์ของแบรนด์ GUESS, LEVI’S, MLB, NIKE, PUMA, SKECHERS, THE NORTH FACE
นอกจากนี้ ยังได้แบรนด์หรูระดับโลก อย่าง BALENCIAGA, BOTTEGA VENETA, BURBERRY, BVLGARI, CELINE, DIOR, GUCCI, HERMÈS, LOUIS VUITTON, OMEGA, PMT THE HOUR GLASS, PRADA, SAINT LAURENT, TIFFANY & CO., VERSACE, และ ZEGNA ร่วมเปิดให้บริการอย่างต่อเนื่องที่เซ็นทรัลภูเก็ต เพื่อตอกย้ำ The World's Luxury Magnitude ครบที่สุดนอกกรุงเทพฯ รวมถึงแบรนด์ที่ปรับโฉมร้านใหม่ที่เซ็นทรัล ภูเก็ต อาทิ ZARA, H&M, H&M HOME
อิศเรศ เสริมว่า นอกจากนี้ยังมีแบรนด์ไทยชั้นนำ อาทิ AIIZ, BEAUTRIUM, CARNIVAL, JASPAL, GENTLEWOMAN, MK RESTAURANTS, BAR B Q PLAZA, และ BIG CAMERA เป็นต้น ไปพร้อมสนับสนุนผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่มี แรงบันดาลใจและแนวคิดสร้างสรรค์ อาทิ RAVIPA, WITH IT, URTHE, YUEDPAO, โรงชาชงดี เป็นต้น ผ่านโปรแกรม ‘LEAD’ by Central Pattana คอร์สรีเทลที่ดีที่สุด ในการสร้างความสำเร็จกว่า 200 แบรนด์ ให้เติบโตธุรกิจไปร่วมกัน
โดยความสำเร็จดังกล่าว ดำเนินการด้วย 3 กลยุทธ์สำคัญ ซึ่งเป็นจุดแข็งของเซ็นทรัลพัฒนา ประกอบด้วย
- Holistic Partnership: ทีมงานเฉพาะทางทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์อย่างใกล้ชิด ‘Tenant Centric’ รวมถึงการ Co-create กับแบรนด์ เพื่อให้คู่ค้า ผู้ประกอบการท้องถิ่น และชุมชนเข้ามาอยู่ใน Ecosystem ที่ยั่งยืนร่วมกัน
- Entrepreneurial Incubator: โปรแกรมเสริมศักยภาพผู้ประกอบการ Retail Incubation Programme กระตุ้นให้ผู้เรียนรู้จักตัวเองและสามารถเติบโตอย่างยั่งยืน ภายใต้คำแนะนำจากกูรู พร้อมกลยุทธ์ที่ชัดเจน มีสนามให้ทดลองนำแนวคิดใหม่ๆ เช่น โครงการ ‘LEAD’ by Central Pattana สร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ต่อเนื่องกว่า 200 แบรนด์ ในระยะเวลา 6 ปี
- The Most Powerful Big Data: แบรนด์คู่ค้า Central Pattana มีอัตราการเติบโตสูงกว่าแบรนด์ทั่วไปถึง 2.7 เท่า เมื่อเข้าร่วม ‘โปรแกรม The 1 BIZ’ Data Platform พร้อมใช้ให้คู่ค้าเข้าถึง Data ที่ใหญ่และแข็งแรงที่สุด ผ่านการร่วมมือกับ The 1 ด้วยฐานสมาชิกกว่า 21 ล้านคน ฯลฯ
นอกจากนี้ เซ็นทรัลพัฒนา ยังเป็นผู้บุกเบิกตลาด ด้วยแพล็ตฟอร์มทุกรูปแบบ(format) ทั้ง ศูนย์การค้าเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Mall) ทั่วประเทศ, ศูนย์ฯเชิงท่องเที่ยว (Tourist Mall) ศูนย์ฯระดับภูมิภาค (Super Regional Mall) เอาต์เล็ตลักซูรี่ (Luxury Mall & Luxury Outlet) เพื่อรองรับการเติบโตของแบรนด์คู่ค้า และขยายแบรนด์ออกไปได้ทั่วประเทศ โดยมีไฮไลต์ คือ เซ็นทรัลเวิลด์ ทำเลใจกลางกรุงเทพฯ มีการสัญจรในย่านเฉลี่ยกว่า 600,000 คนต่อวัน
รวมถึงศูนย์การค้ากระจายอยู่ทั่วประเทศ ครอบคลุมทั้งเมืองหลัก-รอง และ 15 ศูนย์ Tourists Malls อาทิ เซ็นทรัล ภูเก็ต, สมุย, หาดใหญ่, เชียงใหม่, พัทยา, จันทบุรี, อยุธยา, นครสวรรค์, เซ็นทรัล กระบี่