พลังงาน เตรียมตั้งคณะทำงานศึกษาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็ก (SMR)คาดใช้เวลากว่า12 ปีสร้างได้จริง โยนกฟผ.เจ้าภาพดำเนินการ ชี้เป้าภาคใต้-ภาคอีสาน ค่าไฟฟ้าอยู่ระดับ 3 บาทต่อหน่วย
รายงานข่าวจากกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า การจัดทำแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2567-2580 (PDP 2024) ได้บรรจุโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็ก (Small Modular Reactor : SMR) อยู่ในช่วงปลายแผน มีกำลังการผลิตรวม 600 เมกะวัตต์ หรือหน่วยละ 300 เมกะวัตต์ ซึ่งตามกระบวนการต่างๆอาจต้องใช้เวลาเกือบ 12 ปี กว่าจะสร้างได้จริง
ทั้งนี้กระทรวงพลังงานจะเริ่มพิจารณาในส่วนของ คณะทำงานศึกษาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่เคยก่อตั้งไว้เมื่อ 7-8 ปีที่แล้วว่ายังจะมีอำนาจครอบคลุมการศึกษาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็กในยุคปัจจุบันได้หรือไม่ เนื่องจากคณะทำงานฯ ชุดเดิมเคยศึกษาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดใหญ่ระดับหลายพันเมกะวัตต์ แต่ SMR ในยุคปัจจุบันเป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็กประมาณ 300 เมกะวัตต์ต่อโรงไฟฟ้าเท่านั้น
อย่างไรก็ตามหากพบว่าอำนาจหน้าที่ไม่ครอบคลุมการศึกษาโรงไฟฟ้า SMR อาจต้องตั้งคณะทำงานชุดใหม่ขึ้นมา ประกอบด้วยหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ, กระทรวงพลังงาน, กระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น เพื่อร่วมกันศึกษาความเป็นไปได้ในการสร้างโรงไฟฟ้า SMR ในอนาคต
สำหรับกระบวนการหลังจากนี้จะเสนอร่างแผนPDP2024 ในเดือน ก.ย. 2567 ควบคู่ไปกับการจัดตั้งคณะทำงานด้าน SMR ชุดใหม่ หรือ เสนอให้ใช้คณะกรรมการชุดเดิม เพื่อศึกษาโรงไฟฟ้า SMR ต่อคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) หากได้รับการอนุมัติจะเดินหน้า ศึกษาโรงไฟฟ้า SMR ทั้งด้านสถานที่ก่อสร้าง การเปิดรับฟังความเห็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง การแก้ไขกฎหมาย กลไกการกำกับดูแล และการคัดเลือกหน่วยงานที่จะมาดำเนินการและดูแลโรงไฟฟ้า SMR เป็นต้น
ทั้งนี้ในเบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็น การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่จะเข้ามาดำเนินการ และภาครัฐ เป็นผู้ดูแล เนื่องจากในอดีต กฟผ. เคยศึกษาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์มาก่อน ซึ่งมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญมากที่สุด ส่วนสถานที่ตั้งอาจต้องพิจารณาในส่วนของพื้นที่ภาคใต้และภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน เนื่องจากเป็นพื้นที่ไม่เสี่ยงต่อภัยพิบัติทางธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว และต้องเป็นพื้นที่ว่าง ที่จะสามารถตั้งโรงไฟฟ้า SMR ได้ ซึ่งขนาดพื้นที่ใหญ่เพียงสนามฟุตบอลก็สามารถตั้งโรงไฟฟ้า SMR ได้แล้ว
อย่างไรก็ตามโรงไฟฟ้า SMR ได้บรรจุไว้ในร่างแผน PDP 2024 จำนวน 600 เมกะวัตต์ เบื้องต้นจะก่อสร้าง 2 ยูนิต ยูนิตละ 300 เมกะวัตต์ หรืออาจจะสร้างขนาด 100 เมกะวัตต์ เรียงต่อกัน 3 เครื่องก็ได้เช่นกัน ขึ้นกับความเหมาะสมในขณะนั้น ส่วนค่าไฟฟ้าคาดว่าจะอยู่ประมาณ 3 บาทต่อหน่วย เนื่องจากเป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็ก ทำให้ต้นทุนสูงกว่าโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดใหญ่
ทั้งนี้ที่ผ่านมากระทรวงพลังงานเคยระบุว่า สำหรับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ SMR เป็นเทคโนโลยีใหม่ ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็กขนาดกำลังผลิตประมาณ 70-350 เมกะวัตต์เท่านั้น ซึ่งประกอบสำเร็จรูปเรียบร้อยมาจากโรงงาน และสามารถนำมาวางใช้งานเพื่อเป็นเชื้อเพลิงป้อนโรงไฟฟ้าได้ทันที โดยตลอดการใช้งาน 20 ปีไม่ต้องเปิดฝาครอบใดๆ เพื่อเปลี่ยนเชื้อเพลิง จึงปลอดภัยจากปัญหาการรั่วไหลของรังสี และเมื่อหมดอายุการใช้งานก็จะส่งคืนกลับไปยังประเทศผู้ผลิตทันที
ขณะที่ขนาดของเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ (reactor) จะมีขนาดเล็กประมาณ 2-3 เมตรเท่านั้น และสามารถนำมาจัดวางได้หลายเครื่องเพื่อผลิตไฟฟ้าตามปริมาณที่ต้องการ ปัจจุบันมีประเทศผู้ผลิตเพื่อจำหน่ายทั้ง ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส และสหรัฐฯ เป็นต้น
ด้านความปลอดภัยเป็นสิ่งที่ประเทศผู้ผลิตให้ความสำคัญอันดับแรก โดยมีการทดสอบการถูกชนโดยเครื่องบิน รวมถึงการเกิดภัยพิบัติตามธรรมชาติต่างๆ แล้ว ซึ่งอุปกรณ์มีความแข็งแรงและปลอดภัย ไม่สามารถถอดแกะอุปกรณ์สำเร็จรูปของเครื่องผลิตไฟฟ้านิวเคลียร์ SMR ได้โดยง่าย