‘ดร.พูลพัฒน์’ ย้ำชัดทำงานอยู่ข้างประชาชนดูแลค่าไฟฟ้าที่เป็นธรรม พร้อมปรับตัวเข้าสู่ยุค Energy transition
1 เดือน หลังเข้ามารับตำแหน่ง เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงานกกพ.) ‘ดร.พูลพัฒน์ ลีสมบัติไพบูลย์’
ทางสำนักข่าว The Better มีโอกาสได้พูดคุยกับเลขาธิการป้ายแดงท่านนี้ ถึงบทหน้าที่และภารกิจสำคัญ ที่ต้องการผลักดันองค์กร เพื่อเป็นหลักประกันในการดูแลราคาพลังงานที่เป็นธรรมให้กับประชาชน
ดร.พูลพัฒน์ กล่าวว่า ช่วง 1 เดือนกับตำแหน่งใหม่ ยอมรับต้องมาเรียนรู้หลายเรื่องเพราะบางเรื่องก็รู้จากมุมมองของการเป็นข้าราชการกระทรวงพลังงาน แต่ครั้งนี้ต้องมองในมุมของสำนักงานกกพ. ซึ่งวันแรกที่ได้พบกับประธานกกพ.มีความเห็นที่ตรงกันว่าการทำงานของกกพ.ต้องอยู่ฝั่งประชาชน แต่ขณะเดียวกันต้องทำให้ภาคธุรกิจทำงานได้โดยไม่ติดขัดกับกฏระเบียบที่วางไว้
ที่ผ่านมาการทำงานของสำนักงานกกพ.กับภาคประชาชน มีการสื่อสารที่น้อยเกินไปมักจะอยู่ในมุมตั้งรับมากกว่าหากไม่มีประเด็นอะไรที่เกี่ยวข้องกับประชาชน แต่ะจะออกมาชี้แจงเมื่อมีประเด็นให้ต้องแก้ไขเท่านั้น จากนี้ไปต้องทำงานในเชิงรุกมากขึ้น เพื่อสื่อสารข้อมูลด้านพลังงานให้เกิดความเข้าใจอย่างรวดเร็ว
เมื่อถามถึงสำนักงานกกพ.มีไว้ทำไม??
หากพูดถึงบทบาทของสำนักงานกกพ.หน้าที่โดยพื้นฐานต้องเอื้อต่อการสร้างหลักประกันในเรื่องความมั่นใจใน 3 เรื่อง คือ 1.การแข่งขันในธุรกิจพลังงานจะต้องมีผู้ดูแลให้เกิดความเป็นธรรม 2. ผู้ที่ใช้ไฟฟ้าซึ่งก็คือประชาชนทุกคนต้องได้รับหลักประกันถึงความมั่นคงพลังงาน ที่เกิดขึ้นในอนาคต และ3. สิ่งที่เกิดขึ้นจาการผลิตไฟฟ้า หากมีผลกระทบสิ่งแวดล้อม ต้องได้รับการดูแล การชดเชย ในอ้ตราที่เหมาะสม
การเข้ามารับตำแแหน่งครั้งนี้ตั้งใจจะทำอะไรบ้าง
ดร.พูลพัฒน์ กล่าวว่า ผมต้องการสร้างหลักประกันว่าประชาชนได้รับการดูแลการใช้ไฟฟ้ามีคุณภาพ มีความมั่นคงในระบบ ในราคาที่เหมาะสม ขณะเดียวกันการที่ภาคธุรกิจพลังงานมีการแข่งขัน ทำให้มีผลต่อต้นทุนค่าไฟฟ้า จำเป็นต้องดูแลพวกเขาไม่ให้เสียแต้มต่อกับประเทศอื่นในเวทีโลก
นอกจากนี้ในยุคการเปลี่ยนผ่านทางด้านพลังงาน (Energy Transition)จากความต้องการการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีทางด้านพลังงาน เพื่อรองรับความต้องการพลังงานสะอาดรับมือกับภาวะโลกร้อนที่กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงรวดเร็ว สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่ทำให้ภาคเศรษฐกิจและภาคพลังงานของไทยต้องการ การปรับตัวขนานใหญ่ สำนักงานกกพ.มีหน้าที่สำคัญในการดูแลการเปลี่ยนผ่านให้มีความราบรื่น สมดุล เป็นธรรมให้มากที่สุด
สำหรับโครงการนำร่องการซื้อขายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบการทำสัญญาซื้อขายพลังงานไฟฟ้าได้โดยตรง (Direct Power Purchase Agreement: Direct PPA) หลังผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.)แล้ว ต้องกำหนดกติกาต่างๆโดยเฉพาะอัตราค่าบริการ
เป้าหมายกำหนดรับซื้อไฟฟ้า 2,000 เมกะวัตต์ ต้องมาดีไซน์ว่าจะจัดสรรอย่างไรให้เหมาะสม ควรแบ่งเป็นกี่เฟส หรือแบ่งตามกลุ่มลูกค้า หรือกำหนดช่วงระยะเวลา หรือแบ่งเป็นพื้นที่ เนื่องจากในแต่ละพื้นที่ มีความสามารถของระบบสายส่งที่ไม่เหมือนกัน
ขณะที่กลุ่มลูกค้าก็มีความต้องการที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้นต้องมาจัดลำดับความสำคัญให้ชัดเจน ซึ่งนโยบายรัฐบาลต้องการดึงการลงทุนจากกลุ่ม Data Center ที่มีความต้องใช้ไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนตามข้อกำหนดจากบริษัทแม่ ดังนั้นต้องมาพิจารณาว่ามีความต้องการแบบไหน จะต้องร่างกฏกติกาให้เป็นธรรมกับทุกฝ่าย ทั้งนักลงทุน และประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้าปกติซึ่งถือว่าเป็นผู้ลงทุนสายส่งไฟฟ้า ที่ถูกส่งผ่านในค่าไฟฟ้าฐาน
ด้านความพร้อมของพื้นที่ก็ต้องพิจารณาควบคู่กันไปด้วย เนื่องจากบางพื้นที่ได้เตรียมพร้อมกับโรงไฟฟ้าใหม่ไปแล้ว หากต้องเพิ่มโรงไฟฟ้าเข้าไปอีกจะทำให้เกิดความซ้ำซ้อนหรือไม่ ต้องดูให้รอบคอบเป็นระเบียบ รวมไปถึงเรื่องความปลอดภัยกับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน เช่นกรณีตั้งโรงไฟฟ้าโซลาร์เซลจะทำให้เกิดผลกระทบ การรบกวนรอบข้างหรือไม่
ดร.พูลพัฒน์ กล่าวว่า หากมองในพื้นที่อีอีซี ถือว่ามีการวางเรื่องระบบสายส่งไฟฟ้าไว้แล้วอาจเป็นทางเลือกหนึ่งในการตั้งโรงไฟฟ้าแบบ Direct PPA ปัจจัยเหล่านี้ต้องมาพิจารณาประกอบในการร่างกติกา ตลอดจนหารือกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เพื่อจัดทำเป็นแพจเกจส่งเสริมการลงทุนในโรงไฟฟ้าซึ่งตามไทม์ไลน์ กำหนดให้แล้วเสร็จภายในปี 2567
อัตราค่าไฟฟ้าของไทยจะถูกลงกี่โมง??
จริงๆแล้วค่าไฟฟ้าที่เราใช้กันสามารถดีไซน์ได้ว่าจะทำให้มีราคาถูกลงได้ ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของการใช้ไฟฟ้าแต่ละบ้านเอง อย่างการเลือกใช้มิเตอร์ แบบ TOU (Time of use) คิดค่าไฟฟ้าในช่วง Off Peak (เวลา 22:00 - 09:00 น.ของวันจันทร์ถึงวันศุกร์ และวันเสาร์อาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ตลอด 24 ชั่วโมง) มีอัตราค่าไฟฟ้าถูกกว่าช่วง On Peak (เวลา 09.00 - 22.00 น.ของวันจันทร์ถึงวันศุกร์) แบบนี้ก็เลือกได้ว่าช่วงไหนที่ค่าไฟถูกก็ใช้ในช่วงนั้นให้มาก
นอกจากนี้ภาครัฐมีกลไกในเรื่อง Demand Response คือ การส่งเสริมให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการใช้ไฟฟ้าของผู้ใช้ไฟเองจากรูปแบบการใช้ปกติ เพื่อตอบสนองต่อราคาค่าไฟในช่วงเวลาต่างๆ โดยสามารถลดการใช้ไฟฟ้าในช่วงเวลาที่รัฐร้องขอ จะได้รับการชดเชยบางส่วนในรูปตัวเงิน เหมือนกับการลดการใช้ไฟฟ้าลง โดยที่ไม่ต้องไปสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่ม ทำให้ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าลดลง ช่วยให้ต้นทุนค่าไฟฟ้าระบบอยู่ในระดับที่เหมาะสม
ลุ้นข่าวดีค่าไฟฟ้างวดสุดท้ายของปี
ทั้งนี้จะพยายามทำให้อัตราค่าไฟฟ้างวดสุดท้ายของปี(ก.ย.-ธ.ค.) เป็นข่าวดี หากไม่มีอะไรเป็นตัวแปรมากเกินไป ขณะเดียวกันต้องพิจารณาจ่ายหนี้คืนการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่ยังมียอดสะสมอยู่กว่า 9 หมื่นล้านบาท จากการที่เข้ามาช่วยรับภาระต้นทุนค่าไฟฟ้าในช่วงที่ผ่านมา ไม่เช่นนั้นจะมีผลกระทบต่อการจัดอันดับเรทติ้ง ต้นทุนการกู้เงิน ดังนั้นค่าไฟฟ้าต้องบาลานซ์กันให้เหมาะสม
นอกจากนี้ตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ (PDP2024) สัดส่วนการผลิตไฟฟ้าของกฟผ.เหลือ 17% ของกำลังการผลิตทั้งหมดหลายฝ่ายแสดงความเป็นห่วงถึงเสถียรภาพด้านพลังงาน
ดร.พูลพัฒน์ กล่าวว่า ในมุมของกกพ.มีหน้าที่กำกับดูแลให้เกิดความเป็นธรรม และเกิดผลดีกับประชาชน ดังนั้นตัวเลข 17% หากรัฐบาลมองว่าเป็นตัวเลขที่เหมาะสม ทางกกพ.ก็มีหน้าที่กำกับให้ผู้ที่จะเข้ามาร่วมการผลิตไฟฟ้า ต้องมีความพร้อม สามารถซัพพลายไฟฟ้าให้เกิดความมั่นคง รวมถึงมีต้นทุนค่าไฟฟ้าที่เหมาะสม เรามีหน้าที่ทำให้เกิดการแข่งขันที่เป็นธรรม
ขณะเดียวกันในแผน PDP 2024 กำหนดสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนมากกว่า 50% จะทำให้การผลิตไฟฟ้าขาดเสถียรภาพหรือไม่ นั้น ในเรื่องนี้ หากมองในต่างประเทศมีระบบสมารร์ทกริดเข้ามาใช้ควบคุมดูแล ระหว่างการผลิตไฟฟ้ากับปริมาณการใช้ไฟฟ้า ถ้ามีพลังงานหมุนเวียนมากขึ้นก็ต้องลงทุนในโครสร้างพื้นฐานให้มีความพร้อม โดยเฉพาะการใช้เครื่องมือพยากรณ์ล่วงหน้าว่าสถานการณ์การใช้ไฟฟ้า และการผลิตไฟฟ้า มีความแตกต่างอย่างไรบ้าง โดยเฉพาะในอนาคต เป็นระบบการเปิดประมูลซื้อขายไฟฟ้า ต้องสามารถดูแลการเรียกกำลังผลิตไฟฟ้าขึ้นหรือลงของแต่ละโรงไฟฟ้าได้ทันท่วงที เพื่อไม่ให้เกิดความเสี่ยงไฟดับ ไฟไม่เพียงพอ
ดังนั้นถ้าปัจจัยในอนาคตมีความผันผวนสูง อาจลดผลกระทบด้วยการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยเช่นการนำระบบกักเก็บพลังงาน หรือ Energy storage มาใช้ ซึ่งทางกฟผ.จะเป็นผู้ลงทุนในส่วนนี้ ก่อน ในอนาคตการรับซื้อไฟฟ้าอาจต้องเพิ่มเงื่อนไขเพื่อสร้างหลักประกันให้มีเสถียรภาพในการผลิตไฟฟ้า อย่างการผลิตไฟฟ้าโซลาร์เซลต้องบวกแบตเตอร์รี่ด้วย เป็นวิธีป้องกันไม่ให้ไฟฟ้าสะอาดเกิดความผันผวน
หนุนนโยบายยานยนต์ไฟฟ้า
สำหรับการส่งเสริมนโยบายยานยนต์ไฟฟ้า(EV) ทางสำนักงานกกพ.เข้าไปดูมาตรฐานการติดตั้งอุปกรณ์สถานีชาร์จให้เกิดความปลอดภัย ร่วมกับกรมธุรกิจพลังงาน พร้อมกับอำนวยความสะดวกให้ประชาชนสามารถติดตั้งในครัวเรือนได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะทำให้ความนิยมในการใช้รถ EV ขยายตัว
ส่วนที่มีหลายฝ่ายกังวลในเรื่องค่าไฟฟ้าที่เกิดจาการชาร์จรถ EV สูง แม้จะลดการค่าใช้จ่ายน้ำมันลงได้ ในประเด็นนี้ อาจทำให้พฤติกรรมโหลดการใช้ไฟฟ้าของประเทศเปลี่ยนไป ถ้าชาร์จไฟเวลากลางคืนจะทำให้การใช้ไฟฟ้าในนระบบสูงขึ้น ดังนั้นต้องเตรียมพร้อมเรื่องนี้ควบคู่ไปกับปริมาณของรถ EV ที่เพิ่มขึ้นด้วย
ส่วนจะเป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีการแยกมิเตอร์เฉพาะรถEV ออกมานั้นก็เป็นวิธีหนึ่ง เพราะถือเป็นการใช้ไฟฟ้าเพื่อลดเชื้อเพลิงฟอสซิล