รู้จัก SIAMJNK ฉีกทุกกฎบริการให้เช่าคลังสินค้า ปั้น Wlubhouse สุดพรีเมี่ยม

รู้จัก SIAMJNK ฉีกทุกกฎบริการให้เช่าคลังสินค้า ปั้น Wlubhouse สุดพรีเมี่ยม
SIAMJNK ผู้ริเริ่มให้บริการคลังสินค้ารูปแบบใหม่ด้วยดีไซน์ที่ทันสมัย ลักซ์ชัวรี่ ภายใต้คอนเซ็ป “The First Boutique Warehouse in Thailand”

 

ปัจจุบันคลังสินค้าเข้ามามีบทบาทที่สำคัญในหลายธุรกิจ รวมถึงยังมีการแข่งขันในตลาดที่ค่อนข้างสูง ดังนั้นการปรับตัวเพื่อสร้างความโดดเด่นให้กับธุรกิจเมื่อเทียบกับคู่แข่งจึงถือเป็นกลยุทธ์สำคัญในการแย่งชิงลูกค้าให้หันมาใช้บริการได้

ปัญจมา คัณธามานนท์ ประธานบริหารฝ่ายการลงทุน บริษัท สยาม เจ เอ็น เค จำกัด (SIAMJNK) ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Thebetter ว่า จุดเริ่มต้นในการทำคลังสินค้ารูปแบบใหม่ ภายใต้คอนเซ็ป “The First Boutique Warehouse in Thailand” เกิดจากไอเดียที่ต้องการให้ผู้เช่ามีความรู้สึกสะดวกสบายมากขึ้น และยังมีการปรับปรุงคลังสินค้าดีไซน์ที่ทันสมัย ลักซ์ชัวรี่

บริษัทฯมองว่าการทำธุรกิจคลังสินค้าต้องมองลงไป 3 มิติ คือในเรื่องของ location, facility, security ถือเป็นเรื่องสำคัญมาก ดังนั้น บริษัทฯจึงสร้าง Clubhouse, Wlubhouse, Boutique Warehouse ขึ้นมา และเพิ่มบริการพิเศษเข้าไปอย่างเช่น การจัดสัมมนาสร้าง community พูดคุยแลกเปลี่ยนในเรื่องธุรกิจ รวมถึงมีการจัดงานเลี้ยงเพื่อสร้างความสัมพันธ์ให้แก่ลูกค้าของบริษัทฯด้วย

ในด้านความปลอดภัยยังมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่คอยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงบริการพิเศษอย่างซ้อมรวมดับเพลิงให้ฟรี เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก้ลูกค้าที่มาใช้บริการ สำหรับกลุ่มลูกค้าของบริษัทฯได้แก่กลุ่ม SME ซึ่งมีสัดส่วน 70% และเป็นลูกค้า Corporate สัดส่วน 30%

ทำเลที่ดี ช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย

 ตลอด 10 ปีที่ผ่านมาจะเห็นการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคที่หันไปใช้การขนส่งแบบประตูสู่ประตู (Door to Door) มากขึ้น ทำให้บริษัทขนส่งเติบโตและมีการกระจายตัวตามอยู่แทบทุกพื้นที่ และจุดนี้ก็กระตุ้นให้ธุรกิจคลังสินค้าเติบโต แต่ปัจจุบันได้มีการเปลี่ยนไป เรื่องของทำเลได้เข้ามาเป็นหนึ่งในตัวเลือกตัดสินใจที่สำคัญ เพราะการกระจายสินค้าถ้ามีทำเลที่ดีจะช่วยให้มีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

ปัจจุบันบริษัทฯมีคลังสินค้าทั้งหมด 5 แห่ง โดยทำเลส่วนใหญ่จะอยู่ในโซนพื้นที่ใจกลาง CBD ได้แก่ ทำเลลาดพร้าว 87 และ ทำเลวิภาวดี - สุทธิสาร ที่รองรับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคดิจิทัล และยืดหยุ่นของผู้ประกอบการ ทำให้มีทำเลที่พร้อมให้บริการผู้เช่าหลัก 4 ทำเล คือ สาทร-ถนนจันทน์ ,ราษฏร์บูรณะ,ลาดพร้าว 87 และวิภาวดี- สุทธิสาร และในอนาคตบริษัทฯก็มีแผนขยายคลังสินค้าไปยังพื้นที่สำคัญอื่น ๆ ต่อไป

อย่างไรก็ตามหากเปรียบเทียบประเทศไทยกับประเทศอื่น ปัจจุบันธุรกิจขนส่งในบ้านเรายังอยู่แค่ first state ยังไม่ใช่แบบ same day และคลังสินค้าก็ถือเป็นธุรกิจจิกซอว์ที่สำคัญในวงการโลจิสติกส์ เพราะยิ่งมีคลังสินค้า (warehouse) เอาไว้เก็บสต็อกใกล้ลูกค้า ก็จะช่วยให้การบริการได้รวดเร็ว นั่นคือจุดแข็งธุรกิจที่จะเกิดขึ้นต่อไป 

นโยบายภาครัฐกระตุ้นธุรกิจคลังสินค้าโต

ปัจจุบันนโยบายของภาครัฐเองในระดับประเทศหรือในระดับภูมิภาค จะมีนโยบายเรื่องการขนส่งรถไฟฟ้าความเร็วสูงจากจีนมาทางอาเซียนมากขึ้น ภาครัฐจึงมีโปรเจคขนาดใหญ่  อย่างระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษทางภาคใต้ตอนบนของประเทศไทย (Southern Corridors)  ประกอบด้วย 4 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช ซึ่งนโยบายเหล่านี้จะช่วยสนับสนุนให้โครงสร้างโลจิสติกส์ของประเทศไทยเติบโต และจะช่วยกระตุ้นให้ธุรกิจคลังสินค้าโตขึ้นด้วย  

และคอนเซ็ปต์คลังสินค้า (Warehouse) ของบริษัทฯที่มุ่งเน้น location ไปอยู่ในกลางเมือง รวมถึงขนาดของงานที่ได้มา บริษัทฯจึงไม่ได้โฟกัสที่กรุงเทพฯเท่านั้น แต่ยังมองไปถึงตัวเมืองสำคัญด้วย ซึ่งอิงกับแผนภาครัฐที่ทำนโยบายเกี่ยวกับเรื่องโลจิสติกส์ อย่างที่บริษัทฯมองไว้คือพื้นที่ “แนวขวาง” เช่น จังหวัดบุรีรัมย์ซึ่งเป็นจุดที่ค่อนข้างน่าสนใจ แต่เนื่องจากบริษัทฯไม่ได้เป็น first Beginner ดังนั้น จึงรอให้เมืองเกิดขึ้นในระดับหนึ่ง เพื่อให้มีความต้องการคลังสินค้าในการใช้เก็บของ

เตรียมตัวเข้าตลาดหุ้น

ในเรื่องการนำบริษัทฯเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ปัจจุบันมองอยู่ 2 แนวทาง คือ การขายสินทรัพย์ที่มีอยู่เข้ากองรีท (REIT) และการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์

“การนำเข้ากอง REIT มองว่ายังมีขนาด sizing ยังเล็ก เลยกำหนดไว้ว่าจะมีโครงการที่เตรียมเปิดตัวปลายปีนี้ และหากเกิดโครงการตามแผนคาดว่าจะมีขนาดที่เหมาะสม ในส่วนที่เข้าตลาดหลักทรัพย์บริษัทฯมองว่าขณะนี้ยังอยู่ในช่วงปรับปรุงพื้นฐานเรื่องการวิเคราะห์ (IA) เป็นหลัก เนื่องจากมองว่า IA สำคัญมากกว่าที่ปรึกษาในการบริหารเงิน (FA) เพราะ FA จะมองแค่ตัวเลขในการที่จะเอาเข้า แต่ถ้า IA จะเป็นพื้นฐานในการเติบโตต่อไปอย่างยั่งยืนในอนาคตเรื่องนี้จึงถือเป็นเรื่องที่สำคัญ บริษัทฯจึงกำหนดว่าเมื่อ IA พร้อมควบคู่ไปกับกอง REIT น่าจะเป็นก้าวที่เร็วกว่า”  ปัญจมา กล่าว

 

 

TAGS: #SIAMJNK #Warehouse #Boutique