รู้จัก ‘ดีไซเนอร์' จากไทยเพียงคนเดียว ที่พาคอลเล็กชัน 'WANNABE' เป็นตัวเองอย่างที่คิด ที่พิชิตเข้ารอบ 60 คนในเวทีประกวดโครงการ SHEIN X Global challenge 2024 พร้อมชวนทุกคนร่วมโหวตสู่รอบต่อไป
สำหรับการการประกวดฯ ในครั้งนี้ ได้เริ่มเปิดรับสมัครเพื่อให้ดีไซเนอร์ทั่วโลกได้ร่วมส่งผลงานเข้าประกวดตั้งแต่กลางเดือนมกราคม ปี 2567 พร้อมเผยชื่อผู้ผ่านเข้ารอบแรก จำนวน 60 รายไปเมื่อช่วงระหว่างวันที่ 21-22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
โดยหนึ่งในหกสิบนักออกแบบ ที่ผ่านเข้ารอบในครั้งนี้ มีดีไซเนอร์คนไทยเพียงคนเดียว คือ วิค-ธีรภัทร ธนะสาร วัย 28 ปี ดีไซเนอร์จาก แฮมเบอร์เกอร์ สตูดิโอ (Hamburger Studio) เล่าให้ฟังถึงการเข้าประกวดโปรเจกต์ SHEIN X Global challenge 2024 ซึ่งในปีนี้ได้กำหนดธีม (Theme) ที่ใช้ในการประกวดการแข่งขันคือ 'Radiance' โดยให้นักออกแบบสามารถส่งลุค (Look) แฟชั่นแต่งตัวสำหรับผู้หญิงประจำฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2024 จำนวน 3 Look (บนและล่าง) ได้ในช่องทางเว็บไซต์ Shein X Challenge 2024 เท่านั้น
โดย ‘ความน่าสนใจ’ อยู่ตรงที่เป็นการเปิดรับสมัครผู้แข่งขันให้นำส่งผลงานที่เป็น ‘Visual Concept’ ที่อยู่ในรูปแบบ Sketch Design พร้อมให้ส่งในรูปแบบไฟล์ดิจิทัลได้เท่านั้น โดยที่ไอเดียเหล่านี้ยังไม่ได้ถูกนำมาตัดเย็บหรือทำเป็นแพทเทิร์นเครื่องแต่งกายให้กับนางแบบสวมใส่ได้จริงแต่อย่างใด
ขณะที่ไอเดียของ ‘วิค’ ที่บอกเล่าผ่านภาพร่างในครั้งนี้ สามารถชนะใจคณะกรรมการผู้ตัดสินได้ในรอบแรกได้ ด้วยคอนเซปต์การออกแบบในครั้งนี้ในชื่อ ‘WANNABE’
พร้อมขยายความถึงที่มาของคอนเซปต์ คอลเล็กชันนี้ที่หากแปลให้ตรงตัวแล้วหมายถึง ‘ความต้องการที่จะเป็น’ในแบบที่ตัวเองอยากเป็น
ด้วยทั้ง 3 Look การออกแบบแฟชันเสื้อผ้าในครั้งนี้ วิค บอกว่ายังมาจากการรวบรวมความฝันตั้งแต่วัยเด็กที่มีความสนุกจากการที่ได้แต่งตัวให้กับตัวเองได้ในแบบที่ไร้ขีดจำกัด และได้นำมาต่อยอดสู่การออกแบบแฟชันเพื่อส่งเข้าประกวดเวทีฯ ครั้งนี้ ในที่สุด
‘วิค’ เล่าต่อถึงไอเดียการออกแบบในแต่ละ Look ของคอลเล็กชันวันนาบีในครั้งนี้ ที่ส่วนหนึ่งมาจากเก็บสะสมประสบการณ์แห่งความสุขและสนุกที่ได้จากการเล่นแต่งตัวในตอนเด็ก และนำมาใส่ความสร้างสรรค์เข้าไปใหม่ด้วยการออกแบบจนได้สไตล์การแต่งตัวของผู้หญิงที่ให้ลุกเท่ห์ๆ คูล ๆ ได้พร้อมกัน
เรียกได้ว่าตลอดทั้งคอลเล็กชันวันนาบีนี้ มีทั้งความ Masculine ทะมัดทะแมงของผู้ชายแต่แฝงไว้ด้วยความนุ่มนวลของ Feminine ในแบบฉบับผู้หญิงได้อย่างไม่เคอะเขิน ไว้ในชุดเดียวกัน
สำหรับ Look แรก เป็นการมิกซ์ แอนด์ แมทช์ ระหว่างสื้อเชิ้ตเข้ารูป เสริมดีเทลด้วยฟองน้ำบนช่วงไหล่เพื่อให้ดูเท่ ให้ความ ‘arrogance’ เมื่อสวมใส่ พร้อมเพิ่มกิมมิคอีกนิดด้วยวิธีการติดกระดุมเสื้อที่เหมือนจะปริออกจากกัน ซึ่งก็เป็นความตั้งใจของ ‘วิค’ ที่บอกว่า เป็นการเพิ่มความสนุกให้กับการแต่งตัวที่ฉีกกฎการใส่เสื้อเชิ้ตแบบเดิมๆ
เช่นเดียวกับท่องล่างของลุกนี้ ที่วิค เลือกดีไซน์กางเกงทรงปล่อยที่เหมือนจะติดกระดุมช่วงเอวไม่ได้อีกเช่นกัน จนต้องปล่อยให้ขอบบนกางเกงพับออกมาและกลายเป็นทรงกางเกงเอวต่ำ (มาก) ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งความตั้งใจที่นักออกแบบต้องการแมทช์ให้เข้ากับตัวท็อปของเชิ้ตท่อนบน นั่นเอง
ถัดมา Look ที่2 สำหรับตัวท็อปได้แรงบันดาลใจมาจากการใส่เสื้อกล้าม(ตอนเด็ก) และแอบมัดเป็นปมตรงมุมชายเสื้อด้านล่าง และนำมารีดีไซน์จนกลายเป็นเสื้อกล้ามที่มีลูกเล่นพร้อมเพิ่มความสนุกด้วยลายพิมพ์ผ้าที่ ‘วิค’ได้ออกแบบเองในชื่อ ‘Digital Printing’ ที่นำมาแมทช์เข้าชุดกับกระโปรงเดนิมเอวต่ำที่นำมารื้อใหม่ในการออกแบบ หรือที่เรียกว่า ดีคอน (DECONSTRUCTION) ที่ให้ความรู้สึกทั้งรูปแบบของกางเกง และ กระโปรงในคราวเดียว
สุดท้าย Look ที่ 3 จะเป็นชุดเดรสตัวยาว ‘Maxi Dress’ ให้ความเรียบหรูด้วยเท็กเจอร์ของผ้าไหมซาติน (satin silk) ที่มาพร้อมเลื่อมความแวววาวแบบสง่างามด้วยลายพิมพ์ผ้า Digital Printing อีกเช่นกัน
โดยทั้งหมดนี้ ถูกนำเสนอในชื่อคอลเล็กชัน ‘WANNABE’ spring summer 2024 collection by Tirapat Tanasarn
สำหรับผลงานของวิค ในคอลเล็กชันฯ ดังกล่าว ในขณะนี้ได้ถูกจัดแสดงร่วมกับผู้ผ่านเข้ารอบแรกอีก 59 ราย บนเว็บไซต์ SHEIN X Global challenge 2024 เพื่อให้สาธารณชนสามารถโหวตให้กับผลงานการออกแบบที่พวกเขาชื่นชอบได้ (Popular Vote) เป็นวันสุดท้าย 29 กุมภาพันธ์ โดยจะประกาศผลผู้เข้ารอบ 20 คนสุดท้าย ช่วงระหว่างวันที่ 10-15 มีนาคม นี้
โดยมีผู้เชี่ยวชาญจากภาคส่วนต่างๆ ของอุตสาหกรรมแฟชั่น อาทิ เอเดรียน โรเบิร์ตส์ (Adrien Roberts) ที่ปรึกษาด้านการศึกษาด้านแฟชั่นระดับนานาชาติ จากอิตาลี จูเลียน โฟร์นี่ (Julien Fournié) ผู้ก่อตั้ง Julien Fournié Haute Couture จากปารีส จิล วานเลส (Jill Wanless) บรรณาธิการ จากสหราชอาณาจักร และ โคลิน ฮอร์แกน (Colin Horgan) นักออกแบบอิสระ จากไอร์แลนด์ ในฐานะกรรมการร่วมตัดสินการประกวดฯ ในครั้งนี้
พร้อมคัดเลือกผู้เข้ารอบสุดท้ายทั้ง 10 คน เข้าสู่เส้นทางสายนักออกแบบแฟชันครั้งใหม่ในระดับมาสเตอร์คลาส (Master Class) ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร ในช่วงระหว่างวันที่ 19-22 มีนาคม นี้ พร้อมเริ่มกิจกรรมเวิร์คช้อป เพื่อให้นักออกแบบนำเสนอผลงานในรอบสุดท้าย บนเวที SHEIN Runway Show 2024 ด้วยการแสดงบนรันเวย์ที่มีการสตรีมไปทั่วโลก ที่จะจัดขึ้นในเดือนมีนาคม นี้
วิค กล่าวว่า “การประกวดฯในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งเวทีในวงการแฟชันสำคัญที่เปิดโอกาสให้นักออกแบบจากทั่วโลกรวมถึงคนไทยอย่างเขาเองได้มีโอกาสแสดงผลงานแนวคิดสร้างสรรค์ไปยังพื้นที่แฟชันระดับโลก และหากได้มีโอกาสเข้าสู่ในรอบระดับมาสเตอร์คลาส ก็เชื่อว่าจะเป็นการเข้าสู่แพลตฟอร์มใหม่แห่งการเรียนรู้ประสบการณ์และแนวคิดทางแฟชันอย่างยั่งยืน ที่ SHEIN เตรียมวางไว้ในอนาคต อีกด้วย”
ด้วยการเป็นแฟชันที่ยั่งยืน sustainable fashion นั้นอาจไม่จำเป็นต้องมีความหมายเดียวอย่าง ‘Go Green’ ด้วยแนวคิดความยั่งยืนยังสามารถควบคู่ไปกับความสวยงามได้ ที่อาจตอบโจทย์ได้ทั้งการนำกลับมาใส่ซ้ำ หรือการใช้วัสดุต่าง ๆ ไปจนถึงการเพิ่มลูกเล่น ดีเทล ไปจนถึงฟังก์ชันการใช้งาน ให้เกิดความสนุกจากการเป็นแฟชัน ก็สามารถทำได้เช่นกัน เพื่อลบภาพการเป็น Fast Fashion ที่ส่งผลกระทบไม่น้อยต่อโลก ในปัจจุบัน