คอนเซปต์ใหม่ รอบ15ปี SCG HOME Experience ปั้นแฟล็กชิปสโตร์ ขยายฐานวัยเก๋ากำลังซื้อหนัก

คอนเซปต์ใหม่ รอบ15ปี  SCG HOME Experience  ปั้นแฟล็กชิปสโตร์ ขยายฐานวัยเก๋ากำลังซื้อหนัก
เอสซีจี โฮม เอ็กซพีเรียนซ์ ทุ่มงบกว่า 20 ล้านบาท ปรับโฉมใหม่พร้อมทำแคมเปญตลาดกระตุ้นกำลังซื้อ ลุยกลุ่มสินค้าและนวัตกรรมอยู่อาศัยผู้สูงวัย ยกระดับสู่ Care Living Destination วางเป้าปีนี้โต30%

ธัญญ์กวิน บุดดีมี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจี เอ็กซพีเรียนซ์ จำกัด เปิดเผยว่า แผนธุรกิจในปี2567 บริษัทได้วางกลยุทธ์ ‘ขับเคลื่อนบริการเรื่องบ้าน เพื่อให้การอยู่อาศัยของคนไทยยิ่งดีขึ้น’ ตอกย้ำความเป็นผู้เชี่ยวชาญ เป็นเพื่อนคู่คิดในการทำบ้าน แบบครบวงจร มุ่งส่งมอบประสบการณ์การอยู่อาศัยที่ดีที่สุดสำหรับทุกภารกิจเรื่องบ้าน ในฐานะร้านต้นแบบค้าปลีกของเอสซีจี

โดยเตรียมงบลงทุนประมาณ 20 ล้านบาท สำหรับกิจกรรมทางการตลาดและการปรับปรุงพื้นที่นำเสนอสินค้าและนวัตกรรม ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าเป้าหมายทั้ง 5 กลุ่ม ได้แก่

  • เจ้าของธุรกิจคนรุ่นใหม่ (Young Owner)
  • กลุ่มผู้ดูแลครอบครัว (Family Giver)
  • กลุ่มสูงวัยสุขภาพแข็งแรง (Active Aging)
  • กลุ่มเทคโนโลยีและนวัตกรรม (Technology and Innovation)
  • กลุ่มผู้เชี่ยวชาญเรื่องบ้าน (Home Expert)

โดยปีนี้บริษัทเน้นกลุ่มเป้าหมายผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นตามเทรนด์ Aging Society รองรับแนวโน้มในปัจจุบันผู้คนเตรียมความพร้อมในการดูแลที่อยู่อาศัยของตัวเองมากขึ้นเพื่อรองรับช่วงวัยเกษียณ สอดคล้องกับกลุ่มผู้สูงอายุในไทยเพิ่มขึ้นในทุกปี

“ผู้สูงอายุไม่ใช่คนแก่อีกต่อไป อายุที่แตกต่างกันความต้องการต่างกัน พฤติกรรมต่างกัน รวมถึงทัศนคติก็ต่างกัน SCG HOME Experience จึงแบ่งกลุ่มผู้สูงอายุออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มสีเขียว ยังแอฟทีฟอยู่ ร่างกายยังไหว ดูแลสุขภาพ และชอบหากิจกรรมนอกบ้านกับเพื่อน กลุ่มสีเหลือง เริ่มต้องมีคนดูแล ไปไหนไม่ค่อยสะดวกจึงมักมีพฤติกรรมติดบ้าน กลุ่มสีแดง เริ่มมีปัญหาสุขภาพ ต้องนอนติดเตียง เคลื่อนไหวค่อนข้างลำบาก” ธัญญ์กวิน กล่าว

โดย เอสซีจีฯ มองเห็นโอกาสในการพัฒนาบริการเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้ด้วย ‘Care Living Solution’ ตั้งแต่การให้บริการคำปรึกษาเพื่อปรับปรุงพื้นที่เดิมให้อยู่อย่างปลอดภัย ถูกสุขลักษณะ ทำให้บ้านควรเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยสำหรับคนในครอบครัว จากในอดีตอาจเป็นเพียงบ้านเฉพาะบ้านผู้สูงอายุ ซึ่งตลาดนี้กำลังเติบโตอย่างมหาศาล ทำให้เอสซีจีฯ เลือกทำตลาดกลุ่มนี้มากขึ้นและพยายามสร้างให้เป็นจุดหมุ่งหมายด้าน Care Living Destination ที่ลูกค้าจดจำและนึกถึง

  • นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเตรียมปรับปรุงพื้นที่จะเริ่มดำเนินการในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปีนี้ แบ่งออกเป็น 3 โซนหลัก ได้แก่ โซน Care Living Solution เน้นการจำลองการอยู่อาศัยตามหลัก Universal Design สะท้อนถึงพฤติกรรมของกลุ่มผู้สูงวัยในแต่ละช่วงพร้อมจำลองสินค้า และการออกแบบตามสรีระศาสตร์เพื่อสุขภาวะที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น พร้อมร่วมกับพันธมิตร BAEUN by SCG เพื่อรองรับการรีโนเวทบ้านทั้งหลัง Doodeco บริการตกแต่งภายใน Chivit-D by SCG มานำเสนอสินค้าที่เกี่ยวข้องในการใช้ชีวิตของลูกค้ามากขึ้น
  • โซน Smart Living Solution นำเสนอบริการแบบครบวงจรตั้งแต่การออกแบบวางระบบ พร้อมบริการติดตั้งโดยผู้เชี่ยวชาญ ภายในโซนจะมีการจัดแพคเกจให้ลูกค้าทราบงบประมาณเบื้องต้น เพิ่มฟังก์ชันในการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ได้เอง

โดยแบ่งเป็น 5 กลุ่มสมาร์ท เช่น Smart Energy ระบบที่ช่วยให้บ้านประหยัดพลังงาน เช่น SCG Solar Roof Solutions บ้านที่ต้องการระบบ EV Charger เนื่องจากเทรนด์ที่คนมาใช้รถ EV เพิ่มมากขึ้น , Smart Security ระบบรักษาความปลอดภัยที่ทุกบ้านจำเป็นต้องมี, Smart Lighting ระบบไฟอัตโนมัติควบคุมการใช้งานตามความต้องการ และ Smart Care ระบบเพิ่มเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยสำหรับบ้านที่ต้องการดูแลผู้สูงอายุ ในกลุ่มนี้ยังขยายไปยังกลุ่ม Smart Health เพื่อในการอยู่อาศัยปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

  • โซน Acoustic Solution & Home Décor กับห้องตัวอย่างที่โชว์การติดตั้งวัสดุอุปกรณ์ช่วยลดเสียงสะท้อน เสียงก้องและนำเทคโนโลยี Smart Gadget เข้ามาประกอบการใช้งานให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์จริง

สำหรับในปี 2567 บริษัทฯ คาดการณ์อัตราการเติบโตของยอดขายอยู่ที่ประมาณ 30% โดยมาจากแผนเพิ่มความหลากหลายของพอร์ตสินค้าเกี่ยวกับบ้าน การขยายพื้นที่ให้บริการของเอสซีจีและคู่ธุรกิจ ในกลุ่มโซลูชันเป็นหลัก ได้แก่ หลังคา งานปรับปรุงภายนอก กลุ่มวัสดุประตู หน้าต่าง ส่วนกลุ่มโซลูชันที่บริษัทคาดว่าจะเติบโตเพิ่มขึ้นและสร้างความแตกต่างจะอยู่ในกลุ่ม Care Living Solution และ Smart Living Solution ที่สอดรับกับแนวโน้มในปีนี้ จากในปี 2566  มีอัตราการเติบโตรายได้เพิ่มขึ้นกว่า 5% และมีกำไรจากการดำเนินธุรกิจเพิ่มขึ้นถึง 190%

 

 

TAGS: #เอสซีจี #โฮม #สูงวัย