สรุปผลการประชุมสุดยอดทรัมป์-ปูติน สิ่งที่ได้มาและสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น

สรุปผลการประชุมสุดยอดทรัมป์-ปูติน สิ่งที่ได้มาและสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น

ต่อไปนี้คือผลลัพธ์จากการประชุมสุดยอดเกี่ยวกับยูเครนระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา และประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย โดยอ้างอิงจากแถลงการณ์เมื่อวันเสาร์ ผลคือ

ไม่มีการหยุดยิง
ผู้นำยูเครนและยุโรปได้เรียกร้องให้ทรัมป์ผลักดันการหยุดยิงทันที แต่การประชุมสุดยอดครั้งนี้ไม่ได้ข้อสรุปเรื่องการหยุดยิง

ทรัมป์กล่าวว่าทุกคนต่างมุ่งมั่นที่จะยุติ "สงครามอันโหดร้าย... โดยการบรรลุข้อตกลงสันติภาพโดยตรง ซึ่งจะยุติสงคราม ไม่ใช่ข้อตกลงหยุดยิงเพียงข้อตกลงเดียว ซึ่งบ่อยครั้งมักจะไม่เป็นผล"

ท่าทีนี้ดูเหมือนจะเป็นชัยชนะของปูติน ซึ่งกองทัพของเขามีความก้าวหน้าในการรุดคืบเข้าไปในยูเครนตะวันออกเมื่อเร็วๆ นี้ และปูตินยังได้เรียกร้องให้มีข้อตกลงสันติภาพเพื่อแก้ไขสิ่งที่เขากล่าวว่าเป็น "ต้นตอ" ของความขัดแย้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งโอกาสในการเป็นสมาชิกนาโตของยูเครน ซึ่งรัสเซียถือว่าจะเป็นภัยคุกคามต่อตน

ยูเครนระบุว่า กองกำลังรัสเซียได้ยิงโดรน 85 ลำและขีปนาวุธ 1 ลูกโจมตียูเครนในช่วงคืนวันศุกร์ถึงวันเสาร์ รวมถึงระหว่างการประชุม ขณะที่รัสเซียอ้างว่าได้ยึดหมู่บ้านเพิ่มอีก 2 แห่งในยูเครนทางตะวันออก

ไม่มี "ผลกระทบร้ายแรง"
ก่อนการประชุมสุดยอด ทรัมป์ขู่ว่าจะ "เกิดผลกระทบร้ายแรง" หากปูตินไม่สามารถตกลงหยุดยิงได้

ลินด์ซีย์ เกรแฮม วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกัน กล่าวว่า ทรัมป์อาจกำหนดภาษีสูงถึง 500% กับประเทศใดๆ ที่ให้ความช่วยเหลือรัสเซียในการทำสงคราม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่เรียกว่า "มาตรการคว่ำบาตรรอง"

แต่เมื่อสำนักข่าว  Fox News ถามถึงเรื่องนี้หลังการเจรจา ทรัมป์กล่าวว่า "เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ ผมคิดว่าผมไม่จำเป็นต้องคิดถึงเรื่องนั้นอีกต่อไปแล้ว"

ขณะเดียวกัน ผู้นำยุโรปกล่าวว่าจะยังคงกดดันรัสเซียต่อไป รวมถึงการคว่ำบาตรเพิ่มเติม จนกว่าจะ "มีสันติภาพที่ยุติธรรมและยั่งยืน"

ไม่พูดถึงเรื่องการยึดดินแดน
ความกังวลที่ใหญ่ที่สุดของยูเครนก่อนการประชุมสุดยอดที่อะแลสกา คือ สหรัฐฯ จะผลักดันให้ยูเครนยอมสละดินแดนที่รัสเซียยึดครองอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งคิดเป็นประมาณ 20% ของดินแดนทั้งหมด ไม่รวมไครเมีย ซึ่งถูกรัสเซียผนวกเข้าในปี 2014

ปูตินและทรัมป์ไม่ได้กล่าวถึงประเด็นนี้นับตั้งแต่การประชุม แม้ว่าทรัมป์อาจจะนึกถึงประเด็นเรื่องดินแดนอยู่ในใจเมื่อเขากล่าวว่ายังมี "ปัญหาน้อยมาก" ที่ยังต้องจัดการ

การรับประกันความปลอดภัย
คำประกาศฉบับสุดท้ายของทรัมป์-ปูตินไม่ได้กล่าวถึงการรับประกันว่าจะมีข้อตกลงสันติภาพใดๆ ในอนาคต

แต่ทรัมป์บอกกับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครนและผู้นำยุโรปว่าอาจมีการค้ำประกันแบบนาโต้สำหรับเคียฟ นายกรัฐมนตรีจอร์เจีย เมโลนีของอิตาลีและแหล่งข่าวทางการทูตกล่าว แต่ไม่ได้ระบุว่ายูเครนเป็นสมาชิกนาโต้จริง

ฝรั่งเศส อังกฤษ และประเทศอื่นๆ ระบุว่าพวกเขาสามารถส่งกำลังทหารมาค้ำประกันข้อตกลงสันติภาพในยูเครนได้ แต่ไม่ใช่การส่งทหารไปช่วยรบที่แนวหน้า

การประชุมสามฝ่ายที่อาจเกิดขึ้น
ทรัมป์กล่าวว่าเขาจะพบกับเซเลนสกีที่วอชิงตันในวันจันทร์ และกล่าวว่าการเจรจาสามฝ่ายระหว่างตัวเขา ปูติน และเซเลนสกีอาจมีกำหนดในภายหลัง

ก่อนหน้านี้เขาเคยกล่าวไว้ว่าข้อตกลงยุติสงครามขึ้นอยู่กับเซเลนสกีเพียงฝ่ายเดียว

Agence France-Presse

Photo - ภาพเด่น - ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ทักทายประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียบนลานจอดเครื่องบิน หลังจากเดินทางมาถึงฐานทัพร่วมเอลเมนดอร์ฟ-ริชาร์ดสัน ในเมืองแองเคอเรจ รัฐอลาสกา เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 ตามเวลาสหรัฐฯ ปูตินเดินทางมารัฐอลาสกาตามคำเชิญของทรัมป์ ซึ่งถือเป็นการเยือนประเทศตะวันตกครั้งแรกของเขา นับตั้งแต่ที่เขาสั่งการรุกรานยูเครนในปี 2565 ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปหลายหมื่นคน (Photo by ANDREW CABALLERO-REYNOLDS / AFP)
 

TAGS: #ทรัมป์ #ปูติน #ยูเครน