'ฮุน เซน'เปรียบตัวเองเป็น'เสด็จกอน'กบฏเขมรที่ต่อสู้กับอำนาจของกรุงศรีอยุธยาเหนือกัมพูชา

'ฮุน เซน'เปรียบตัวเองเป็น'เสด็จกอน'กบฏเขมรที่ต่อสู้กับอำนาจของกรุงศรีอยุธยาเหนือกัมพูชา

เมื่อเกือบ 20 ปีก่อนสื่อทั้งในกัมพูชาและนอกกัมพูชารายงานเรื่องประหลาดเรื่องหนึ่งเกี่ยวกับ ฮุน เซน นั่นคือตัวเขามักจะเปรียบเทียบตัวเองว่าเป็นบุคคลในประวัติศาสตร์คนหนึ่งที่ชื่อ 'เสด็จกอน' หรือ เจ้ากอง หรือขุนหลวงพระเสด็จกอน (เดิมคือขุนหลวงกอง)

ถึงขั้นมีการเผยแพร่ข้อมูลกันว่า ฮุน เซน เชื่อว่าตนเป็นเสด็จกอนกลับชาติมาเกิด 

และที่น่าสังเกตก็คือ มีการติดตั้งรูปปั้นของเสด็จกอนจำนวนมากซึ่งมีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับฮุน เซน รูปปั้นของเสด็จกอนที่หน้าตาเหมือน ฮุน เซน เหล่านี้ทำการติดตั้งโดยพวกเจ้าสัวในกัมพูชาเพื่อหวังที่จะเอาใจ ฮุน เซน นั่นเอง 

'นายกอน' เกิดเมื่อประมาณ ค.ศ. 1483 เป็นบุตรของชายของพระพิชัยนาค ต่อมานายกอนติดตามนางเปียนผู้เป็นพี่สาวไปยังพระราชวัง เมื่อนางเพียรได้เป็นสนมของพระศรีสุคนธบท กษัตริย์ของกัมพูชาในเวลานั้น นายกอนก็กลายเป็นคนโปรดของพระศรีสุคนธบท แต่ต่อมานายกอรทำให้พระจันทรราชา(พญาจันทร์) พระอนุชาต่างมารดาของพระศรีสุคนธบทไม่พอใจ พระจันทรราชาหวังจะขึ้นครองบัลลังก์หลังจากพระศรีสุคนธบทแต่กลับถูกบังคับให้หนีไปอาณาจักรอยุธยา

ในปี ค.ศ. 1508 พระศรีสุคนธบทฝันร้ายว่ามีพญานาคทรงพลังไล่พระองค์ออกจากอาณาจักรและหนีไปทางตะวันออกพร้อมเครื่องราชกกุธภัณฑ์ เมื่อได้ปรึกษากับโหรหลวงแล้ว พระศรีสุคนธบทก็ได้รู้ว่าพระองค์จะถูกโค่นล้มโดยนายกอน เพื่อป้องกันไม่ให้เรื่องนี้เกิดขึ้น พระศรีสุคนธบทจึงวางแผนสั่งหารหารนายกอนแต่ไม่สำเร็จ นายกอนจึงได้ก่อกบฏและตั้งตัวเป็นเจ้า หรือ 'เสด็จ' ที่เมืองบาสาณเมื่อปี 1508 ส่วนพระศรีสุคนธบทหนีไปแต่ก็ถูกปลงพระชนม์ที่แม่น้ำสตึงแสน (แถวบริเวณเมืองกำปงธม จังหวัดกำปงธมในปัจจุบัน) 

คืนหนึ่ง เสด็จกอนฝันว่าพระจันทร์ขึ้นจากทิศตะวันตกจะทะลุหัวใจของเขา ซึ่งโหรหลวงตีความว่าเป็นลางร้าย เพราะจันทร์ หมายถึง พระจันทรราชา (พญาจันทร์) จะเดินทางกลับจากอยุธยาและแก้แค้นเขา ซึ่งก็เป็นจริงตามนั้น หลังจากที่พระจันทรราชา ลี้ภยที่อยุธยาได้ 8 ปีก็ทราบว่าพระศรีสุคนธบทสวรรคตแล้ว จึงตัดสินใจที่จะกลับกัมพูชาและโค่นล้มผู้แย่งชิงบัลลังก์

พระจันทรราชาหลอกกษัตริย์อยุธยาให้เชื่อว่าพระองค์จะจับช้างเผือกในกัมพูชา กษัตริย์อยุธยาจึงนำกองทหารไทยมาช่วยสนับสนุน 5,000 นาย ทหารช้าง 100 นาย อาหาร อาวุธ รวมถึงพระขรรค์ราชย์ ซึ่งเป็นเครื่องราชกกุธภัณฑ์ที่เชื่อว่ามีพลังอำนาจอันยิ่งใหญ่ ในตอนแรกกษัตริย์อยุธยาสงสัยว่าการชิงอำนาจครั้งนี้อาจจะไม่สำเร็จ จนกระทั่งทรงทราบว่าพระจันทรราชาครอบครองพระขรรค์ราชย์ ปฏิบัติการชิงอำนาจจึงเริ่มต้นขึ้นโดยในปี ค.ศ. 1516 กองทัพจึงได้เริ่มต้นการเดินทาง พระจันทรราชารวบรวมทหารเพิ่มอีก 3,000 นายในจังหวัดพระตะบอง 8,000 นายในจังหวัดเสียมเรียบ และอีก 3,000 นายในจังหวัดโพธิสัตว์ และต่อมาพระจันทรราชาได้ออกมาครองราชสมบัติที่เมืองโพธิสัตว์ภายใต้การสนับสนุนของอาณาจักรอยุธยา  

พญาจันทน์และเสด็จกอนจึงได้ยกทัพมารบกัน และเสด็จกอนเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในปี 1525 และถูกประหารชีวิต

เรื่องนี้ดูเหมือนจะไม่มีอะไรซับซ้อนไปกว่าการชิงอำนาจของผู้คนในยุคศักดินา แต่ ฮุน เซน กลับมองเห็น 'บางอย่าง' ที่ต่างออกไปจากประวัติศาสตร์ธรรมดาๆ 

ฮุน เซน ส่งเสริม 'เรื่องเล่า' นี้อย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปี เช่น หนังสือพิมพ์ The Phnom Penh Post รายงานไว้เมื่อปี 2559 ฮุน เซน "ให้ทุนสนับสนุนการวิจัยเกี่ยวกับสถานที่ตั้งของเมืองหลวงโบราณของเสด็จกอนและสนับสนุนการพัฒนาการท่องเที่ยวในบริเวณดังกล่าว ในปี 2549 เขาให้ทุนสนับสนุนและเขียนคำนำสำหรับหนังสือเกี่ยวกับเสด็จกอนของศาสตราจารย์ รส จันทราบุตร รองประธานราชวิทยาลัยกัมพูชา"

ต่อมาในปี 2017 หนังสือพิมพ์รายวัน Cambodge Soir ก็ยังรายงานว่า ฮุน เซน เป็นผู้ให้ทุนสนับสนุนการตีพิมพ์หนังสือเกี่ยวกับเสด็จกอน 

รส จันทราบุตร (រស់ ចន្ត្រាបុត្រ) เป็นบุคคลที่มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริม 'เรื่องเล่า' เกี่ยวกับเสด็จกอน และเเขียนหนังสือเรื่อง 'พระเสด็จกอน'(ព្រះស្តេចកន) เมื่อปี 2006

ฮุน เซน เป็นผู้เขียนคำนำของหนังสือเล่มนี้ โดยเน้นย้ำถึงความสำเร็จของผู้เขียนในการเปิดเผยความสามารถและสติปัญญาที่ไม่ธรรมดาของเสด็จกอน และ ฮุน เซน ยังเปรียบเทียบตัวเขากับเสด็จกอนว่าเกิดปีมะโรงและเคยเป็นเด็กวันเช่นเดียวกับ และแนะว่าควรยกย่องว่าเสด็จกอนว่ส "เป็นวีรบุรุษของโลกผู้ยิ่งใหญ่ที่ส่งเสริมและนำแนวคิดเรื่อง 'สิทธิเสรีภาพ' และ 'การต่อสู้ของชนชั้น' มาใช้ในหมู่ประชาชนเป็นครั้งแรกในศตวรรษที่ 16" และ ฮุน เซน ยังบอกว่าการที่เสด็จกอน ระดมผู้สนับสนุนและล้มล้างกษัตริย์ว่าเป็น 'การปฏิวัติประชาชนประชาธิปไตยครั้งแรก' ในประวัติศาสตร์กัมพูชา

การที่ ฮุน เซน บอกว่าการก่อกบฏของเสด็จกอนเป็น 'การปฏิวัติประชาชนประชาธิปไตยครั้งแรก' นั้นมีนักวิเคราะห์มองว่านี่คือการแสดงความเป็นปฏิปักษ์กับ 'พวกเจ้า' โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่เขากำลังขัดแย้งกับเจ้ารณฤทธิ์

บล็อกเกอร์ Khmerization แสดงความเห็นในเรื่องนี้ว่า "ฮุน เซน เปรียบเทียบตัวเองอยู่ตลอดเวลากับเสด็จกอนผู้ลอบสังหารกษัตริย์และสถาปนาตนเองเป็นเจ้า ทำให้สมาชิกราชวงศ์ทุกคน โดยเฉพาะสถาบันพระมหากษัตริย์ ตระหนักดีว่าเขาอาจเป็นเสด็จกอนยุคใหม่ และการแข่งขันอันดุเดือดระหว่างฮุนเซนกับเจ้ารณฤทธิ์ทำให้สถานการณ์ดังกล่าวเป็นไปได้จริง" 

ปี  2017 นอกจากจะมีการส่งเสริมหนังสือเรื่องเสด็จกอนแล้ว ยังมีการเปิดตัวภาพยนต์เรื่อง 'หลวงพระเสด็จกอน' (ហ្លួងព្រះស្តេចកន) แต่ ฮุน เซน ไม่ได้สนับสนุนภาพยนตร์เรื่องนี้อย่างจริงจัง เพราะ "ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับคนธรรมดาสามัญที่โค่นล้มกษัตริย์ ซึ่งอาจถือได้ว่าเป็นการไม่เคารพสถาบันกษัตริย์กัมพูชาในปัจจุบัน" จากการรายงานของ The Phnom Penh Post

อย่างไรก็ตาม สม รังสี ผู้นำฝ่ายค้านกัมพูชากล่าวกับ The Phnom Penh Post ว่าตามประวัติศาสตร์แล้ว “พระอนุชาของพระศรีสุคนธบท เป็นผู้ต่อสู้อย่างยาวนาน จนสามารถปราบและสังหารเสด็จกอนได้ในที่สุด และขึ้นครองราชย์ในพระนามว่า พระจันทรราชา (พญาจันทน์)" และ " พระจันทรราชา เป็นกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นวีรบุรุษของชาติที่เผชิญหน้ากับผู้รุกรานต่างชาติหลายครั้ง และในช่วงปลายรัชกาล พระองค์ได้ปลดปล่อยจังหวัดกัมพูชาหลายแห่งจากกองทัพสยาม ผู้ใดต้องการถูกเปรียบเทียบตัวเองเป็นเสด็จกอน คงต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ”

โดยทีมข่าวต่างประเทศ The Better

Photo - โปสเตอร์ภาพยนต์เรื่อง 'หลวงพระเสด็จกอน' (ហ្លួងព្រះស្តេចកន) ปี  2017 จากเว็บไซต์ cambodia-cfc.org

TAGS: #ฮุนเซน #เสด็จกอน #ประวัติศาสตร์