สำนักข่าว 'เกาะสันติภาพ' ของกัมพูชารายงานว่า เช้าวันที่ 17 มิถุนายน 2568 บราก สุขุน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศ ได้เข้าพบเอกอัครราชทูตต่างประเทศจากชาติต่างๆ ในกัมพูชา เพื่อชี้แจงเกี่ยวกับพัฒนาการของปัญหาชายแดนกัมพูชา-ไทย การประชุมดังกล่าวจัดขึ้นที่กระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศ
ตามรายงานของสถานีโทรทัศน์แห่งชาติกัมพูชาเมื่อเช้าวันที่ 17 มิถุนายน โดยฝ่ายกัมพูชาให้ข้อมูลกับคณะทูตานุทูต ว่า
1) เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 กองทัพไทยได้บุกยึดดินแดนกัมพูชาในเขตช่องบก โดยทหารไทยได้ยิงใส่ทหารกัมพูชาเป็นคนแรก ทำให้นายซวน รูน ซึ่งทำหน้าที่ปกป้องบูรณภาพดินแดนกัมพูชาเสียชีวิต
2) สถานการณ์ตึงเครียดมากขึ้น
ภายหลังเหตุการณ์เมื่อวันที่ 28 พ.ค. ฝ่ายไทยกล่าวหากัมพูชาว่าเป็นผู้วางกับระเบิด และด้วยการกระทำฝ่ายเดียวของฝ่ายไทย ทำให้ความสัมพันธ์กัมพูชา-ไทยและสถานการณ์บริเวณชายแดนตึงเครียดมากขึ้น มาตรการและการกระทำต่อเนื่องของไทยได้ละเมิดและคุกคามกัมพูชา เช่น ลดเวลาเปิด-ปิดด่านชายแดนฝ่ายเดียว ขู่ตัดอินเตอร์เน็ตและหยุดจ่ายไฟฟ้าให้กัมพูชา เป็นต้น
แม้กัมพูชาจะเป็นประเทศรักสันติและไม่อยากให้ความตึงเครียดลุกลามจากภาคทหารไปสู่ภาคส่วนอื่น แต่ด้วยมาตรการตามอำเภอใจและคำขู่จากฝ่ายไทย รัฐบาลกัมพูชาภายใต้การนำของพระมหากษัตริย์ นายกรัฐมนตรี ได้ใช้มาตรการต่างๆ ทั้งด้านการทหาร การทูต และกฎหมาย ตลอดจนมาตรการทางปกครอง เช่น ปิดด่านชายแดนกัมพูชา-ไทย หยุดซื้ออินเตอร์เน็ตจากไทย หยุดฉายภาพยนตร์ไทย รวมถึงมาตรการเตรียมการเพื่อปกป้องผลประโยชน์และเกียรติยศของชาวกัมพูชา มาตรการเหล่านี้ใช้เพื่อปกป้องความยุติธรรม ความเป็นธรรม ความสมบูรณ์ ผลประโยชน์ และศักดิ์ศรีของชาติและประชาชนกัมพูชา
เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2568 เวลา 11.30 น. ตามเวลากรุงเฮก (ตรงกับ 16.30 น. ตามเวลากรุงพนมเปญ) กึมสูร สุวัณณารี เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำเนเธอร์แลนด์ ซึ่งพำนักอยู่ที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ได้ส่งจดหมายจาก บารก สุขุน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศ ให้แก่ ฟิลิป โกติเยร์ ผู้บันทึกศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) เป็นการส่วนตัว โดยแจ้งว่ารัฐบาลกัมพูชามีเจตนาที่จะยื่นคำร้องตามขั้นตอนเกี่ยวกับข้อพิพาทชายแดนกับประเทศไทยในพื้นที่ช่องบอก ปราสนาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด และปราสาทตาควายโดยขอให้ศาลโลกพิจารณาคดีข้อพิพาทชายแดนนี้ กัมพูชาต้องการเพียงความยุติธรรม ความเป็นธรรม และความชัดเจนในการกำหนดเส้นแบ่งเขตแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อที่คนรุ่นหลังจะได้ไม่ต้องประสบปัญหากันไม่รู้จบอีกต่อไป กัมพูชาเลือกกฎหมายระหว่างประเทศและสันติภาพ
กัมพูชาไม่มีเจตนาจะอ้างสิทธิ์ในดินแดนของประเทศใด ๆ แม้แต่มิลลิเมตรเดียว แต่กัมพูชาจะไม่ยอมให้ใครมายึดครองดินแดนของประเทศแม้แต่มิลลิเมตรเดียว
รายงานต่อโดยทีมข่าวต่างปรเทศ The Better
Photo - Ministry of Foreign Affairs and International Cooperation