'จี้เสี่ยวปอ' ชายที่ถูกกล่าวหาว่าเป็น'บอสจีนเทา'เมียวดีกับธุรกิจพนันมาเก๊า

'จี้เสี่ยวปอ' ชายที่ถูกกล่าวหาว่าเป็น'บอสจีนเทา'เมียวดีกับธุรกิจพนันมาเก๊า

ในเวลานี้ชื่อของ 'จี้เสี่ยวปอ' (纪晓波) กำลังแพร่หลายไปทั่วสื่อจีน ในฐานะหนึ่งใน 'บอสจีนเทา' ที่ควบคุมธุรกิจมืดในเมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา

ก่อนเหตุการณ์ 'หวางซิง' หรือ 'ซิงซิง' ถูกล่อลวงไปที่เมียวดีดดยผ่านไทยประมาณครึ่งเดือน เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2024 สื่อฮ่องกง 香港01 ได้ทำการเปิดเผยเครือข่ายประโยชน์และหัวหน้าเบื้องหลังนิคมธุรกิจฉ้อโกงอิเล็กทรอนิกส์ของเมียนมา โดยวิเคราะห์การสมคบคิดระหว่างขุนศึกชนกลุ่มน้อยในเมียนมาและนักธุรกิจจีน โดยในบทความดังกล่าวได้เปิดเผยว่าจี้เสี่ยวปอแฟนหนุ่มของ อู๋เพ่ยฉือ (吴佩慈) นักแสดงและนางแบบสาวชาวไต้หวัน คือบอสใหญ่ของ นิคมธุรกิจ "เหิงเซิง" (恒升) ในเมียวดี

จี้เสี่ยวปอ มาจากเมืองฮาร์บิน มณฑลเฮยหลงเจียง ประเทศจีน ในช่วงวัยเด็ก เขาเดินทางไปมาเก๊ากับแม่ของเขา คือ ชุ่ยลี่เจี๋ย (崔丽杰) และเริ่มต้นอาชีพเป็น "คนวางเดิมพัน" ในคาสิโน นั่นคือ เป็นคนกลางที่คอยแนะนำลูกค้าให้รู้จักกับคาสิโน ต่อมาจี้เสี่ยวปอได้เช่าห้อง VIP และซื้อโต๊ะพนัน 12 โต๊ะ  นั่นคือจุดเริ่มต้นของ "กลุ่มเหิงเซิง" (恒升集团) 

สื่อภาษาจีน 51.ca รายงานว่า"กลุ่มเหิงเซิง"  ก่อตั้งขึ้นในปี 2011 ผู้ก่อตั้ง คือ จี้เสี่ยวปอ และ ชุยลี่เจี๋ย แม่ของเขา โดยมี ชุ่ยลี่เหมย น้องสาวของ ชุยลี่เจี๋ย เป็นผู้ถือหุ้นในนาม

"กลุ่มเหิงเซิง" เริ่มจากห้อง VIP และโต๊ะพนัน 12 โต๊ะที่ StarWorld Entertainment และขยายไปสู่คาสิโนใหญ่ๆ เช่น Wynn, Galaxy, Sands City, MGM และ Venetian ในเวลาสองปี ไม่เพียงแต่จะพัฒนาอย่างรวดเร็วเท่านั้น แต่ยังทำกำไรได้อย่างมหาศาลอีกด้วย ภายในเวลาไม่ถึงครึ่งปีหลังจากเปิดตัว "กลุ่มเหิงเซิง" มีรายได้ 300 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง และในอีกสองปีถัดมา มีรายได้มากกว่า 900 ล้านหยวน (และเคยติดอันดับหนึ่งในหกบริษัทตัวกลางการพนันชั้นนำในมาเก๊า)

"กลุ่มเหิงเซิง" คือธุรกิจหลักของเขา แต่เขายังขยายตัวผ่านบริษัทอื่นๆ ด้วยในปี 2014 จี้เสี่ยวปอได้เข้าซื้อบริษัทจดทะเบียนแห่งหนึ่งและจดทะเบียนในตลาดทุนฮ่องกงผ่านการจดทะเบียนทางลับ บริษัทดังกล่าวได้รับการขนานนามว่าป๋อหัวไท่ผิงหยาง (博华太平洋)  หรือ Imperial Pacific เขาก็กลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่ควบคุมบริษัท ป๋อหัวไท่ผิงหยาง

ในปี 2016 มีรายงานว่าจี้เสี่ยวปอลงทุน 3,100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (24,100 ล้านเหรียญฮ่องกง) ที่เกาะไซปันเพื่อสร้าง "อาณาจักรบันเทิงแปซิฟิก" (太平洋娱乐王国) หรือ Imperial Pacific Kingdom ในปี 2017 โรงแรมระดับสูงสุดที่สร้างโดยครอบครัวของจี้เสี่ยวปอบนเกาะไซปัน ซึ่งก็คือ Imperial Palace Hotel ได้เปิดดำเนินการ และขยายการรองรับคาสิโนเพื่อดึงดูดนักพนันจากทั่วทุกมุมโลกได้มากขึ้น 

ไม่นานหลังจากที่จี้เสี่ยวปอเปิดคาสิโนบนเกาะไซปัน อันเป็นเขตแดนของสหรัฐอเมริกาในแปซิฟิก ทางสำนักงานสอบสวนกลางแห่งสหรัฐอเมริกา หรือ FBI ของสหรัฐ ก็ตั้งเป้าไปที่เขาในข้อหาฟอกเงินเนื่องจากมีกระแสเงินสด 32,000 ล้านดอลลาร์ ในปี 2019 สื่อรายงานว่าธุรกิจของครอบครัวจี้ เซียะโปอยู่ระหว่างการสอบสวนโดยเอฟบีไอ ในวันที่ 7 พฤศจิกายนของปีเดียวกัน FBI เอฟบีไอได้สืบสวนบริษัทจดทะเบียน Imperial Pacific ซึ่งเป็นของครอบครัวของจี้เสี่ยวปอ และยังถูกFBI ค้นหลายครั้งในข้อหาจ้างแรงงานผิดกฎหมายและติดสินบนผู้ว่าการเกาะไซปัน

แม้ว่าทางสหรัฐฯ จะจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน แต่เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2023 ศาลประชาชนระดับกลางปักกิ่งหมายเลข 1 ได้ออกประกาศระบุว่า "กลุ่มอาชญากรชั่วร้าย" ที่นำโดยจี้เสี่ยวปอ ถูกหน่วยงานความมั่นคงสาธารณะกวาดล้างแล้ว โดยน้าของจี้เสี่ยวปอ คือ ชุ่ยลี่เหมย (崔丽梅) ซึ่งเป็นสมาชิกหลักของแก๊ง ถูกตัดสินจำคุก 8 ปี 6 เดือน และปรับเงิน 200,000 หยวน 

ขบวนการนี้ดำเนินการภายใต้ชื่อ "กลุ่มเหิงเซิง" (恒升集团) ซึ่งหนึ่งในธุรกิจของกลุ่มนี้ดำเนินการอยู่ที่เมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา 

ประกาศดังกล่าวระบุว่าระหว่างปี 2008 ถึง 2021 เพื่อแสวงหากำไรที่ผิดกฎหมาย กลุ่มอาชญากรชั่วร้ายซึ่งมีนายจี้ (纪某某 ศาลไม่ได้ระบุชื่อโดยตรง แต่ใช้คำว่า นายแซ่จี้) เป็นสมาชิกหลักและสมาชิกอีก 15 คน รวมถึงจำเลย ชุ่ยลี่เหมยได้จัดระเบียบและชักชวนชาวจีนให้ไปเล่นการพนันในต่างประเทศ ก่อความวุ่นวาย บุกรุกบ้านเรือนอย่างผิดกฎหมาย และทวงหนี้ที่ผิดกฎหมายในปักกิ่งและจังหวัดและเมืองอื่นๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ภายใต้การจัดการของนายจี้ กลุ่มอาชญากรชั่วร้ายได้กระทำการที่ผิดกฎหมายและเป็นอาชญากรรมซ้ำแล้วซ้ำเล่า กระทำความชั่วร้าย กดขี่ประชาชน ทำลายความสงบเรียบร้อยทางเศรษฐกิจและสังคม และก่อให้เกิดผลกระทบต่อสังคมในทางลบ จำเลยทั้ง 15 คนล้วนเป็นสมาชิกกลุ่มอาชญากรชั่วร้ายและถูกลงโทษอย่างรุนแรงตามกฎหมาย

แม้ว่าศาลจะไม่ได้เอ่ยชื่อโดยตรง แต่ระบุเพียงแค่ว่า นายจี้ (纪某某) แต่สื่อในจีนพยายามโยงไปถึงจี้เสียวปอ และระบุว่าในเดือนธันวาคม 2024 ตามรายงานของสื่อไต้หวัน จี้เสี่ยวปอหนีไปญี่ปุ่นก่อนที่ศาลประชาชนระดับกลางปักกิ่งหมายเลข 1 ระบุว่าเป็น "ผู้นำกองกำลังชั่วร้าย" และยังมีการแพร่ข่าวที่ไม่ได้มีการยืนยันว่า ปัจจุบันเขาเป็นที่ต้องการตัวทั่วโลกโดยสำนักงานสอบสวนกลางแห่งสหรัฐอเมริกา (FBI)

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตั้งแต่ในช่วงต้นปี 2021 จี้เสียวปอจะออกมาประท้วงว่าเขาถอนตัวจากการดำเนินงานของ "กลุ่มเหิงเซิง" (恒升集团) ในปี 2015 แล้วก็ตาม แต่คำตัดสิน 2 ปีต่อมายังคงเชื่อมโยงเขากับ "กลุ่มเหิงเซิง" 

เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2024 จี้เสี่ยวปอ และอู๋เพ่ยฉือ แฟนสาว ได้มอบหมายให้ทนายความออกแถลงการณ์ตอบสนองต่อข่าวลือที่ว่าจี้เสี่ยวปอเป็นผู้ต้องการตัว โดยระบุว่า "รายงานที่ว่า FBI ต้องการตัวพ่อของลูกของอู๋เพ่ยฉือและจี้เสี่ยวปอแฟนหนุ่มของอู๋เพ่ยฉือล้วนเป็นรายงานที่แต่งขึ้นและเป็นเท็จ" พวกเขาขอให้สื่อที่เกี่ยวข้องลบรายงานเท็จเหล่านี้ และขอให้สื่ออื่น ๆ อย่าอ้างและพิมพ์ซ้ำโดยผิดพลาด และเมื่อถึงเดือนมกราคม 2025 อู๋เพ่ยฉือ ก็ยังยืนยันความบริสุทธิ์ของแฟนหนุ่มของเธอและขู่จะฟ้องร้องต่อไป

แต่กระนั้น ในประเทศที่ใช้ภาษาจีนในการสื่อสาร ข่าวลือที่ว่าจี้เสี่ยวปอมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มฉ้อโกง 'กลุ่มเหิงเซิง' ได้มีการแพร่สะพัดมานานหลายปีแล้ว และการที่ศาลปักกิ่งฯ ตัดสินเขาและครอบครัวยิ่งทำให้มีการขุดคุ้ยความเกี่ยวข้องของจี้เสี่ยวปอกับ "จีนเทา" มากขึ้นเรื่อยๆ 

สื่อภาษาจีนจึงยังไม่หยุดเปิดเผยเบื้องหลังของจี้เสี่ยวปอ สื่อบางแห่งเช่น 51.ca ยังตั้งข้อสังเกตว่า ป้ายที่แขวนอยู่ในนิคมธุรกิจจีนเทาที่เขียนว่า 恒升皇家 (Hengsheng Royal) มีโลโก้ตรงกล้างระหว่างคำหว่า 'เหิงเซิง' (恒升) และคำว่า  'รอยัล' (皇家) โดยคำว่า รอยัล หมายถึงบริษัท 越南皇家國際股份公司หรือ Royal International Corporationซึ่งเป็นเจ้าของคาสิโนที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนามตอนเหนือ ลักษณะนี้เหมือนกันทุกประการกับโลโก้ของ "กลุ่มเหิงเซิง" (恒升集团) ที่ดำเนินการคาสิโนในมาเก๊า ตามคำพิพากษาของศาลชั้นสูงฮ่องกงในปี 2017 ระบุว่า จี้เสี่ยวปอ คือหัวหน้าเบื้องหลังกลุ่มเหิงเซิงในมาเก๊า แต่เมื่อดูเผินๆ ผู้ถือหุ้นของ กลุ่มเหิงเซิง คือ ชุ่ยลี่เหมย (崔丽梅) ซึ่งเป็นน้องสาวของแม่ของจี้เสี่ยวปอ

สื่อภาษาจีนต่างๆ อ้างรายงานของสื่อต่างประเทศ เรื่อง “การหลบหนีจากกลุ่มฉ้อโกงโทรคมนาคมเมียวดีในเมียนมา” 《缅甸妙瓦底电诈集团出逃记》 บทเปิดเป็นเรื่องเกี่ยวกับเหยื่อที่ถูก “ตีจนเละ” และหนีมาจากนิคมธุรกิจ  “เหิงเซิง” 

บทความเผยว่า "ชาวจีนที่ถูกลักพาตัวไปที่นี่ถูกเรียกว่า “เงินหยวนเดินได้” เมื่อพวกเขาพยายามหลบหนีออกจากนิคมธุนกิจ พวกเขาจะไม่เพียงถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไล่ตามเท่านั้น แต่ชาวบ้านในพื้นที่อาจมีส่วนร่วมในการจับกุมด้วย โดยพวกเขาสามารถรับรางวัลเมื่อถูกจับได้ เป็นเรื่องยากมากที่คนอย่างต้าโสงจะต่อสู้เพื่อหนีออกมาและได้รับการช่วยชีวิตสำเร็จ"

คนจีนที่หนีมาได้คนนี้มีชื่อว่า "ต้าโสง" (大雄) บทความบรรยายว่า "ต้าโสงนั่งบนพื้นของศูนย์กักขังสถานีตำรวจแม่สอด ขาข้างหนึ่งพันด้วยผ้าโปร่งสีขาวหนาอย่างแน่นหนาและยืดตรง เขาแตะผ้าโปร่งที่มุมคิ้วซึ่งเกือบจะปิดเปลือกตาของเขา เอียงศีรษะและพูดอย่างภาคภูมิใจว่า 

“ผมถูกตีจนเละจากนิคมธุกิจเหิงเซิง เจ้าหน้าที่ชายแดน (ไทย) ช่วยผมไว้”

โดยทีมข่าวต่างประเทศ The Better

TAGS: #จีนเทา #เมียวดี #ซิงซิง #'จี้เสี่ยวปอ