สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนได้เผยคลิปวิดิโอของเครื่องบินสเตลท์ หรือ 'เครื่องบินล่องหน' รุ่นที่ 5 ของกองทัพอากาศกองทัพปลดแอกประชาชนจีน (PLAAF) รุ่น J-35A ในงานแสดงทางอากาศจูไห่ที่จะถึงนี้ และก่อนหน้านี้ มีการเปิดเผยภาพถ่ายของเครื่องบิน J-35A เป็นครั้งแรกเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว
J-35A หรือ Shenyang J-35 เครื่องบินขับไล่สเตลท์แบบสองเครื่องยนต์สำหรับทุกสภาพอากาศผลิตโดนบริษัท Shenyang Aircraft Corporation (SAC) ของจีน เป็นเครื่องบินรบเอนกประสงค์ที่ออกแบบมาเพื่อความเหนือกว่าทางอากาศและภารกิจโจมตี
เครื่องบินรุ่นนี้พัฒนามาจากเครื่องบินรบรุ่น Shenyang FC-31 Gyrfalcon ซึ่งเป็นรุ่นต้นแบบ โดยมี 3 รุ่น คือ รุ่นภาคพื้นดินที่ออกแบบมาสำหรับกองทัพอากาศกองทัพปลดแอกประชาชน (PLAAF) เรียกว่ารุ่น J-35A และรุ่นบนเรือบรรทุกเครื่องบินที่ปรับแต่งให้ยิงด้วยเครื่องดีด (CATOBAR) สำหรับกองทัพอากาศกองทัพเรือกองทัพปลดแอกประชาชน (PLANAF)เรียกว่ารุ่น J-35
นอกจากนี้ยังมีรุ่น J-31B Gyrfalcon ซึ่งสื่อของรัฐจีนเปิดตัวเครื่องบินรุ่นนี้ในเดือนกรกฎาคม 2024 ซึ่งจากคลิปวิดิโอ J-31B มีขนาดใหญ่กว่าต้นแบบ FC-31 อย่างมาก และจะมีช่องอาวุธด้านข้างซึ่งแต่ละช่องสามารถบรรจุขีปนาวุธได้อย่างน้อย 2 ลูก นอกเหนือจากช่องอาวุธหลัก ผู้เชี่ยวชาญที่ถูกอ้างถึงโดย South China Morning Post เชื่อว่า J-31B น่าจะถูกสร้างขึ้นมาเพื่อกองทัพอากาศปลดปล่อยประชาชนมากกว่า
การพัฒนา J-35A และรุ่นต่างๆ จากต้นแบบ FC-31 ของจีนถูกจับตาอย่างมาจากสหรัฐฯ เจ้าหน้าที่กองทัพและอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ เชื่อว่าเมื่อ FC-31 เมื่อเข้าประจำการแล้ว มันน่าจะสามารถเทียบชั้นกับเครื่องบินขับไล่รุ่นที่สี่ที่มีอยู่แล้ว เช่น F-15 Eagle, F-16 Fighting Falcon และ F/A-18E/F Super Hornet ได้อย่างสบายๆ
ผู้เชี่ยวชาญในวงการทหารของสหรัฐฯ ยังชี้ว่าว่าความสามารถของ FC-31 ที่จะเทียบชั้นกับเครื่องบินขับไล่รุ่นใหม่ เช่น F-22 และ F-35 ของสหรัฐฯ นั้นจะขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น จำนวนแพลตฟอร์ม คุณภาพของนักบิน และความสามารถของเรดาร์และเซ็นเซอร์อื่นๆ
กระนั้นก็ตาม มีประเด็นที่จีนถูกกล่าวหาเรื่อง "ลอกเลียนแบบเทคโนโลยี" จากการรายงานของ Eurasian Times ระบุว่า มีความคล้ายคลึงกันอย่างน่าทึ่งระหว่างเครื่องบินรบสเตลท์ของจีนและอเมริกา ทำให้จีนถูกโจมตีว่าก็อปปี้เทคโนโลยี F-35 ของสหรัฐฯ และเป็นเวลาหลายปีที่ชาติตะวันตกกล่าวหาจีนว่าพยายามขโมยข้อมูลลับเกี่ยวกับเครื่องบินรบสเตลท์ F-35 แต่จีนได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาเหล่านี้ ที่น่าสนใจคือทางการจีนเลือกหมายเลข 35 เป็นชื่ออย่างเป็นทางการของเครื่องบินลำนี้เหมือนกับ F-35 ของสหรัฐฯ
ย้อนกลับไป ในเดือนเมษายน 2009 หนังสือพิมพ์ Wall Street Journal รายงานว่าสายลับคอมพิวเตอร์ ซึ่งคาดว่าจะเป็นชาวจีน สามารถเจาะฐานข้อมูลของโครงการ Joint Strike Fighter และขโมยข้อมูลลับไปได้หลายเทราไบต์ และผู้เชี่ยวชาญบางคนกล่าวหาว่าจีนได้นำความรู้ที่ขโมยมาไปใช้กับ FC-31
อย่างไรก็ตาม แฟรงก์ เคนดัลล์ที่ 3 (Frank Kendall III) อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกองทัพอากาศสหรัฐฯ คนที่ 26 และเคยดำรงตำแหน่งระดับสูงหลายตำแหน่งในกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้กล่าวต่อคณะกรรมาธิการวุฒิสภาว่า เขาเชื่อมั่นว่าข้อมูลลับที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเครื่องบิน F-35 ได้รับการปกป้องอย่างดี แต่เขาไม่มั่นใจว่าข้อมูลที่ไม่เป็นความลับจะได้รับการปกป้องอย่างดีเช่นกัน เขาอ้างว่าข้อมูลเหล่านี้อาจช่วยให้คู่แข่งของสหรัฐฯ เร่งพัฒนาโครงการเครื่องบินขับไล่รุ่นที่ 5 (เช่นรุ่น F-35 ของสหรัฐฯ) ของพวกเขาเองขึ้นมาได้
นอกจากนี้ ในปี 2012 วลาดิมีร์ บาร์คอฟสกี (Vladimir Barkovsky) จากบริษัท Russian Aircraft Corporation MiG ผู้เผลิตเครื่องบินรบของรัสเซียได้กล่าวว่า แม้จะมีข้อบกพร่องด้านการออกแบบอยู่บ้าง แต่ FC-31 "ก็ดูเหมือนเป็นเครื่องบินที่ดี" แม้ว่าจะมีคุณลักษณะต่างๆ ที่ใช้อยู่ในเครื่องบินรบรุ่นที่ 5 ของสหรัฐฯ อยู่แล้ว (เช่นรุ่น F-35) แต่ก็ "ไม่ใช่การลอกเลียนแบบ แต่เป็นการออกแบบในประเทศที่ทำออกมาได้ดีเยี่ยม"
ด้านนิตยสารด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ National Interest เผยแพร่บทความเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน โดยระบุว่า เอริก วิคลันด์ (Eric Wicklund) อดีตผู้เชี่ยวชาญด้านการรบของกองทัพเรือสหรัฐฯ เคยอธิบายไว้ก่อนหน้านี้ว่า แม้ว่าจะสามารถคัดลอกการออกแบบระบบสเตลท์ของเครื่องบิน F-35 ได้ แต่การคัดลอกความสามารถของวัสดุดูดซับเรดาร์ (RAM) ของเครื่องบิน F-35 ยังคงเป็นเรื่องยาก และ
“ผมสามารถยื่น RAM (Radar Absorbent Material เทคโนโลยีที่ทำมห้เครื่องบินล่องหนได้) ส่วนหนึ่งให้กับชาวจีนได้ พวกเขาสามารถวิเคราะห์และตระหนักว่ามันเป็นของแท้ แต่ปัญหาอยู่ที่การย้อนกลับวิศวกรรม (นั่นคือการทำเลียนแบบ) พวกเขารู้ว่ามันคืออะไร แต่ไม่รู้ว่าจะสร้างมันขึ้นมาได้อย่างไร" เอริก วิคลันด์ กล่าว
วิคลันด์อธิบายว่าการให้เทคโนโลยี RAM ของอเมริกาแก่จีนนั้นก็เหมือนกับการให้ใบมีดเหล็กดามัสกัสแก่ช่างทำดาบชาวอียิปต์ ชาวอียิปต์จะรับรู้ถึงคุณภาพที่เหนือกว่าของใบมีด แต่จะไม่สามารถย้อนวิศวกรรมได้ (หรือชำแหละการพัฒนาออกมาให้รู้จริงแล้วเลียนแบบ) นั่นคือปัญหาที่ฝ่ายจีนกำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบันเกี่ยวกับเทคโนโลยี RAM
ทีมข่าวต่างประเทศ The Better