นายพลโมเช่ ดายัน นักรบและกลยุทธ์ที่ยิ่งใหญ่ของอิสราเอลเคยกล่าวไว้ว่า "อิสราเอลต้องทำตัวเหมือนหมาบ้า ที่อันตรายเกินกว่าที่จะรบกวน"
นี่คือสิ่งที่เรียกว่า 'หลักการหมาบ้า' หรือ Mad dog doctrine/Theory of War คือการแสดงท่าทีที่คาดเดาลำบาก บางครั้งเหมือนเสียสติ บางครั้งเหมือนหลุดโลก ทำแบบนี้จนกลไกเหตุผลของศัตรูปั่นป่วน วิเคราะห์จุดยืนของฝ่ายเราไม่ได้
การทำตัวบ้าๆ บอๆ เพื่อให้ฝ่ายตรงข้ามไม่กล้าผลีผลามเข้ามาโจมตี ยังใช้กันในการทูตด้วยเรียกว่า Madman theory โดยที่การใช้ครั้งแรกๆ ก็เกี่ยวข้องกับการทหาร นั่นคือ ในยุคของประธานาธิบดี ริชาร์ด นิกสัน แห่งสหรัฐฯ
ในระหว่างสงครามเวียดนาม นิกสัน "เล่นละคร" ด้วยการแสร้งทำให้ฝ่ายคอมมิวนิสต์ (สหภาพโซเวียตที่เป็นลูกพี่ กับเวียดนามเหนือที่เป็นลูกน้อง) เข้าใจว่าตัวเขาพร้อมที่จะทำอะไรที่บ้าระห่ำได้ เขาบอกกับ 'บ็อบ' หรือ H. R. Haldeman เจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบขาวในเวลานั้น (ซึ่งเขียนเรื่องนี้ไว้ในหนังสือ The Ends of Power) ว่า
"ผมเรียกมันว่าทฤษฎีคนบ้า บ็อบ ผมอยากให้เวียดนามเหนือเชื่อว่าผมมาถึงจุดที่สามารถทำอะไรก็ได้เพื่อหยุดสงครามนี้ เราจะแค่บอกพวกเขาว่า "เห็นแก่พระเจ้า คุณรู้ดีว่านิกสันคลั่งไคล้ลัทธิคอมมิวนิสต์ เราไม่สามารถห้ามเขาเวลาเขาโกรธได้ แถมเขสยังมี (อำนาจที่จะกด) ปุ่มนิวเคลียร์ด้วย" และโฮจิมินห์เองจะไปปารีสในอีกสองวันเพื่อขอสันติภาพ"
และรในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2512 รัฐบาลของนิกสันก็แสดงอาการว่า "คนบ้า (นิกสัน) กำลังเอาไม่อยู่" ให้สหภาพโซเวียตได้ประจักษ์ เมื่อกองทัพสหรัฐฯ ได้รับคำสั่งให้เตรียมพร้อมทำสงครามโลกอย่างเต็มรูปแบบ (โดยที่ประชากรอเมริกันส่วนใหญ่ไม่ทราบ) และเครื่องบินทิ้งระเบิดที่ติดอาวุธเทอร์โมนิวเคลียร์ได้บินวนเป็นวงกลมใกล้ชายแดนโซเวียตเป็นเวลาสามวันติดต่อกัน
ที่รัฐบาลสหรัะฐใช้ 'กลยุทธ์คนบ้า' เพื่อบีบให้รัฐบาลเวียดนามเหนือเจรจายุติสงครามเวียดนาม
ตามรายงานของ CIA ที่ถูกเปิดเผยในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 พบว่าเมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2512 ประธานาธิบดีนิกสันอาจจะเผยกับประธานาธิบดีของเวียดนามใต้ว่ามีสองทางเลือกที่เขากำลังพิจารณาอยู่คือทางเลือกอาวุธนิวเคลียร์เพื่อจัดการเวียดนามเหนือ (กลยุทธ์หมาบ้า) หรือการจัดตั้งรัฐบาลผสมเวียดนามเหนือและใต้ (กลยุทธ์แบบไม่บ้า)
โดยสรุปก็คือ 'กลยุทธ์คนบ้า' คือการแสดงท่าทีให้อีกฝ่ายเริ่มกังวลว่าประเทศนั้นพร้อมที่จะทำอะไรบ้าๆ ได้ เช่น การใช้อาวุธนิวเคลียร์ แทนที่จะเจรจาอย่างเป็นผู้เป็นคน
'หลักการหมาบ้า' ของอิสราเอลเรียกอีกอย่างว่า Samson Option
'ทางเลือกแซมสัน' (Samson Option) เป็นกลยุทธ์ขู่ขวัญของอิสราเอลในการตอบโต้อย่างหนักด้วยอาวุธนิวเคลียร์เป็น "ทางเลือกสุดท้าย" ต่อประเทศที่กองทหารได้รุกรานและ/หรือทำลายอิสราเอลไปเป็นส่วนใหญ่
การใช้อาวุธนิวเคลียร์ถูกมองว่าเป็น "ความบ้าระห่ำ" และทำให้ศัตรูไม่กล้าที่จะลงมือเพราะไม่รู้ว่าอิสราเอลจะบ้าพอที่จะใช้นิวเคลียร์แค่ไหน?
แน่นอว่า การมใช้นิวคลียร์หมายถึงความพินาศไปพร้อมๆ กัน ในกณีที่ศัตรูก็มีนิวเคลียร์เช่นกัน นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมอิสราเอลจึงใช้คำว่า 'ทางเลือกแซมสัน' กับยุทธศาสตร์มหาบ้าแบบนี้ เพราะ 'แซมสัน' เป็นผู้นำชาวอิสราเอลโบราณในคัมภีร์ไบเบิล มีชื่อเสียงในด้านความทรงพลัง แต่สุดท้ายถูกศัตรูจับตัวไว้ในวิหารใหญ่และถูกบีบคั้นจนหมดทาง กระทั่งเขาใช้กำลังมหาศาลครั้งสุดท้าย ทำลายวิหารของศัตรูจนพังพินาศ ศัตรูเกือบทั้งหมดตายไปพร้อมกับเขาในซากวิหารนั่นเอง
นี่คือนัยของชื่อ 'ทางเลือกแซมสัน' คือ "ตัวข้ากับศัตรู เราจะตายไปพร้อมกัน"
'ตำนาน' ของเรื่องนี้ได้รับการเปิดเผยในบทความเรื่อง "ความลับสุดท้ายของสงครามหกวัน" โดย New York Times รายงานว่าในช่วงไม่กี่วันก่อน 'สงครามหกวัน' (Six-Day War) กับพวอาหรับในปี 1967 อิสราเอลวางแผนที่จะส่งหน่วยพลร่มโดยเฮลิคอปเตอร์เข้าไปในคาบสมุทรไซนาย ภารกิจของพวกเขาคือการติดตั้งและจุดชนวนระเบิดนิวเคลียร์จากระยะไกลบนยอดเขาเพื่อเป็นการเตือนไปยังประเทศอาหรับที่อยู่โดยรอบที่เป็นศัตรู แต่ในเวลาต่อมา แม้ว่าอิสราเอลจะมีจำนวนทหารจำนวนน้อยกว่า แต่อิสราเอลก็สามารถกำจัดกองทัพอากาศอียิปต์และยึดครองคาบสมุทรไซนายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ชนะสงครามได้ก่อนที่จะเริ่มการจุดชนวนระเบิดนิวเคลียร์ด้วยซ้ำ พลจัตวาอิสราเอล อิทซัค ยาคอฟ เรียกปฏิบัติการนี้ว่า Samson Option
ในสงครามยมคิปปูร์ (Yom Kippur War) ในปี 1973 กองกำลังอาหรับมีอำนาจเหนือกองกำลังอิสราเอล และนายกรัฐมนตรีโกลดา เมียร์ แห่งอิสรเาอล ได้อนุมัติการแจ้งเตือนนิวเคลียร์และสั่งให้เตรียมระเบิดปรมาณู 13 ลูกให้พร้อมสำหรับใช้กับขีปนาวุธและเครื่องบิน เอกอัครราชทูตอิสราเอลแจ้งประธานาธิบดีนิกสันว่า "อาจเกิดข้อสรุปที่ร้ายแรงมาก" หากสหรัฐอเมริกาไม่ขนส่งเสบียงทางอากาศ นิกสันก็ทำตาม นักวิจารณ์บางคนมองว่านี่คือการขู่ที่จะใช้ Samson Option ครั้งแรก และเป้าหมายการขู่อยู่ที่ประธานาธิบดีนิกสันของสหรัฐฯ ให้เข้ามาช่วยอิสราเอล
ในระยะใกล้ๆ อิสราเอลก็ยังไม่ได้ละทิ้ง 'หลักการหมาบ้า'
เช่น หลุยส์ เรอเน เบเรส ศาสตราจารย์ด้านรัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเพอร์ดู ซึ่งเป็นประธานโครงการแดเนียล (Project Daniel) ซึ่งเป็นกลุ่มที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีอารีเอล ชารอน แห่งอิสราเอล โดยศาสตราจารย์เบเรสการจะใช้ Samson Option อย่างมีประสิทธิภาพก็คือจะต้องให้อิสรเาอลมีสถานะคลุมเครือด้านนิวเคลียร์ นั่นคือคนภายนอกไม่รู้ว่าอิสราเอลมีนิวคเลียร์หรือไม่หรือไม่เท่าไร และอิสราเอจะใช้แบบหมาบ้าหรือไม่ หรือว่าจะใช้อย่างรอบคอบ
แต่ ในปี พ.ศ. 2546 นักประวัติศาสตร์การทหารของอิสราเอล คือ มาร์ติน ฟาน เครเฟลด์ กล่าวไว้ว่า
"เรามีหัวรบนิวเคลียร์และจรวดหลายร้อยลูก และสามารถยิงโจมตีเป้าหมายได้ทุกทิศทาง บางทีอาจถึงกรุงโรมด้วยซ้ำ เมืองหลวงส่วนใหญ่ในยุโรปเป็นเป้าหมายของกองทัพอากาศของเรา ขอยกคำพูดของนายพลโมเช ดายันที่ว่า "อิสราเอลต้องเป็นเหมือนหมาบ้าที่อันตรายเกินกว่าจะรบกวน" ผมคิดว่าตอนนี้ทุกอย่างสิ้นหวังแล้ว เราจะต้องพยายามป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น หากทำได้ อย่างไรก็ตาม กองกำลังติดอาวุธของเราไม่ได้แข็งแกร่งเป็นอันดับสามสิบของโลก แต่แข็งแกร่งเป็นอันดับสองหรือสาม เรามีศักยภาพที่จะทำลายโลกไปพร้อมกับเรา และผมรับรองกับคุณได้ว่าเรื่องนั้น (การทำลายโลก) จะเกิดขึ้นก่อนที่อิสราเอลจะล่มสลาย" (จากบทความของ David Hirst ชื่อ The Gun and the Olive Branch ที่ตีพิมพ์ใน The Observer ปี 2546)
ปัญหาอีกอย่างก็คือ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าศัตรูของอิสราเอลคิดที่จะเป็น 'หมาบ้า' เหมือนกัน?
เรื่องนี้ถูกต้ังคำถามโดยศาสตราจารย์เบเรสในบทความเรื่อง Israeli Security and Enemy Rationality เมื่อปี 2560 โดยบอกว่า "มีความเป็นไปได้อีกอย่างหนึ่ง ศัตรูกลุ่มเดียวกันอาจตัดสินใจที่จะไร้เหตุผลอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะโดยรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ตาม ในสถานการณ์ที่น่าสับสนเช่นนี้ ผู้วางแผนของอิสราเอลจะต้องประเมินอย่างมีความสามารถในการประเมินว่าความไม่สมเหตุสมผลรูปแบบใด ว่าเป็นการแสร้งทำหรือเป็นจริงกันแน่ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่"
ศัตรูของอิสราเอลที่ทำตัวเป็นหมาบ้า คือ อิหร่าน "เพราะสำหรับอิสราเอล ภัยคุกคามจากนิวเคลียร์ที่ไร้เหตุผลซึ่งคุกคามอิสราเอลอย่างแท้จริงยังคงเป็นอิหร่าน อันเป็นสิ่งที่น่ากังวลอย่างยิ่ง"
และความเป็นหมาบ้าของอิหร่านเริ่มชัดเจนขึ้น จนกระทั่งอิหร่านตัดสินใจจะโจมตีอิสราเอลโดยตรงในปีนี้ถึง 2 ครั้ง จนมีการตั้งคำถามโดยผู้เชี่ยวชาญว่า "แม้ว่าแนวทางนี้ (อิสราเอลทำเป็นหมาบ้า) จะได้ผลมานานหลายทศวรรษแล้ว แต่ปัจจุบัน ภูมิภาคนี้กำลังเผชิญคำถามสำคัญ ก็คือ จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อมี 'หมาบ้า' สองตัวเข้ามาซัดกัน?"
ทีมข่าวต่างประเทศ The Better
Photo - ภาพถ่ายสุนัขช่วยเหลือในระหว่างการเยี่ยมชมของเจ้าหน้าที่กองกำลังร่วมของรัฐมนตรีกลาโหม จอห์น ฮีลีย์ ของอังกฤษ ที่ค่ายบลัดฮาวด์ในเอปิสโกปี เมืองลิมาสโซล บนเกาะไซปรัสในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2024 กองทัพอังกฤษ "มีส่วนร่วมในความพยายามที่จะป้องกันไม่ให้สถานการณ์ตึงเครียดมากขึ้น" ขณะที่อิหร่านยิงขีปนาวุธถล่มอิสราเอล ฮีลีย์กล่าว (ภาพโดย Yui Mok / POOL / AFP)