ใครจะกล้าใช้สินค้าไต้หวัน ญี่ปุ่น ตะวันตก? หลังอิสราเอลระเบิดเพจเจอร์ที่เลบานอน

ใครจะกล้าใช้สินค้าไต้หวัน ญี่ปุ่น ตะวันตก? หลังอิสราเอลระเบิดเพจเจอร์ที่เลบานอน

บทวิเคราะห์สถานการณ์
จากกรณีที่มีการระเบิดของเพจเจอร์และวิทยุสื่อสารแบบวอล์กี้ทอล์กี้ในเลบานอนโดยเฉพาะที่ใช้งานโดยกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ เบื้องต้นคาดว่าเป็นฝีมือของอิสราเอล โดยทำการฝังวัตถุระเบิดเอาไว้ในอุปกรณ์เหล่านั้น แต่โดยผ่านขั้นตอนไหนก่อนที่จะถึงมือผู้ใช้นั้น ยังไม่เป็นที่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกิดเขึ้นสร้างความหวาดระแวงต่ออุปกรณ์ที่ผลิตโดยพันธมิตรตะวันตก เพราะเพจเจอร์และวิทยุสื่อสารแบบวอล์กี้ทอล์กี้ที่เกิดระเบิด ผลิตโดยบริษัทไต้หวันและญี่ปุ่นตามลำดับ 

แม้ว่าฝ่ายไต้หวันจะปฏิเสธความเกี่ยวข้องและโยนว่าเป็นความรับผิดชอบของบริษัทหุ้นส่วนในฮังการี และบริษัทญี่ปุ่นก็เร่งทำการตรวจสอบเรื่องนี้ แต่ทั้งสองประเทศหลีกเลี่ยงไม่ได้กับการถูกจับตามองจากประชาคมโลก (นอกโลกตะวันตก) ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับอิสราเอล เนื่องจากอิสราเอลเป็นพันธมิตรสำคัญของสหรัฐฯ และสหรัฐฯ ก็เป็นพันธมิตรสำคัญของไต้หวันและญี่ปุ่น และเพราะความสัมพันธ์ที่เป็นแนวร่วมด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจทำให้ปฏิเสธได้ยากว่า ไต้หวันและญี่ปุ่นไม่รู้เห็นเรื่องนี้ ไม่ว่าความเป็นได้เรื่องการผลิตสินค้า "พิเศษ" เพื่อตอบสนองเป้าหมายของอิสราเอล หรือการไม่รู้เห็นกันการที่อิสราเอลสกัดสินค้าที่ดูไม่พิษเป็นภัยของตนแล้วดัดแปลงให้เป็นอาวุธสังหาร 

แม้ว่าทั้งสองประเทศจะไม่มีส่วนรู้เห็น แต่การที่อิสราเอลทำเรื่องแบบนี้ ย่อมส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นต่อสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ของทั้งสองประเทศ ซึ่งถือเป็นสินค้าหลักๆ ของประเทศทั้งสอง ในกรณีที่ไต้หวันและญี่ปุ่นไม่รู้ไม่เห็น ก็เท่ากับถูกอิสราเอล "มองไม่เห็นหัว" ทั้งๆ ที่เป็นแนวร่วมเดียวกัน ด้วยการทำลายชื่อเสียงด้านสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ของไต้หวันและญี่ปุ่น เพราะในเวลานี้ เริ่มมีกระแสความกังขาเรื่องความปลอดภัยของสินค้าไต้หวันและญี่ปุ่น เพราะไม่รู้ว่าวันดีคืนดี "พันธมิตรตะวันตก" จะใช้อุปกรณ์เหล่านี้เป็นเครื่องมือสังหารหรือไม่? ในทางตรงกันข้าม เริ่มมีกระแสความสนใจในสินค้าจากจีน เพราะน่าจะไม่มีการ "สอดไส้" แบบสินค้าจากพันธมิตรตะวันตก

เบื้องต้นมีการเผยแพร่ข้อมูลในโซเชียลมีเดียของจีนว่า โรงงานในจีนกำลังเร่งผลิตทั้งวันทั้งคืนเพื่อเตรียมรับออเดอร์อุปกรณ์สื่อสารจากตะวันออกกลาง ซึ่งเริ่มไม่ไว้ใจสินค้าไต้หวันและญี่ปุ่น โดยข้อมูลระบุว่า ออเดอร์จากฃูกค้ากำหนดไว้ชัดเจนว่าสินค้าที่พวกเขาสั่งจะต้องผลิตในจีนเท่านั้น 

ที่น่าสนใจก็คือ กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่าสหรัฐฯ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดเครื่องรับส่งเพจเจอร์ในเลบานอน และไม่ทราบเรื่องดังกล่าวมาก่อน แต่มีรายงานว่าศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยอเมริกันแห่งเบรุตได้เปลี่ยนเครื่องรับส่งเพจเจอร์ของแพทย์และเจ้าหน้าที่เมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว

ดังนั้นเรื่องนี้จึงมีนัยทางการเมืองที่เข้มข้น และจะส่งผลกระทบต่อการผลิต การขาย และความมั่นต่อสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ของพันธมิตรตะวันตกอย่างมาก และอาจส่งผลดีต่อสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ของจีน 

เกิดอะไรขึ้นที่เลเบานอนกันแน่
เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2024 เวลาประมาณ 15:30 น. ตามเวลาท้องถิ่นเลบานอน (หรือวันที่ 18 กันยายนตามเวลาไทย) เครื่องรับส่งหน้าจอแบบพกพา หรือ "เพจเจอร์" (Pager) จำนวนหลายพันเครื่องที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ซึ่งเป็นพรรคการเมืองของเลบานอนและกลุ่มก่อการร้ายใช้ ได้เกิดระเบิดขึ้นพร้อมกันในเลบานอนและซีเรีย มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 9 ราย และบาดเจ็บกว่า 2,750 ราย รวมถึงสมาชิกฮิซบอลเลาะห์และพลเรือน

แหล่งข่าวระดับสูงด้านความมั่นคงของเลบานอนเปิดเผยกับสำนักข่าว Al-Hadath อิสราเอลได้แทรกซึมเข้าไปในระบบการสื่อสารของอุปกรณ์แต่ละชิ้น จนทำให้เกิดการระเบิดขึ้น โดยผู้รับบาดเจ็บมีการบาดเจ็บที่ใบหน้าและดวงตา เนื่องจากเพจเจอร์จะส่งเสียงเพื่อกระตุ้นให้ผู้ใช้หยิบอุปกรณ์ขึ้นมาและยกขึ้นมาดู บางครั้งมีการระเบิดที่ข้างลำตัวด้านล่างซึ่งมีการติดตั้งเพจเจอร์เอาไว้

ต่อมา ประมาณ 24 ชั่วโมงหลังจากการระเบิดครั้งแรก การระเบิดระลอกที่สองก็เกิดขึ้นในเลบานอน โดยฮิซบุลเลาะห์ระบุว่าการะเบิดเกิดขึ้นกับวิทยุสื่อสาร VHF ICOM IC-V82 ซึ่งฮิซบุลเลาะห์ใช้งาน การระเบิดดังกล่าวยังทำให้เกิดไฟไหม้ในบ้านอย่างน้อย 2 หลังอีกด้วย การระเบิดครั้งอื่นๆ เกิดขึ้นที่งานศพที่จัดขึ้นในกรุงเบรุตสำหรับสมาชิกฮิซบุลเลาะห์ 3 คนและเด็ก 1 คน ซึ่งเสียชีวิตจากการระเบิดครั้งแรก 

นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่าในวันนั้นสมาร์ทโฟน แผงโซลาร์เซลล์ วิทยุสื่อสาร อินเตอร์คอม แบตเตอรี่รถยนต์ ก็เกิดระเบิดขึ้นด้วย ในขณะที่มีรายงานจากหน่วยงานป้องกันภัยพลเรือนของเลบานอนที่รายงานว่า ทีมงานของพวกเขาได้ตอบสนองต่อเหตุไฟไหม้ที่เกิดขึ้นในบ้านเรือนและร้านค้า 60 แห่ง รวมทั้งร้านแบตเตอรี่ลิเธียม เช่นเดียวกับรถยนต์ 15 คันและรถจักรยานยนต์จำนวนมาก

ระลอกที่สองมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 ราย และบาดเจ็บกว่า 450 ราย

ทำไมของที่ดูปลอดภัยถึงระเบิดได้?
จากรายงานของ Associated Press ระบุว่าเพจเจอร์เหล่านั้นถูกติดตั้งด้วยวัตถุระเบิดก่อนที่จะมาถึงเลบานอน นอกจากนี้ New York Times ยังรายงานอีกว่าหน่วยข่าวกรองของอิสราเอลได้สกัดกั้นการส่งมอบดังกล่าวและติดตั้งวัตถุระเบิดจำนวนเล็กน้อยลงในเพจเจอร์ พร้อมระบุว่า เพจเจอร์เหล่านี้ผลิตที่ไต้หวัน Reuters รายงานแหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยชื่อในเลบานอนอ้างว่าอุปกรณ์ดังกล่าวมีแผงที่สามารถจุดระเบิดวัตถุระเบิดได้มากถึง 3 กรัมเมื่อได้รับรหัส

ในเวลาต่อมา ผู้ก่อตั้งบริษัท Gold Apollo ของไต้หวัน บอกกับผู้สื่อข่าวว่าบริษัทไม่ได้ผลิตเพจเจอร์ที่เกี่ยวข้องกับการระเบิด แต่ผลิตโดยบริษัท BAC Consulting KFT ซึ่งเป็นหุ้นส่วนระยะยาวของบริษัทในฮังการีภายใต้ใบอนุญาตที่มีมาเป็นเวลาสามปี โดยที่ BAC Consulting KFT ให้ความร่วมมือกับ Gold Apollo และเป็นตัวแทนผลิตภัณฑ์จำนวนมากของบริษัท ตำรวจไต้หวันได้เริ่มการสอบสวนเกี่ยวกับเรื่องนี้

เบื้องต้นมีรายงานว่า บที่ตั้งของบริษัท BAC Consulting KFT เป็นพักส่วนตัว เพิ่งก่อตั้งเมื่อปี 2022 และมีพนักงาน 1 คน เว็บไซต์ออฟไลน์ เจ้าของบริษัทไต้หวันที่บอกว่า การชำระเงินจาก BABAC Consulting KFT C นั้น "แปลก" และมาจากตะวันออกกลาง และยังมีรายงานว่า CEO ของ BAC Consulting KFT เคยทำงานเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการประเมินของคณะกรรมาธิการยุโรป (EC)

ในการระเบิดระลอกที่สอง บริษัท Icom ของญี่ปุ่นเปิดเผยว่าได้ยุติการผลิตวิทยุรุ่นที่มีรายงานว่าใช้ในการก่อเหตุระเบิดที่เลบานอนตั้งแต่เมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว โดย Icom กล่าวในแถลงการณ์ว่า "IC-V82 เป็นวิทยุแบบพกพาที่ผลิตและส่งออกไปยังตะวันออกกลางตั้งแต่ปี 2004 ถึงเดือนตุลาคม 2014 และหยุดผลิตไปแล้วประมาณ 10 ปี และนับตั้งแต่นั้นมาก็ไม่ได้มีการส่งออกจากบริษัทของเราอีกเลย" 

ทำไมถึงยังใช้เพจเจอร์และวอล์กี้ทอล์กกี้
เพจเจอร์ได้รับการพัฒนาขึ้นในช่วงทศวรรษปี 1950 และ 1960 และเริ่มใช้กันอย่างแพร่หลายในช่วงทศวรรษปี 1980 จนถึงช่วงปลายทศวรรษปี 1990 และต้นทศวรรษปี 2000 ต่อมาในศตวรรษที่ 21 โทรศัพท์มือถือและสมาร์ทโฟนที่มีความสามารถในการส่งข้อความแพร่หลายไปทั่ว ทำให้จำนวนอุตสาหกรรมเพจเจอร์ลดลงอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่รับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินและเจ้าหน้าที่ด้านความปลอดภัยสาธารณะบางส่วนยังคงใช้เครื่องรับส่งเพจเจอร์ เนื่องจากการครอบคลุมของระบบเครื่องรับส่งเพจเจอร์สมัยใหม่ครอบคลุมสัญญาณที่ทับซ้อนกันได้ร่วมกับการใช้ระบบสื่อสารผ่านดาวเทียม ทำให้ระบบรับส่งเพจเจอร์มีความน่าเชื่อถือมากกว่าเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ภาคพื้นดินในบางกรณี รวมถึงในยามที่เกิดภัยธรรมชาติและภัยพิบัติที่มนุษย์สร้างขึ้นด้วย

ทั้งนี้ เพจเจอร์ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเครือข่ายมือถือหรือไวไฟ แต่มีช่องทางการสื่อสารเป็นของตัวเอง ดังนั้น ระบบเพจเจอร์จึงเป็นรูปแบบการสื่อสารที่เชื่อถือได้มากกว่าในกรณีที่เครือข่ายไวไฟหรือโทรศัพท์ขัดข้อง

นอกจากนี้ เพจเจอร์ยังมีความแข็งแรงทนทานและได้รับการออกแบบมาให้ใช้งานได้ในสภาพแวดล้อมที่รุนแรง โทรศัพท์มือถือเปราะบางกว่ามาก โดยเฉพาะเนื่องจากพื้นผิวกระจก

เพจเจอร์มีข้อดีและข้อเสียด้านความเป็นส่วนตัวบางประการเมื่อเทียบกับโทรศัพท์มือถือ เนื่องจากเพจเจอร์ทางเดียวเป็นเครื่องรับแบบพาสซีฟเท่านั้น (ไม่ส่งข้อมูลกลับไปยังสถานีฐาน) จึงไม่สามารถติดตามตำแหน่งได้

ดังนั้น นอกจากจะใช้ในสถานที่สำคัญที่จำเป็นจะต้องมีการสื่อสารที่เชื่อถือได้ เช่น โรงพยาบาล บริษัทรักษาความปลอดภัย คลินิก บริการฉุกเฉิน แล้ว ยังใช้กันในหมู่เครือข่ายที่เกี่ยวข้องกับการทหารและความมั่นคงที่ต้องการการเก็บรักษาความลับอย่างดี

ก่อนหน้านี้ ฮัสซัน นาสรัลเลาะห์ ผู้นำกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ก่อนหน้านี้ได้บอกกับสมาชิกกลุ่มให้ใช้เพจเจอร์แทนโทรศัพท์มือถือ โดยอ้างว่าอิสราเอลได้แทรกซึมเข้าไปในเครือข่ายโทรศัพท์มือถือของพวกเขาแล้ว

ทีมข่าวต่างประเทศ The Better

Photo by ANWAR AMRO / AFP

TAGS: #เลบานอน #เพจเจอร์