สถานการณ์ล่าสุดตอนนี้ กองกำลังติดอาวุธชาติพันธุ์เมียนมาเคลื่อนพลเข้าเมืองล่าเสี้ยว ทางตอนเหนือซึ่งเป็นเมืองยุทธศาสตร์สำคัญ
จากการรายงานข่าวของ AFP นักรบจากกลุ่มติดอาวุธชนกลุ่มน้อยที่ทรงอิทธิพลที่สุดของเมียนมาได้เคลื่อนพลเข้าเมืองล่าเสี้ยว ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่กลุ่มทหารและกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์อื่นต่อสู้แย่งชิงกันมานานหลายสัปดาห์ ในขณะเดียวกันกองทัพก็ไม่ยอมให้มีการยึดเมืองง่ายๆ
การสู้รบได้สั่นคลอนเมืองล่าเสี้ยวในรัฐฉานทางตอนเหนือตั้งแต่ต้นเดือนนี้ หลังจากกองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติเมียนมา (MNDAA) เริ่มเปิดฉากโจมตีกองทัพอีกครั้ง
ทั้งนี้ MNDAA เป็นกลุ่มต่อต้านติดอาวุธในภูมิภาคโกกังของเมียนมา ซึ่งในระยะหลังมีความขัดแย้งกับกองทัพมาโดยตลอด จนในที่สุด MNDAA ก็เข้าส่วนร่วมในปฏิบัติการ 1027 กับกลุ่ม 'พันธมิตรสามภราดรภาพ' หรือ Three Brotherhood Alliance คือ MNDAA และกองทัพอาระกัน (AA) พร้อมด้วยกองทัพปลดปล่อยชาติตะอ้อง (TNLA) ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2566 โดยเปิดฉากโจมตีแบบประสานงานและยึดฐานที่มั่นของคณะรัฐประหาร จนสร้างความสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ให้กับกองทัพเมียนมาจนถึงทุกวันนี้
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา MNDAA อ้างว่าสามารถยึดเมืองล่าเสี้ยวที่มีประชากรประมาณ 150,000 คนและกองบัญชาการกองทัพภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่นั่นได้ ซึ่งกองทัพปฏิเสธข้ออ้างดังกล่าว
การยึดเมืองล่าเสี้ยวจะถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของการรบระหว่าง 'พันธมิตรสามภราดรภาพ' กัลกองทัพเมียนมา เมืองล่าเสี้ยว (Lashio) มีความสำคัญในฐานะเป็นเมืองใหญ่ของภาคเหนือ ตั้งอยู่ทางเหนือจากเมืองมัณฑเลย์ ซึ่งถือเป็นเมืองเอกของตอนกลางของเมียนมาราว 200 กิโลเมตร เมืองนี้เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญของสงครามหลายครั้ง เพราะเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างเมียนมากับจีน และจุดเชื่อมต่อจากภาคเหนือลงไปภาคกลางและภาคใต้ ดังนั้น เมืองนี้จึงมีความสำคัญมากต่อความสัมพันธ์และผลประโยชน์ของจีนกับเมียนมา
ในระหว่างที่กองทัพโกกั้งกำลังรบกับกองทัพเมียนมาเพื่อแย่งชิงล่าเสี้ยวอยู่นั้น และฝ่าย MNDAA อ้างว่ายึดเมืองได้แล้ว แต่เมื่อวันเสาร์ กองทัพสหรัฐว้า (UWSA) ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธชนกลุ่มน้อยอีกกลุ่มหนึ่งที่มีกำลังพลมากกว่า ได้เคลื่อนพลเข้าเมืองล่าเสี้ยวเพื่อ "ปกป้อง" ทรัพย์สินของพวกเขาที่นั่น โฆษกของกองทัพกล่าวกับ AFP
UWSA เป็นกลุ่มกบฏชาติพันธุ์ที่มีอุปกรณ์ครบครันที่สุดในบรรดากลุ่มกบฏชาติพันธุ์ประมาณ 12 กลุ่มของเมียนมา โดยมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับจีน ซึ่งนักวิเคราะห์ระบุว่าจีนเป็นผู้จัดหาอาวุธให้ UWSA เป็นส่วนใหญ่
จนถึงขณะนี้ UWSA ยังคงไม่ได้เข้าร่วมการลุกฮือครั้งใหญ่ของกองกำลังชนกลุ่มน้อยต่างๆ ต่อกองทัพเมียนมาหลังเกิดรัฐประหารในปี 2564 และรุนแรงขึ้นหลังขึ้นหลังปฏิบัติการ 1027
การเคลื่อนไหวของกองทัพว้าจึงเป็นเรื่องเหนือความคาดหมาย และน่าจับตาอย่างยิ่ง เบื้องต้น นยี รัง โฆษกกองกำลัง UWSA กล่าวกับ AFP "เจ้าหน้าที่ความมั่นคงจากรัฐว้าเข้าไปในเมืองล่าเสี้ยวในคืนวันที่ 27 เพื่อปกป้องสำนักงานความสัมพันธ์ภายนอกและทรัพย์สินของเราในตำบลลาโช"
"ก่อนจะเข้าไปในเมือง เราได้แจ้งให้ทั้งสองฝ่ายที่ต่อสู้อยู่ทราบ และเข้าไปได้อย่างราบรื่นโดยได้รับการอนุมัติจากทั้งสองฝ่าย"
เจ้าหน้าที่ของกองกำลัง UWSA ในล่าเสี้ยว "จะไม่เข้าแทรกแซง ให้ความร่วมมือ หรือให้การสนับสนุนกลุ่มที่ต่อสู้อยู่" โฆษกกองกำลัง UWSA กล่าว
เขาไม่ได้บอกว่าตอนนี้มีนักรบ UWSA อยู่ในเมืองนี้กี่คน หรือจะอยู่ได้นานเพียงใด
ทีมข้อมูลของคณะทหารกล่าวในแถลงการณ์ว่า กองทัพ "ได้รับแจ้งล่วงหน้า" เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวดังกล่าว โดยไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ เพิ่มเติม
แหล่งข่าวในกองทัพกล่าวกับ AFP เมื่อวันอาทิตย์ว่า กองบัญชาการภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของกองกำลังของกองทัพ
คำยืนยันนี้สวนทางกับการประกาศของ MNDAA ที่บอกว่ายึดเมืองล่าเสี้ยวได้แล้ว แต่เบื้องตนสำนักข่าวเอเอฟพีไม่สามารถติดต่อโฆษกของ MNDAA เพื่อขอความเห็นได้
การสูญเสียเมืองล่าเสี้ยวและกองบัญชาการทหารในภูมิภาคนี้ถือเป็นการโจมตีครั้งใหญ่จากกองทัพ ซึ่งสูญเสียดินแดนให้กับ MNDAA และกลุ่มติดอาวุธอื่นๆ ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
ในเดือนมกราคม MNDAA ยึดเมืองเล่าก์ก่ายใกล้ชายแดนเมียนมาร์กับจีนได้ หลังจากทหารของกองทัพราว 2,000 นายยอมจำนน ซึ่งถือเป็นความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของกองทัพในรอบหลายทศวรรษ
อยางไรก็ตาม ภูมิภาคทางตอนใต้เมืองเล่าก์ก่าย อันเป็นดินแดนของพวกว้ายังคงอยู่อย่างโดดเดี่ยวไม่เกี่ยวข้องกับสงครามครั้งนี้ โดยในเขตนี้มีด่านตรวจที่ถี่ยิบ และการควบคุมภายในที่เข้มงวด และใช้บริการอินเทอร์เน็ตและเงินหยวนของจีน
จีนเป็นพันธมิตรหลักและเป็นผู้จัดหาอาวุธให้กับกองทัพว้า แต่บรรดานักวิเคราะห์กล่าวว่าจีนยังคงรักษาความสัมพันธ์กับกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธในเมียนมาร์ที่ยึดครองดินแดนใกล้ชายแดนด้วย นั่นหมายถึงกลุ่มโกกั้ง
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน เหมาหนิง กล่าวในการแถลงข่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่า รัฐบาลจีน "กำลังจับตาดูสถานการณ์ในเมียนมาตอนเหนืออย่างใกล้ชิด" และเรียกร้องให้ยุติการสู้รบ
ณ ขณะนี้กองทัพเมียนมาและ MNDAA ต่างก็ไม่ได้เปิดเผยตัวเลขผู้เสียชีวิตจากการสู้รบในเมืองล่าเสี้ยว ซึ่งปะทุขึ้นเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม
แต่กลุ่มกู้ภัยในพื้นที่ระบุว่ามีพลเรือนเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหลายสิบคน
รายงานโดย Agence France-Presse และทีมข่าวต่างประเทศ The Better
Photo - ภาพนี้ถ่ายเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2567 แสดงให้เห็นผู้พลัดถิ่นจากเมืองล่าเสี้ยวกำลังข้ามแม่น้ำโดกทาวดี ขณะที่พวกเขาหลบหนีจากบ้านเรือนของตนเอง หลังเกิดการปะทะกันระหว่างกองทัพเมียนมาร์และกองทัพ TNLA ในหมู่บ้านซินอัน ระหว่างลาชิโอและตำบลสีปอว์ ในรัฐชานทางเหนือของเมียนมา นักรบชนกลุ่มน้อยชาวเมียนมาร์กล่าวเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคมว่าพวกเขายึดเมืองหนึ่งริมทางหลวงสายหลักเพื่อการค้าไปยังจีนได้ หลังจากเกิดการปะทะกับกองกำลังของคณะทหารเป็นเวลาหลายวัน
(ภาพโดย AFP)