ไม่ไหวกับกลุ่มข้ามเพศ Musk เตรียมย้ายบริษัทออกจากรัฐแคลิฟอร์เนีย 

ไม่ไหวกับกลุ่มข้ามเพศ Musk เตรียมย้ายบริษัทออกจากรัฐแคลิฟอร์เนีย 

อีลอน มัสก์ (Elon Musk) กล่าวเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม (ตามเวลาประเทศไทย) ว่า เขาจะย้ายสำนักงานใหญ่ของบริษัท SpaceX และบริษัท X ไปยังรัฐเท็กซัส หลังจากกฎหมายแคลิฟอร์เนียสั่งห้ามโรงเรียนไม่ให้บังคับให้ครูแจ้งผู้ปกครองเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงอัตลักษณ์ทางเพศของนักเรียน หรือนักเรียนกลุ่ม transgender

“นี่เป็นฟางเส้นสุดท้าย” มัสก์กล่าวในแอป X หนึ่งวันหลังจากที่ เกวิน นิวซัม (Gavin Newsom) ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียลงนามในร่างกฎหมายที่จุดชนวนสงครามวัฒนธรรมระหว่างกลุ่มเสรีนิยมที่ต้องการสนับสนุนความหลากหลายทางเพศ กับกลุ่มอนุรักษ์นิยมที่ต่อต้านความหลากหลายทางเพศ และต่อต้านการข้ามเพศ หรือ transgender 

“เนื่องจากกฎหมายฉบับนี้และกฎหมายอื่นๆ ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ซึ่งโจมตีทั้งครอบครัวต่างๆ และบริษัทต่างๆ (ดังนั้น) SpaceX จึงย้ายสำนักงานใหญ่จากฮอว์ธอร์น แคลิฟอร์เนีย ไปยังสตาร์เบส รัฐเท็กซัส” มัสก์กล่าว

มหาเศรษฐีรายนี้ยังกล่าวอีกว่าเขากำลังย้าย X ซึ่งเดิมชื่อ Twitter จากสำนักงานใหญ่สไตล์อาร์ตเดโคในซานฟรานซิสโกไปยังออสติน รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งก่อนหน้านี้เขาเคยขู่ว่าจะย้ายสำนักงานของ X มาแล้ว แต่ยังทำไม่สำเร็จ

“พอกันทีกับการต้องมาหลบพวกผู้ติดยารุนแรง เพียงแค่จะเข้าและออกจากอาคาร” มัสก์กล่าว

ทั้งนี้ ซานฟรานซิสโกกำลังเผชิญกับปัญหาเมืองล่มสลายเพราะผู็ติดตาและคนไร้บ้านรุนแรง ซึ่งกลุ่มอนุรักษ์นิยมโทษว่าเป็นเพราะนโญบายเสรีนิยมที่ทำให้สังคมเสรีจนทำอะไรตามใจชอบและเอาใจพวกที่ต้องการรับสวัสดิการมากเกินไป

มัสก์ได้ย้ายสำนักงานใหญ่ของ Tesla ไปแล้วก่อนหน้านี้ จากพาโลอัลโต ในพื้นที่ซิลิคอนแวลีย์ ไปยังเมืองออสติน รัฐเท็กซัส แต่ยังคงมี "สำนักงานใหญ่ด้านวิศวกรรม" ในแคลิฟอร์เนีย

ทั้งนี้ รัฐคอลิฟอร์เนีย โดยเฉพาะเมืองซานฟรานซิสโกถูกมองว่าเป็น "สวรรค์ของกลุ่มหลากหลายทางเพศ" และยังเป็นฐานที่มั่นหลักของฝ่ายเสรีนิยม ต่างจากรัฐเท็กซัสที่ถูกมองว่าเป็นฐานที่มั่นของพวกอนุรักษ์นิยม

นักธุรกิจรายนี้แสดงความรังเกียจอย่างสุดซึ้งต่อการใช้ที่กลุ่มหลากหลายทางเพศมักจะเลือกสรรพนามตามใช้ชอบ (เช่น เปลี่ยนมาใช้คำว่า they/them ซึ่งเป็นพหูพจน์เพื่อสะท้อนความหลากหลายของเพศสภาพที่มีมากกว่าหนึ่ง) โดยมักจะเยาะเย้ยการกระทำดังกล่าวบนโซเชียลมีเดีย และมองว่าการกระทำดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งกระแส “ตาสว่าง” หรืพวก Woke ซึ่งเขามองว่าเป็นอันตรายต่อสังคม

มัสก์มีลูกสาวเป็นกลุ่มข้ามเพศ แต่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่นั้นห่างเหินกัน และเขาโทษการศึกษาในโรงเรียนเอกชนในแคลิฟอร์เนียของเธอที่ทำให้เธอกลายเป็นคนที่มีแนวคิดซ้ายทางการเมืองและทำให้เธอต่อต้านเขา

ปัญหาทางเพศ
ที่มาของความเดือดดาลของมัสก์มาจากเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม (ตามเวลาประเทศไทย) เกวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ได้ตรากฎหมายห้ามบงคับการเปิดเผยการเปลี่ยนเพศสภาพ แม้ว่าเรื่องนี้จะเป็นถกเถียงกันหนักก็ตาม โดยมีคณะกรรมการโรงเรียนจำนวนหนึ่งที่ต่อสู้เพื่อสิทธิของผู้ปกครองกับนักเคลื่อนไหว LGBTQ ที่พยายามสู้เพื่อกับสวัสดิภาพของนักเรียนกลุ่มข้ามเพศ

กฎหมายกลับคำตัดสินในเขตโรงเรียนอนุรักษ์นิยมที่สั่งให้ครูแจ้งให้ผู้ปกครองทราบ หากนักเรียนเปลี่ยนชื่อหรือสรรพนาม หรือขอใช้สิ่งอำนวยความสะดวก หรือเข้าร่วมในโครงการที่ไม่ตรงกับเพศอย่างเป็นทางการ

นิวซัมซึ่งถูกมองว่าอาจเป็นตัวแทนแทานที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ในฐานะผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต (หาก ไบเดน สละตำแหน่ง) มักจะตอบโต้กับพรรคอนุรักษ์นิยมเกี่ยวกับประเด็นเรื่องเพศในโรงเรียนของรัฐ

เมื่อปีที่แล้ว เขาได้ลงนามในกฎหมายที่กำหนดค่าปรับสำหรับเขตการศึกษาที่ห้ามหนังสือเรียนที่บรรยายถึงกลุ่ม LGBTQ และกลุ่มชายขอบอื่นๆ

นิวซัมยังต่อสู้ดุเดือดกับคณะกรรมการโรงเรียนสายอนุรักษ์นิยมเกี่ยวกับการคัดค้านการศึกษาบุคคลสำคัญด้านสิทธิเกย์ คือ ฮาร์วีย์ มิลค์ (Harvey Milk) ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐในซานฟรานซิสโกที่ถูกลอบสังหาร

ก่อนหน้านี้ มัสก์เคยมีวิวาทะกับนิวซัม ซึ่งเป็นอดีตนายกเทศมนตรีซานฟรานซิสโก ในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 เกี่ยวกับการตัดสินใจของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของเมืองและของรัฐเรื่องมาตรการเกี่ยวกับ โควิด-19

Text by Agence France-Presse
Photo by Odd ANDERSEN / AFP

TAGS: #Elon #Musk