"ก้าวไกล" ปรับโครงสร้างพรรคครั้งใหม่ให้เกินหน้าต่อ "พิธา" ย้ำต้องเป็นฝ่ายค้านเชิงรุก ไม่ชัดคัมแบ็กผู้นำพรรคหากรอดบ่วงศาลรธน. ลั่นหัวหน้าพรรคคนใหม่ ต้องทำงานเป็นตัวจริง
บอกหัวหน้า ไม่ว่าใครจะเป็นหัวหน้า-เลขาพรรคจะต้องทำหน้าที่ตัวจริง ชี้ แม้ไม่มีตำแหน่งก็ยังทำงานให้พรรคเหมือนเดิม ไม่ห่วงเสียมวลชนแต่คำนึงความรู้สึกคนในพรรค-อ.ปิยบุตร ยันปรับโครงสร้างพรรคเดินหน้ายุทธศาสตร์เพื่อเป็นฝ่ายค้านเชิงรุก เผยพรรคเตรียมเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมหลังวิพากษ์วิจารณ์คดีทักษิณ 2 มาตรฐาน
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ รักษาการหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงการประชุมพรรคเพื่อเลือกหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคว่า ภาพรวมการประชุมในวันนี้เป็นการปรับองค์กรเพื่อให้เดินหน้าต่อไป ทั้งในเรื่องของบุคลากร และการปรับข้อบังคับ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันในการที่จะก้าวต่อไปในอนาคต
ส่วนบุคคลที่จะมาทำหน้าที่ในอนาคตคาดหวังอย่างไร นายพิธา กล่าวว่า ไม่ได้คาดหวังอะไร มองว่าผู้ที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรคก้าวไกลคนต่อไป ไม่ได้เป็นเรื่องของบุคคลอยู่แล้ว เป็นเรื่องของการเดินทางของพรรคโดยรวม และผู้ที่จะเข้ามาก็มีความพร้อมทุกคน
ส่วนกรณีที่มีการวางแผนว่าเป็นการเลือกหัวหน้าพรรคเพื่อทำงานชั่งครางรอคำสั่งศาลแล้วนายพิธาจะกลับเข้ามาเป็นสส.และ ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเหมือนเดิม นายพิธา ระบุว่า ยังเร็วเกินไปที่จะพูดเรื่องนี้ ยังไม่มีความแน่นอน ใครที่จะเข้ามาเป็นหัวหน้าพรรค หรือเลขาพรรคก็มีความท้าทายในทุกวัน ทุกสัปดาห์ ทุกเดือน เพราะฉะนั้นบุคคลนั้นต้องมีความพร้อมที่จะเป็นหัวหน้าตัวจริง และเลขาตัวจริง
ส่วนที่จะมีการตั้งตำแหน่งพิเศษของนายพิธานั้นเพื่อเป็นผู้นำของพรรค นายพิธา กล่าวว่า จะขอชี้แจงความชัดเจน 100% อีกครั้งหลังการประชุม
นายพิธา กล่าวอีกว่า ตนพร้อมที่จะทำงานเพื่อพรรคก้าวไกลในทุกบทบาทแม้ไม่ว่าจะมีตำแหน่งก็ยังทำงานต่อเหมือนเดิม
มีความกังวลหรือไม่ที่หัวหน้าพรรคเปลี่ยนเป็นคนอื่น นายพิธา ระบุว่า ขณะนี้ไม่มีความกังวลใดๆ มีความจำเป็นที่ตนจะต้องคิดถึงส่วนรวมมากกว่าส่วนตัว และเปิดทางให้มีผู้นำฝ่ายค้าน ไม่ว่าจะเชิงมหภาคหรือจุลภาค ก็ยังมีความจำเป็น ในความเป็นจริงแล้วก็ไม่มีความแตกต่างอะไรกันมากในการทำงานของแกนนำทั่วไป
ส่วนกรณีที่นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ไม่ได้รับตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคเสียดายหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ก็แน่นอน แต่เชื่อว่าพี่เจี๊ยบยังเป็นส่วนหนึ่งของพรรคก้าวไกล พร้อมย้ำว่าพรรคก้าวไกลไม่ได้คำนึงถึงตัวบุคคลหรือตำแหน่งสักเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นถึงแม้จะมีการเปลี่ยนก็ยังคงทำงานร่วมกันอยู่ดี และแม้ว่าจะไม่มีคนๆนึงอยู่ พรรคก็ยังคงเดินทางต่อเนื่องและไปต่ออยู่ดี
สำหรับการปรับโครงสร้างครั้งนี้นอกจากปรับเรื่องกรรมการบริหารพรรคยังเป็นการปรับเพื่อรองรับอุบัติเหตุทางการเมืองด้วยหรือไม่ นายพิธากล่าวว่าเป็นการปรับโครงสร้างของพรรคเพื่อให้ก้าวไปต่อข้างหน้าได้ ซึ่งต้องทำงานแบบฝ่ายค้านเชิงรุก ขณะเดียวกันต้องตั้งรับอุบัติเหตุทางการเมืองหรือการรักษาพื้นที่ทางการเมืองที่พรรคก้าวไกลควรจะได้รับ ไม่ใช่ว่ารับอย่างเดียว ไม่รุก ซึ่งไม่ใช่ยุทธศาสตร์ทางการเมืองที่ดี