"พิธา" เชื่อ "เพื่อไทย" เตือนสัจจะสำคัญกว่าเสียสละ ลั่นมีพรรคทหารจำแลง "ก้าวไกล"ไม่ร่วม

"พิธา" เชื่อ "เพื่อไทย" ยังจับมือ 8 พรรค แน่น ยังไม่สรุป จับมือพรรคอื่นเพิ่ม ขอรักษาสัจจะกับประชาชน ยัน "ก้าวไกล" ไม่จับมือกับพรรคทหารจำแลง รับ หากมีการเชิญมาจริง "ก้าวไกล" ก็อยู่ด้วยไม่ได้

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ลงพื้นที่ขอบคุณประชาชน อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ยืนยัน ตอนนี้กำลังใจยังดีอยู่ ยังตั้งใจที่จะทำงานต่อและลงพื้นที่ช่วย ส.ส. ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ เป็นโค้ชให้แต่ละพื้นที่ เพราะเรามีความรู้ และสามารถที่จะทำงานต่อได้

ส่วนประเด็นที่หลายฝ่ายพยายามจะให้พรรคก้าวไกลเสียสละ มองว่า ตอนนี้เรื่องสำคัญคือสัจจะ ไม่ใช่การเสียสละ ถ้าเรารักษาสัจจะที่ให้ไว้กับประชาชน ก็ไม่มีใครต้องเสียสละ เพราะเป็นไปตามกฎกติกาที่มีอยู่ตามครรลองการเมืองที่เป็นปกติ แต่ถ้าบอกว่าให้เสียสละ ก็เหมือนกับว่าเอาคะแนน 14 ล้านเสียง ไปเทกระจาด ทำให้ประชาชนผิดหวัง ซึ่งตอนนี้ต้องยึดสัจจะและหลักการให้มั่น มากกว่าการที่จะมาบอกว่าใครควรที่จะต้องเสียสละ

ส่วนที่ตอนนี้พรรคเพื่อไทย มีการเชิญพรรคพลังประชารัฐและรวมไทยสร้างชาติ มาหารือกัน ถือว่าเป็นการทำตามมติ 8 พรรคร่วมที่ได้คุยกันไว้หรือไม่  นายพิธา บอกว่า ตอนนี้ต้องรอพรรคเพื่อไทยกลับมาพูดคุยกับ 8 พรรคร่วมอย่างเป็นทางการก่อน ซึ่งเมื่อวานนี้ลงพื้นที่ทั้งวัน ยังไม่ได้ติดตามข่าว แต่เท่าที่ทราบมาเป็นเพียงการเชิญแต่ละพรรคไปแลกเปลี่ยนความเห็นกัน ต้องรอให้พรรคเพื่อไทยชี้แจงอีกครั้ง ส่วนตอนนี้ขอรอพรรคเพื่อไทยอย่างเดียว และไม่ขอตัดสินใจผ่านหน้าข่าวหรือตัดสินใจโดยไม่ได้ฟังจากปากของคนที่อยู่ใน 8 พรรคร่วม ยืนยันว่า ยังเชื่อใจและเชื่อมั่นพรรคเพื่อไทยเหมือนเดิม

ส่วนการพูดคุยกับพรรคพลังประชารัฐและรวมไทยสร้างชาติ จะเป็นเงื่อนไขที่ทำให้มองว่า พรรคก้าวไกลถูกผลักออกจากพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น ตอนนี้ยังเป็นการพูดคุย แต่ถ้ามีการเชิญเข้ามาร่วมรัฐบาลจริงๆ ยืนยันว่า พรรคก้าวไกลอยู่ด้วยไม่ได้

"ณ เช้าวันอาทิตย์แบบนี้ก็เป็นแค่การพูดคุย แต่ถ้าเป็นการเชื้อเชิญเข้ามาร่วมรัฐบาลจริงๆ ก้าวไกลอยู่ด้วยไม่ได้ในสมการนั้น ถ้าเกิดเชิญมาร่วมรัฐบาลจริงๆ ก็คือจะต้องไม่มีก้าวไกล แต่ ณ ปัจจุบันนี้พูดให้ชัด ผมเข้าใจว่ายังเป็นการเชิญมาเพื่อที่จะพูดคุยอยู่ ยังไม่มีการเชิญร่วมรัฐบาล เพราะฉะนั้นตรงนี้ต้องรอฟังจากทางพรรคเพื่อไทยก่อนว่ามตกลงแล้วมันยังไงกันแน่ แล้วผมก็จะฟังจากปากของพรรคเพื่อไทย ไม่ได้ตัดสินใจตามหน้าข่าวหรือการฟังการสัมภาษณ์เพียงสั้นๆ แต่ต้องฟังเหตุและผลยาวๆ"

ส่วนเรื่องการถอยมาตรา 112 หากที่ประชุม 8 พรรคร่วมเห็นตรงกันจะถอยได้แค่ไหน นายพิธา บอกว่า ถ้าจะให้ถอย ต้องดูว่าจะให้ถอยด้วยเรื่องอะไรและเนื้อหาอะไร เพราะเหรียญมีสองด้าน ต้องดูว่ารายละเอียดที่ต้องการคืออะไร ไม่ใช่แค่หายไปแล้วจบ เพราะฉะนั้นตรงนี้ต้องฟังรายละเอียดและให้เกียรติพรรคเพื่อไทยว่า ที่ไปพูดคุยมานั้นคุยกันเรื่องไหนบ้าง ตรงตามที่ สว.เคยอภิปรายในสภาหรือไม่

ส่วนเมื่อวานนี้(22 ก.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย เชิญพรรคภูมิใจไทย พรรคชาติพัฒนากล้า และพรรครวมไทยสร้างชาติ หารือด้วย ซึ่งทั้ง 3 พรรคเห็นตรงกันว่า การมีพรรคก้าวไกลอยู่ถือเป็นอุปสรรคในการจัดตั้งรัฐบาล มองว่าถูกบีบหรือไม่ ตรงนี้ไม่ได้รู้สึกอะไร เพราะถ้า 8 พรรคจับมือกันให้แน่น ใครก็มาบีบไม่ได้ และถ้าเราหนักแน่นและยังยืนยันในหลักการ ก็จะทำให้คนเข้ามาร่วมได้มากขึ้นโดยใช้เหตุผล หลักการ และใช้ความต้องการของประชาชนเป็นหลัก และตอนนี้ยังเชื่อใจพรรคเพื่อไทยว่า จะพยายามเต็มที่และใช้ทุกวิถีทางจัดตั้งรัฐบาลให้ได้

ส่วนเรื่องคดีที่ถูกร้องตอนนี้ ฝ่ายกฎหมายกำลังทำงานอยู่ ต้องให้เวลา และยืนยันในความบริสุทธิ์ว่า ทั้ง 2 คดีไม่น่ามีปัญหาอะไร

เมื่อถามว่า พรรคก้าวไกลเดินเกมผิดหรือไม่ ที่ทำให้เสียทั้งประธานสภา และเก้าอี้นายกรัฐมนตรี นายพิธา มองว่าไม่ได้เดินเกมผิด เพราะตั้งใจที่จะทำงานให้รุกได้ ถอยเป็น และสามารถจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ ซึ่งแน่นอนว่า ต้องมีบริบทที่เปลี่ยนแปลงไป แต่ก็ไม่ได้เกินกว่าที่คาดคิดไว้ เพราะฉะนั้นก็ยังจะเดินหน้าทำงานต่อไป

TAGS: #ก้าวไกล #พิธา #จัดตั้งรัฐบาล #เพื่อไทย #พรรคทหารจำแลง