"เพื่อไทย" ลั่นต้องมีนายกฯ 27 ก.ค.ให้ได้ ลุยหาเสียงจากสว.พรรคการเมือง เป้าหมาย 375 เสียง MOU ไม่สอดรับต้องพิจารณา กั๊กชงชื่อ "เศรษฐา" รอเคาะ 26 ก.ค.ก่อนโหวต 1 วัน ปมลดเพดาน 112 ให้ "ก้าวไกล" ตอบ
เมื่อเวลา 13.30น.ที่พรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค นายประเสิรฐ จันทรวงทอง เลขาธิการพรรค ร่วมกันแถลงถึงการจัดตั้งรัฐบาล
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยขอขอบคุณพรรคก้าวไกล ที่ส่งมอบภารกิจในการจัดตั้งรัฐบาลให้กับพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นไปตามวิถีทางทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขภายใต้เงื่อนไขของการร่วมรัฐบาลจาก 8 พรรคการเมืองเดิม ตามที่พรรคก้าวไกลได้แถลงต่อสื่อมวลชนไปแล้ว เบื้องต้นพรรคเพื่อไทยจะได้หารือกับ 8 พรรคการเมืองเดิมเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและกำหนดแนวทางในการจัดตั้งรัฐบาลต่อไป
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยเห็นว่าภายใต้ข้อตกลงของ 8 พรรคการเมืองเดิม พรรคการเมืองทั้ง 8พรรคสามารถรวมเสียงได้ 312 เสียง ซึ่งเสียงส่วนใหญ่ในรัฐสภาไม่เห็นชอบเนื่องจากมีเงื่อนไขสำคัญที่เกี่ยวกับประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 จึงส่งผลให้ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยจึงมีความจำเป็นต้องหาเสียงสนับสนุนจากสมาชิกรัฐสภาเพิ่มเติม เพื่อให้ได้เสียงเกินกว่า 375 เสียง เบื้องต้นพรรคเพื่อไทยจะขอเสียงสนับสุนนจาก สมาชิกวุฒิสภา และจากพรรคการเมืองอื่นๆ เพื่อให้สามารถจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ในที่สุดและ หากผลการดำเนินเป็นประการใด จะได้แจ้งให้ 8 พรรคการเมืองและสาธารณชนทราบต่อไปโดยเร็ว โดยวันนี้เวลา 15.00น.นัด 8พรรคร่วมมาหารือ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1.30 ชั่วโมง เมื่อถามว่าจะหาเสียงจากพรรคขั้วการเมืองเดิมหรือไม่นั้น นพ.ชลน่าน กล่าวว่า แนวทางจะหารือ 8 พรรคร่วมก่อน
นพ.ชลน่านกล่าว เรื่อง MOU เป็นการทำ 8 พรรค ขณะนี้อยู่บนพื้นฐานคุย 8 พรรค เป็นประเด็นหารือ เป้าหมายอยู่ที่เพิ่มเสียง ให้ได้ 375 หนทางใดไม่สอดรับเอ็มโอยู ต้องพิจารณากัน
เมื่อถามว่า วันที่ 27 ก.ค.จะเสนอชื่อเศรษฐา หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า พรรคดำเนินการในพรรค กก.บห.พรรคมอบหมายให้ตนตัดสินใจ จากนั้นจะนำเข้าหารือที่ประชุมพรรควันที่ 26 กค.เวลา 17.00 เพื่อขอมติรับรองครั้งสุดท้าย
เมื่อถามว่า กลัวโหวตซ้ำรอยหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ประเด็นเป็นโจทย์หลักในแสวงหาเสียงสนับสนุน กลไกแก้ไขให้ได้มา 375 ต้องเจรจาพูดคุยกัน
เมื่อถามว่า มาตรา 112 เป็นเงื่อนไขทำให้ตั้งรัฐบาลไม่ได้ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เราจะหารือกัน อย่างน้อยเห็นปัญหาตรงกันว่าจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้คืออะไร ม.112 เป็นประเด็นหนึ่ง จะถามความเห็นว่ามีเรื่องอะไรอีก แต่ละเรื่องจะแก้ไขอย่างไร ทั้งนี้ 8 พรรคมี 312 เพิ่มสว.13 เป็น 324 เสียง สิ่งสำคัญต้องมองเห็นปัญหาอะไร จะฝ่าไดได้อย่างไร เพื่อไทยยืนยันเงื่อนไขตั้งรัฐบาล เพื่อออกจากปัญหาที่ประชาชนเผชิญอยู่ จากวันที่ 14 พ.ค.ถึงเวลานี้ 2 เดือน เราจำเป็นต้องตั้งรัฐบาลให้ได้ การตั้งรัฐบาลเป็นช่องทางให้นำไปสู่แก้ไข รธน. ถ้าเราได้ตั้งรัฐบาล มติ ครม.วันแรก เราจะมีมติให้มีการทำประชามติ ตั้ง สสร.แก้รธน.ทันที เราต้องได้นายกฯวันที่ 27 เราจะดำเนินการทุกขั้นตอนให้ฝ่ายประชาธิปไตยตั้งรัฐบาลให้ได้
เมื่อถามว่าก้าวไกลยังไม่มีท่าทีทบทวนมาตรา112 นายภูมิธรรมกล่าวว่า จะคุยอย่างตรงไปตรงมาว่าขณะนี้อะไรที่เป็นปัญหา มีหนทางแก้อย่างไร ถ้าเป็นเรื่อง 112 ต้องถามก้าวไกล ปัจจัยอะไรเป็นปัญหา เกี่ยวกับพรรคไหน พรรคนั้นต้องตอบ ไม่มีใครตอบแทนใครได้ คาดว่าจะได้ข้อสรุปในการหารือวันนี้
นายภูมิธรรมกล่าวว่า วันนี้โจทย์เปลี่ยนที่ผ่านมาเราหาเสียงให้ 8 พรรคตั้งรัฐบาลร่วมกัน หาเสียงให้ก้าวไกลในฐานะแกนนะ วันนี้จะเริ่มต้นหาเสียงในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เราตั้งใจจะเอาให้ผ่าน และต้องทำให้สุดความสามารถเราอยากตั้งรัฐบาลให้ได้ เราเชื่อว่าวันที่ 27 ก.ค. จะมีนายกฯให้ได้