‘ชวน' ลั่น ประธานสภาต้องทำหน้าที่เป็นกลาง ไม่ว่าจะมาจากขั้วไหน ส่วนจะเสนอแก้ ม.112 เป็นดุลพินิจของรัฐบาลใหม่ ที่ผ่านมาสภาไม่ให้แก้เพราะเห็นว่าขัดกฎหมายรัฐธรรมนูญ
นายชวน หลีกภัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะอดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า การเลือกประธานสภาฯ ที่ยังไม่ลงตัวคงไม่น่ามีปัญหา แค่ครั้งนี้พรรคที่มีคะแนนลำดับ 1 และ 2 ได้จัดตั้งรัฐบาลร่วมกัน ทำให้เกิดปัญหาที่ต่างฝ่ายต่างต้องการที่จะเป็นประธานสภาฯ ซึ่งประธานสภาฯต้องเป็นกลาง เพราะกฎหมายรัฐธรรมนูญเขียนเอาไว้
"ผมคิดว่า ปัญหาเรื่องตัวบุคคลเป็นคนละเรื่องกัน แต่ถ้าเป็นห่วงว่าใครเป็นแล้วเอาเปรียบอีกฝ่ายหนึ่งผมคิดว่าทำได้ยากเพราะมีกฎเกณฑ์บังคับไว้ประธานจะไปละเมิด เป็นเรื่องยาก มิเช่นนั้นจะถูกสมาชิกตรวจสอบได้" นายชวน กล่าว
นายชวน กล่าวว่า การที่พรรคก้าวไกลอ้างว่าในสภาฯ สมัยที่แล้ว การเสนอแก้ไขมาตรา112 ไม่ได้รับการพิจารณา เพราะมีนายชวนเป็นประธานสภา ก็ได้อธิบายให้ฟังแล้วว่าการยกเลิกหรือแก้ไขมาตรา112 นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯคนที่ 1ในขณะนั้น เป็นผู้ดูแลกฎหมายนี้ และดูแลพระราชบัญญัติทุกฉบับ ซึ่ง 4 ปีที่ผ่านมาก็ไม่มีปัญหา มีเพียงฉบับดังกล่าวที่นายสุชาติ มีความเห็นว่าขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 6 เพราะมีบทบัญญัติบางเรื่องที่เห็นว่าขัดรัฐธรรมนูญ นายสุชาติ จึงมีความเห็นให้ส่งคืนผู้เสนอเพื่อให้แก้ไข แต่ผู้เสนอญัตติรับไปแล้ว และยืนยันไม่แก้ไข เมื่อไม่แก้ไข ก็ไม่ได้มีการบรรจุเข้าสู่วาระ ตนเห็นว่านายสุชาติรอบคอบมาก ที่มีการกลั่นกรองออกมาแบบนี้
ส่วนถ้าตำแหน่งประธานสภาฯ ครั้งนี้เป็นของพรรคก้าวไกล และดันการแก้ไขมาตรา112 อีกได้หรือไม่ นายชวน กล่าวว่า แล้วแต่ดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่สภาฯ ใครบรรจุระเบียบวาระต้องดูว่าวาระเป็นของใคร เป็นของรัฐบาลหรือไม่ ปกติแล้วถ้ารัฐบาลเสนอเข้ามา สภาฯก็จะพิจารณา เพราะถือว่ารัฐบาลเป็นฝ่ายบริหารที่ต้องใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือในการบริหาร และการที่รัฐบาลจะเสนอกฎหมายอะไรมา แสดงว่ารัฐบาลได้พิจารณาโดยผ่านกระบวนการมาแล้ว