"พิธา" ชี้ กกต.ไม่รับรอง ส.ส.ฝั่งรัฐบาล 30 คน ไม่กระทบจัดตั้งรัฐบาล แต่ ประชาชนรอไม่ได้ อยากให้ทำงานได้ทันที เผย ดีลเก้าอี้ ประธานสภา มีความคืบหน้า ย้ำพรรคที่ได้ตำแหน่งต้องคำนึงถึงความเป็นกลาง
หลังจากมีเอกสารหลุดจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ถึงยอดการพิจารณเรื่องร้องเรียนว่า ที่ สส. ได้เสนอข้อมูลต่อ กกต.ชุดใหญ่ เรื่อง ประกาศผลการเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง โดยพบว่า ว่าที่ ส.ส.ที่รับรองผลได้ 329 คน ว่าที่ ส.ส.มีเรื่องคัดค้าน 71 คน ซึ่งยังไม่เพียงพอต่อการประกาศ 95%
ทั้งนี้เมื่อเรียงลำดับพรรคที่มี ว่าที่ ส.ส.มีเรื่องคัดค้าน มากที่สุด จะเป็นดังนี้ พรรคภูมิใจไทย 21 คน พรรคเพื่อไทย 20 คน พรรคพลังประชารัฐ 14 คน
พรรคก้าวไกล 7 คน พรรครวมไทยสร้างชาติ 3 คน พรรคประชาธิปัตย์ 3 คน พรรคไทยสร้างไทย 2 คน พรรคเพื่อไทยรวมพลัง 1 คน
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกระแสข่าว คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ยังไม่รับรอง ส.ส.เป็นของก้าวไกล 7 คน ว่า ขณะนี้ ยังไม่ทราบว่าถูกร้องเรียนประเด็นใดบ้าง ซึ่งได้ทราบข้อเท็จจริงจากสื่อมวลชนว่า ยังไม่รับรอง ส.ส.จาก กกต. 71 คน เป็นของพรรคก้าวไกล 7 คน ซึ่งเป็นของพรรคร่วมทั้งหมด 30 คนอีก 41 คนเป็นของฝ่ายค้าน
ซึ่งของพรรคก้าวไกล ยังไม่มีใครทราบเหตุผล เพราะสอบถามไปที่ กกต.จังหวัด ก็ยังไม่ทราบเหตุผลเช่นเดียวกัน คงต้องรอให้เป็นกระบวนการของ กกต.ว่าเกิดจากเรื่องใด และได้สอบถามเจ้าตัวไป ก็ยังไม่มีใครทราบว่าเรื่องอะไร ซึ่งยังความสับสนอยู่เล็กน้อย
เมื่อถามว่า จะมีผลในการจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่นั้น นายพิธา มองว่า ไม่น่าจะมี เพราะเป็นฝั่งของก้าวไกล 30 คน เป็นฝั่งที่ไม่ได้เป็นรัฐบาล 41 คน
“ฝั่งของเราจำนวนไม่ได้เยอะ และหากแต่ละพื้นที่ได้ทราบถึงเหตุและผล ก็เชื่อว่าจะชี้แจงได้ทุกกรณี ไม่น่ามีอะไรเป็นที่น่ากังวลใจ หรือทำให้การจัดตั้งรัฐบาลสะดุดได้”
ถามว่า วันนี้ ครบรอบ 1 เดือน ของการเลือกตั้งแล้ว อยากจะเรียกร้องอะไรไปทาง กกต.หรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ตนเป็นคนมีส่วนได้ส่วนเสีย แต่หากดูจากประชาชน และเครือข่ายภาคประชาชน มีการแสดงให้เห็นเปรียบเทียบให้ดูกับประเทศตุรกีว่า เลือกตั้งวันเดียวกัน แต่ประเทศตุรกีทำงานแล้ว
ส่วนของประเทศไทย ยังมีระยะเวลาที่ต้องใช้เวลาอยู่ ซึ่งต้องอธิบายให้เข้าใจว่า ระบบการปกครองของตุรกีกับประเทศไทยไม่เหมือนกัน อาจจะต้องใช้เวลานาน ก็ให้เวลา กกต.ทำงานอย่างมีความโปร่งใส และมีประสิทธิภาพให้มากที่สุด แต่ประชาชนคนไทยก็รอไม่ได้ เพราะต้องการให้มีรัฐบาลที่เริ่มทำงานได้ทันที
นายพิธา กล่าวถึงตำแหน่งประธานสภา ว่า ยืนยันว่า มีความคืบหน้าไปพอสมควร แต่รอดูจังหวะเวลา ว่าในช่วงที่เปิดสมัยประชุมและต้องเลือกประธานสภา จังหวะที่เหมาะสมต้องเป็นช่วงนั้น
เมื่อถามว่ายืนยันได้ว่าก้าวไกลจะไม่ทิ้งตำแหน่งนี้หรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ให้รอฟังจังหวะที่เหมาะสมแต่เป็นการพูดคุยภายในของก้าวไกลกับเพื่อไทยและมีความคืบหน้าแน่นอน