"เสรีพิศุทธ์" ไม่ฟันธง "พิธา"รอดไม่รอด ถือหุ้นสื่อ ITV หนุน"หมอชลน่าน" เหมาะสมนั่งประธานสภา
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เผยถึงประเด็นการเมือง กรณีความคิดเห็นเรื่องเก้าอี้ประธานสภา บุคคลที่เหมาะสมจะเป็นใคร พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ถ้าดูชื่อตอนนี้นะ ก้าวไกลอยากเป็นประธานสภา เห็นมีชื่อนายณัฐวุุฒิ บัวประทุม รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ฝ่ายกฎหมาย กับนายธีรัจชัย พันธุมาศ ส่วนเพื่อไทย ต้องการให้นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ซึ่งสองฝ่ายยังตกลงกันไม่ได้ จึงไปเชิญ อ.วันนอร์ ซึ่งเป็นอดีตประธานสภามาเป็น โดย อ.วันนอร์ อายุมากแล้วไม่เอา ประธานสภา
ทั้งนี้ จะหนุ่มจะแก่ไม่สำคัญ แต่ต้องมีประสบการณ์ ถ้าคนไม่มีประสบการณ์เป็นไม่ได้ เป็น ส.ส. สมัยเดียวมันลำบาก เจ้าหน้าที่สภาเค้าอยากให้ตนเป็นประธานสภา บอกจะได้จัดการ ส.ส. ได้ เพราะมีความเด็ดขาด จึงบอกเป็นไม่ได้ ประสบการณ์ยังไม่เก๋าพอ หากเทียบส.ส.ใหม่ของก้าวไกล หรือ หมอชลน่าน เป็น ส.ส.มา 7 สมัยแล้ว เคยเป็นรัฐมนตรีแล้ว เป็นผู้นำฝ่ายค้าน ใครเก๋ากว่ากัน มันต้องคนที่มีความรู้ ความสามารถ มีประสบการณ์จริง ๆ ไม่ใช่ใครก็ได้ ไม่งั้นก็เชิญใครมาก็ได้ ตนยังถอย ยังไม่ยอมเป็นเลย
เมื่อถามว่า หมายความว่านายแพทย์ชลน่าน เหมาะที่จะเป็นประธานสภา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ระบุว่า ถ้าถามตอนนี้นะถูก
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า โอกาสที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จะรอดจากคดีถือหุ้นสื่อ พ.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้เห็นหลักฐาน ติดตามจากข่าว ไม่รู้พยานหลักฐานชัดเจนไหม ถ้าเอาพยานหลักฐานมากองตรงนี้ เอาข้อกฎหมายมาดู ถึงจะตอบได้ว่ารอดไม่รอด
"เห็นฟาก กกต. กำลังตรวจสอบว่ามีหุ้นเป็นอย่างไร มีหุ้นตั้งแต่พ่อ เพราะพ่อโอนมรดกให้ แล้วตรงนี้รับไว้ ทำไมไม่จัดการ กำลังมีการฟ้องร้องเพื่อที่ศาลปกครองกำลังได้ผลประโยชน์อยู่ เลยไม่ถอนหุ้น เพื่อรอรับผลประโยชน์ตรงนี้หรือเปล่า แล้วบริษัทยังเปิดอยู่ไหม มีผลกำไรไหม ต้องไปตรวจดู ผมก็รู้แต่ข่าวแค่นี้ ก็ไม่กล้าพูดหรอก" พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว
เมื่อถามว่า หากนายพิธา ไม่รอดจริง ๆ เมื่อพรรคก้าวไกลจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ แล้วอาจจะเป็นพรรคอันดับสอง ทิศทางของพรรคเสรีรวมไทย จะเป็นอย่างไร จะมีโอกาสตั้งรัฐบาล ร่วมกับพรรคอันดับสองหรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ตนเองเป็นมิตรกับทุกคน นอกจากเผด็จการ
วันนี้มาประชุมในเรื่องคณะกรรมการเปลี่ยนผ่านรัฐบาล ในเรื่องปัญหาของประชาชน ตั้งแต่เรื่องภัยแล้ง น้ำท่วม ราคาพลังงาน เรือดำน้ำ รวมถึงการประชุมสหประชาชาติในเดือน ก.ย.ที่จะถึงนี้ของรัฐบาลชุดใหม่ ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่ประชาชน พี่น้องข้าราชการ และภาคเอกชน อาจจะถามในเมื่อเรามีเป้าหมายร่วมกันที่ชัดเจนในเอ็มโอยู เมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา วันนี้จึงอยากมาพูดคุยกันเรื่องของกระบวนการทำงานเพื่อให้ไปถึงเป้าหมายตรงนั้น จึงอยากนัดประชุมพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลกันอยู่เรื่อยๆ ทุก 1-2 อาทิตย์ และจะจัดตั้งคณะทำงานในการแก้ไขปัญหาต่างๆ โดยเอาปัญหาประชาชนเป็นตัวตั้ง ไม่ได้แบ่งเป็นรายกระทรวงว่าจะต้องทำอะไรอย่างไร กฎหมายที่ค้างอยู่มีอะไรบ้าง ที่เมื่อพอเราประชุม ครม.นัดแรก เราจะได้เรียงลำดับความสำคัญในการประชุมทั้งหมดนี้เป็นสาระคร่าวๆ ที่เตรียมมาพูดคุยกับหัวหน้าพรรคทั้ง 7 พรรค
เมื่อถามว่าในการประชุมวันนี้จะมีการพูดคุยเรื่องตำแหน่งประธานสภาฯ หรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ไม่มี