“ชลน่าน” ย้ำ ไม่มีดีลลับจัดตั้งรัฐบาล ยังไม่คุยแบ่งเค้ก ครม. อย่างเป็นทางการ “เศรษฐา” ยันไม่มีการคุยการเมืองกับ “อนุทิน"
วันที่ 29 พ.ค. 2566 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่างถึงกรณีที่มีภาพนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เดินทางไปดูฟุตบอลด้วยกันที่สหราชอาณาจักร ทำให้มีกระแสตีกลับย้ำว่ามีดีลลับการจัดตั้งรัฐบาล ว่า ตนเพิ่งทราบเรื่องนี้จากสื่อมวลชน แต่นายเศรษฐา เคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะเดินทางไปดูฟุตบอล จึงไม่อยากแสดงความคิดเห็นเรื่องนี้และไปตั้งสมมุติฐานขึ้นมา
เพราะส่วนตัวเชื่อว่าท่านคงไม่เป็นคนแบบนั้น แม้ว่าอะไรที่เกิดขึ้นในสังคมก็สามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้เป็นเรื่องธรรมดา แต่ก็ต้องไปดูข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นด้วย เช่นเดียวกับกรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ออกมาแสดงความคิดเห็นว่าขณะนี้กำลังมีการเตรียมตั้งจัดรัฐบาลใหม่โดยไม่มีพรรคก้าวไกล เรื่องนี้ตนขอไม่ออกรวามเห็น เนื่องจากเป็นภารกิจส่วนตัวของนายเศรษฐาไม่ใช่ภารกิจของพรรค แต่ขอยืนยันอย่างหนักแน่นว่าไม่มีเรื่องดีลลับอะไรแบบที่เป็นข่าวทั้งสิ้น
เมื่อถามว่า มีการพูดคุยเรื่องการจัดสรรตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีแล้วหรือไม่ นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า การพูดคุยอย่างเป็นทางการ ยังไม่มี ตอนนี้อยู่ในกระบวนการของ MOU แต่การทำงานร่วมกันมันปฏิเสธเรื่องของการจัดสรรตำแหน่งไม่ได้ แต่เราก็ระมัดระวังอยากให้ประชาชนมองว่า เราแบ่งงานกันทำตามภาระหน้าที่ ที่เหมาะสม ตามนโยบายของแต่ละพรรคไม่ใช่ออกไปในลักษณะแย่งงานกันทำ และวันพรุ่งนี้ ไม่น่าจะมีการพูดคุยเรื่องนี้
เมื่อถามว่า จุดยืนของพรรคเพื่อไทย ยังอยากได้ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรอยู่หรือไม่ นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า คณะเจรจากำลังพูดคุยกัน ซึ่งตนในฐานะที่เป็นหัวหน้าพรรคและมีชื่อปรากฏ เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย จึงไม่อยากแสดงความคิดเห็นตอนนี้ เป็นหน้าที่ของคณะเจรจาที่จะพูดคุยกันอย่างมีเหตุผล และตนเคยย้ำหลายครั้ง
เป้าหมายของพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยคือให้ความสำคัญกับอาณัติของประชาชน 25 ล้านเสียงเขามอบให้เรามา เปรียบเสมือนการมัดทั้ง 2 พรรคให้ทำงานร่วมกัน ต้องยึดตรงนั้นเป็นหลักเพราะประชาชนต้องการรัฐบาลประชาธิปไตย ยุติการสืบทอดอำนาจของอีกฝ่าย จึงมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องหลัก หากยึดหลักตรงนี้เชื่อว่า จะสามารถพูดคุยทำความเข้าใจกันได้ง่าย
"ผมมั่นใจว่ามันคายไม่ได้ เพราะเรายึด 25 ล้านเสียงเป็นหลัก ยึดเป้าหมายฝ่ายประชาธิปไตยเป็นหลัก ตรงนี้ยากที่จะคลายจากกันได้ ไม่ต้องเอาอะไรมามัด เพราะประชาชนมัดเราอยู่แล้ว หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแตกแยกออกไป ก็จะทำให้ความหวังของพี่น้องประชาชนเสียหายไป มอบจะปฏิเสธอำนาจที่มอบจากประชาชนไม่ได้ เพราะเราเป็นผู้รับมอบอำนาจ ต้องตรงไปตรงมาอยู่แล้ว" นายแพทย์ชลน่าน กล่าว
ส่วนกรณีพร้อมจะทำหน้าที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรหรือไม่หากพรรคร่วมมีมติเสนอชื่อ เพราะขึ้นอยู่กับผลการเจรจาจะมีทางออกอย่างไร ส่วนที่มีการเสนอให้ฟรีโหวตในการเลือกประธานสภาฯ ตนมอง ใคร ๆ ก็เสนอได้ แต่คณะเจรจาจะใช้แนวทางนี้หรือไม่ต้องไปฟังเขาคุยกัน ปัจจัยแวดล้อมไม่เอา เพราะจะทำให้การเจรจานอกลู่นอกทาง ต้องเอาประจักษ์พยาน และความจริงที่นั่งคุยกัน
เมื่อถามว่าตำแหน่งประธานสภา จะต้องนับรวมกับการเกลี่ยเก้าอี้ฝ่ายบริหารหรือไม่ นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า หากเป็นเสียงข้างมากแบบเป็น เบ็ดเสร็จเด็ดขาด เราก็ยอมรับในกติกานั้น แต่การปกครองตามระบอบประชาธิปไตย ต้องยึดหลักการแบ่งแยกอำนาจ ต้องมีการถ่วงดุลมีการแบ่งแยกอำนาจการถึงจะเรียกว่าประชาธิปไตยได้ คือ ฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ ตุลาการ แต่กรณีที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลก็มีวิธีการคิดหลายเรื่อง ที่จะหาโอกาสทำงานร่วมกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรคร่วมรัฐบาล ที่มีเสียงใกล้เคียงกัน จึงต้องมีวิธีที่ทำให้ยอมรับซึ่งกันและกัน
ด้านนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ชี้แจงหลังมีภาพปรากฎกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ไปร่วมรับชมการแข่งฟุตบอลพรีเมียร์ลีกนัดปิดสนาม ที่ประเทศอังกฤษว่า “ผมกับครอบครัว คุณวิชัย สนิทกันมานานหลายปี เมื่อ 7-8 ที่แล้วตอนที่เลสเตอร์ ได้แชมป์พรีเมียร์ลีกผมก็มาร่วมฉลอง วันนี้ เลสเตอร์ แข่งนัดสุดท้ายเพื่อหนีตกชั้น ผมก็ต้องมาให้กำลังใจกัน ในฐานะคนบ้าบอล เรื่องนี้ผมแพลนไว้ก่อนหน้าแล้วเป็นเดือน"
"ส่วนคุณหนู (อนุทิน) ผมรู้จักกันเป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว และบังเอิญเจอกันก็ยิ้ม ทักทายกันตามประสาคนรู้จัก เท่านั้น ไม่มีคุยหรือดีลเรื่องการเมืองใดๆทั้งสิ้น ถ้าจะคุยกันคงไม่ต้องมาถึงอังกฤษมั้งครับ” นายเศรษฐา ระบุ