"สว.สำรอง" ชี้น้ำท่วมไม่ใช่วิกฤติใหญ่สุด รัฐที่ไม่พร้อมคือวิกฤติที่แท้จริง ยกแม่สาย–เมืองเชียงราย เป็นบทเรียนรัฐที่พร้อมรับมือช่วยลดความเสียหายได้จริง

"สว.สำรอง" ยกกรณีศึกษาแม่สายและอำเภอเมืองเชียงรายชี้ชัด—ระบบเตือนภัยล่วงหน้า การขุดลอกต่อเนื่อง และการสั่งการรวดเร็วคือกุญแจลดผลกระทบอุทกภัยอย่างเป็นรูปธรรม

นายณพลเดช มณีลังกา สว.สำรอง จังหวัดเชียงราย กลุ่ม 16 และอดีตเลขานุการผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวนาม ดร.ปิง ระบุว่า ปัญหาน้ำท่วมไม่ใช่วิกฤติที่ร้ายแรงที่สุดของประเทศ หากแต่ “ความพร้อมของรัฐในการรับมือ” ต่างหากเป็นตัวกำหนดว่าความเสียหายจะรุนแรงเพียงใด โดยชี้ว่าหากหน่วยงานต่าง ๆ ทำงานแบบบูรณาการ มีข้อมูลครบ ระบบเตรียมพร้อม และการสั่งการที่รวดเร็ว จะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่าการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในหลายพื้นที่ที่ผ่านมาครับ

ทั้งนี้ผมยกกรณีอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เป็นตัวอย่างของพื้นที่ที่มีระบบบริหารจัดการน้ำที่เข้มแข็ง แม้จะเผชิญน้ำหลากจากต้นน้ำฝั่งเมียนมาบ่อยครั้ง แต่สามารถรับมือได้ดี เพราะมีการขุดลอกลำน้ำแม่สาย–แม่คำต่อเนื่องทุกปี มีระบบเตือนภัยล่วงหน้าที่เชื่อมโยงกับชุมชน การเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรกลหนักให้พร้อมเข้าปฏิบัติการทันที รวมถึงการประสานงานระหว่างหน่วยงานท้องถิ่นและส่วนกลางอย่างเป็นระบบ ทำให้เหตุการณ์น้ำหลากในปี 2566–2567 คลี่คลายอย่างรวดเร็ว ลดผลกระทบต่อประชาชนอย่างเห็นได้ชัด

ทั้งนี้ผมขอยกเหตุการณ์ในอำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ซึ่งต้องเผชิญสถานการณ์ที่ซับซ้อนและรุนแรงไม่แพ้กัน โดยพื้นที่บางจุดเกิดน้ำหลากปนตะกอนโคลน ทำให้ระดับน้ำสูงขึ้นรวดเร็วและระบายน้ำได้ยากกว่าปกติ แต่ด้วยการสั่งการเร่งด่วน การนำเครื่องจักรกลหนักเข้าขุดเปิดทางน้ำทันที การเสริมแนวป้องกันชั่วคราว และการทำงานร่วมกันของหน่วยงานทุกระดับ ทำให้สามารถควบคุมสถานการณ์และลดระดับน้ำได้ภายในเวลาอันสั้น แม้จะเป็นพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญที่มีความเสี่ยงสูงต่อความเสียหาย

ทั้งสองเหตุการณ์สะท้อนบทเรียนสำคัญว่า “ปัญหาไม่ใช่น้ำท่วม แต่คือรัฐพร้อมหรือไม่” เพราะเมื่อมีข้อมูลครบ แผนรับมือชัดเจน เครื่องมือพร้อมใช้ การสั่งการรวดเร็ว และการประสานงานที่เป็นเอกภาพ ผลกระทบจากอุทกภัย—even ในพื้นที่ที่เผชิญน้ำหลากลักษณะโคลนหรือมีความเสี่ยงสูง—สามารถลดลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดร.ณพลเดชเสนอว่า หากโมเดลการจัดการแบบแม่สาย–อำเภอเมือง ถูกนำไปปรับใช้ในจังหวัดอื่น ประเทศไทยจะมีศักยภาพรับมือภัยพิบัติซ้ำซากได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว

อย่างไรก็ตาม ดร.ณพลเดชกล่าวว่า ขอฝากรัฐบาลปัจจุบันให้หามืออาชีพเข้ามาทำงาน เพราะประเทศไทยไม่มีเวลาให้แลกกับชีวิตประชาชนและมูลค่าความเสียหายที่จะเกิดขึ้น ในขณะนี้ “น้ำ–อาหาร” เป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องถึงมือประชาชนอย่างเร่งด่วน การผันน้ำออกต้องทำโดยทันที ปัญหาที่ตามมาจะมีทั้งโคลนและฝุ่นที่ต้องจัดการต่อเนื่อง ส่วนการเยียวยาจะเป็นขั้นตอนถัดไปตามความเสียหายที่แท้จริง หากใช้งบประมาณไม่ถูกจุดหรือหว่านไม่ตรงเป้าจะทำให้ประชาชนจำนวนมากไม่ได้รับการช่วยเหลือตามสิทธิ เป็นเงื่อนไขที่นำไปสู่การร้องเรียนและปัญหาใหม่ตามมา

“อุบัติภัยอาจยังไม่จบเพียงเท่านี้ในหลายพื้นที่ของประเทศไทย รัฐบาลต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ และควรให้คนที่ทำงานเป็น มาทำงาน” นายณพลเดช กล่าว

TAGS: #น้ำท่วม #สงขลา #หาดใหญ่ #พลเดชมณีลังกา #สว.สำรอง #เชียงราย