นายกฯ เผยเตรียมดัน "เอกนิติ-ศุภจี" เป็นแคนดิเดตนายกฯภูมิใจไทย มองมีความเก๋าเกมส์ เป็นนักบริหารมืออาชีพ เสริฟงานตามที่สั่งได้ รอลุ้น "วราวุธ-สนธยา" ร่วมพรรควันอาทิตย์นี้
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ยืนยันว่า นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง และนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รมว.พาณิชย์ จะเข้ามาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรคภูมิใจไทย โดยในส่วนของนายเอกนิตินั้น มองว่า เป็นคนทำงานดี ขยันขันแข็ง และเข้าใจงาน และเข้ามาช่วยทำงานเพื่อบ้านเมือง
นายอนุทิน กล่าวว่า ทั้งนายเอกนิติ และนางศุภจี มีประสบการณ์และมีความเข้าใจเนื้องาน ตอนที่เชิญทั้ง 2 ท่านมาทำงาน อาจต้องใช้เวลาในการปรับตัวแม้จะมีเวลาน้อย แต่มีความเก๋าเกมส์ เพราะเข้ามาทำงานได้เลย เป็นนักบริหารมืออาชีพ ไม่ได้ตื่นเต้น เมื่อได้รับมอบหมายก็สามารถไปทำตามหน้าที่ได้
"อยู่ที่ไหนของมุมโลกก็ติดต่อกันได้ คุณศุภจีตอนนี้ยังอยู่อเมริกา เมื่อวานก็นั่งประชุมเรื่องกรรมการนโยบายข้าว จากแอลเอ ตีสอง ตีสองจากเวลาที่โน่น ท่านก็ยังประชุมได้อย่างไม่มีปัญหาอะไร" นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวว่า ตนเห็นจากความมุ่งมั่นตั้งใจทำงานและผลงานที่ออกมา และความรวดเร็วในการทำงาน และต่างคนต่างรักษาคำพูด ซึ่งทั้งสองคนก็จะคิดงานที่ดีที่สุดออกมา ตนก็บอกว่า จะไม่เข้าไปแทรกแซง และให้อิสระกับการทำงานเต็มที่ และสนับสนุนผลักดัน และผลงานที่ออกมาก็ดีกับประเทศทั้งสิ้น
ส่วนการที่พรรคภูมิใจไทยมีแคนดิเดตถึง 3 คน นายอนุทิน กล่าวว่า เพราะพรรคมีขนาดใหญ่ขึ้นและดีขึ้น จึงอยากให้มีคนมาช่วยทำงาน และจะนำรายชื่อทั้ง 2 คน นำเสนอต่อที่ประชุมพรรค และมีความเป็นไปได้ ที่จะนำทั้ง 2 คนเข้าสู่สส. แบบบัญชีรายชื่อด้วย
นายอนุทิน กล่าวว่า การที่ได้คนเก่ง ๆ คนดีมาทำงานให้กับบ้านเมือง น่าจะมีส่วนช่วยให้ประเทศดีขึ้น ประชาชนมีคุณภาพที่ดี เศรษฐกิจดีขึ้น เพราะได้คนที่เข้าใจและมีประสบการณ์เข้าทำงาน จะมาหวงอำนาจอะไรมากมายก็ไม่ได้ ซึ่งไม่ได้หมายถึงเพียง 2 ท่านเท่านั้น แต่รัฐมนตรีเกือบทุกคนก็ทำงานหนัก ไม่ว่าจะเป็นรมว.สาธารณสุข รมว.วัฒนธรรม รมว.แรงงาน รมว.เกษตรและสหกรณ์ และรัฐมนตรีแต่ละคนที่เลือกเข้ามา ไม่ได้เข้ามาจากบ้านใหญ่ บ้านเล็กแต่เลือกจากคนที่ทำงานได้ดี ทำงานได้เก่ง ซึ่งผลักดันงานได้รวดเร็ว
ส่วนนายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา และนายสนธยา คุณปลื้ม แกนนำบ้านใหญ่ชลบุรี จะเข้าร่วมกับพรรคภูมิใจไทยด้วยหรือไม่ด้วยนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ให้รอดูการประชุมพรรคในวันอาทิตย์นี้
นายอนุทิน กล่าวย้ำว่า ตอนนี้ก็พร้อมเลือกตั้งแล้ว อย่างที่เคยบอกว่า พร้อมตั้งแต่ออกมาจากรัฐบาลที่แล้ว พร้อมยืนยันว่า ในระหว่างนี้ไปจนถึงเลือกตั้งไม่มีเรื่องอะไรตื่นเต้น เป็นเรื่องปกติ และนักการเมืองที่มีชื่อในขณะนี้ก็คุ้นหน้าคุ้นตา รู้จักกันดี และสามารถทำงานร่วมกันได้ ซึ่งเราก็เลือกคนที่มีประสบการณ์และทำงานให้กับประชาชนได้
ยินดีหากเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตามมาตรา 152
นายอนุทิน กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่อาจจะเกิดขึ้น ว่า เรามี MOA กับทางพรรคประชาชนอยู่แล้ว ซึ่งทั้งพรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาชน ต่างรักษาคำพูดและพันธะในMOA อย่างเคร่งครัด พรรคภูมิใจไทยไม่ได้มีการเพิ่มเสียง และยืนยันเสมอว่า การยุบสภาเกิดขึ้นแน่นอน ไม่เกิน 31 ม.ค. 69
"ผมไม่เคยมีอะไรเผื่อไว้เลยว่า จะมีเหตุการณ์ไหนที่จะทำให้การยุบสภาเกินวันที่ 31 ม.ค. 69 แต่ไม่ได้หมายถึงว่า ต้องรอไปถึง 31 ม.ค. ถ้ามีเหตุอะไรที่ไม่ก่อประโยชน์ส่วนร่วม การเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยอยู่แล้ว ถ้าลงคะแนนเมื่อไรก็แพ้เมื่อนั้น เพราะฉะนั้นเราต้องดูว่า อะไรก็ตาม ที่ทำให้ความเป็นรัฐบาล ที่มีกำหนดที่แน่นอนทำงานไม่ได้ ก็คืนอำนาจให้กับประชาชนเท่านั้นเอง”นายอนุทิน กล่าว
ทั้งนี้ นายอนุทิน ยืนยันว่า ยินดีที่จะให้มีการอภิปรายเกิดขึ้น และหากกลัวว่าตนจะหนีอภิปรายก็ให้ยื่นอภิปราย 152 มา ซึ่งตนพร้อมจะชี้แจง แต่ถ้ายื่น 151 มา โหวตเมื่อไรจะชนะ
“ถ้าอยากให้รัฐบาลโต้ตอบ ชี้แจงก็ยื่น 152 แต่ถ้าคิดว่าไม่สนใจอะไรแล้ว เอาเสียงมากล้มเสียงน้อยก็ยื่น 151 แต่ถ้า 151 รัฐบาลก็ต้องดูตัวเองว่า จะยอมให้เสียงมากมาล้มเสียงน้อยหรือไม่ ซึ่งไม่ใช่หนีอภิปราย ถ้า 152 อยู่ครบไปวันที่ 31 ม.ค.แต่ถ้า 151 ก็เป็นสิทธิ์ของผม”นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวว่า รัฐบาลทำงานได้เพียงเดือนเดียว ยังไม่ถึงขั้นที่จะต้องอภิปรายไม่ไว้วางใจ และทราบอยู่แล้วว่า เรามีข้อตกลงที่ทำกับผู้นำฝ่ายค้านอยู่แล้ว ก็มีความชัดเจน และรัฐบาลก็ทำงานที่คั่งค้างมาไม่มีใครแก้ได้ ซึ่งรัฐบาลก็แก้ได้หลายเรื่อง ซึ่งการยุบสภาเดือนธ.ค.หรือม.ค. สำหรับตนไม่มีความแตกต่างกัน ต้องทำทุกอย่างที่ไม่ไปอยู่ภายใต้เกมส์การเมืองของใคร
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเตรียมร่างกฤษฏีกายุบสภาไว้แล้วหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ยิ้ม พร้อมกับกล่าวว่า รู้ใจ