รองนายกฯ ชี้ไม่ยึดอุปโลกน์ว่าใครคุมพื้นที่ไหน พร้อมระบุผู้สมัครที่เตรียมไว้เป็นอดีต สส. ในพื้นที่ ชำนาญฐานเสียงเดิม พร้อมเผยเตรียมพบเอกอัครราชทูตศรีลังกา 19 พ.ย. หารือนำช้าง "ประตูผา–ศรีณรงค์" กลับไทย
นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงการทาบทามกลุ่มบ้านใหญ่นายสุนธยา คุณปลื้ม เข้าร่วมงานการเมืองกับพรรคภูมิใจไทย ขณะที่นายสุชาติเองก็เป็นบ้านใหญ่ชลบุรีเช่นกัน จะบริหารจัดการพื่้นที่อย่างไร ว่าเรื่องการเมืองทุกภาค ทุกกลุ่มทั่วประเทศไทย ถ้าเขามีสัญญาญนับถอยหลังว่าจะมีการเลือกตั้ง ทุกค่ายทุกกลุ่มก็พยายามหาสังกัดเตรียมเลือกตั้งตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ ต้องมองสังกัดที่มั่นคง ที่จะนำพาประเทศชาติบ้านเมืองให้เจริญรุ่งเรือง เขาก็จะไปพรรคการเมืองนั้น ซึ่งในส่วนของชลบุรีตนเป็นผู้แทนฯ ซึ่งไม่ได้ยึดติดว่าเราจะไปดูแลจังหวัดนั้นจังหวัดนี้ เพราะเราก็ไม่ได้รู้จักประชาชนทั้งจังหวัด หรือทุกจังหวัด เราอาจจะชำนาญในพื้นที่บางอำเภอ บางตำบล ยินดีท่านใดที่มีความรู้ความสามารถ มีศักยภาพทางการเมือง ที่จะมาทำงานพรรคการเมืองพรรคเดียวกัน แต่ขณะนี้ยังไม่มีอะไรที่เป็นรูปธรรมชัดเจน แต่ทุกคนสามารถพูดคุยกันได้หมด และถึงจะเป็นพื้นที่จังหวัดเดียวกันก็ยินดี เพราะคนที่ได้ประโยชน์คือประชาชน
ส่วนได้มีการพูดคุยกันแล้วหรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า ตนเป็นเด็ก เป็นผู้น้อยกว่า เรื่องนี้ต้องให้หัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค เป็นหลักมากกว่า เพราะตนยังไม่ได้มีตำแหน่งในพรรคภูมิใจไทย เป็นแค่สมาชิกพรรคและเรายังไม่ได้รับการแต่งตั้งให้ดูแลบริหารพื้นที่โซนใด จึงไม่ได้มีสิทธิมีเสียงขนาดนั้น
เมื่อถามว่าหากพรรคให้นายสนธยาดูแลพื้นที่นายสุชาติจะรับได้หรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า การเมืองก็คงรู้อยู่แล้วว่าใครถนัด เหมาะสมที่จะดูแลพื้นที่ใด คำว่าคุ้มหรือไม่คุม เป็นเรื่องอุปโหลกกันมากกว่า จริงๆมองที่ผลลัพธ์และเสียงตอบรับประชาชน ว่าใคร มีพื้นที่ฐานเสียงตรงไหน ก็ควรจะอยู่ตรงนั้นมากกว่า ถ้าเราทำงาน เพื่อเป้าหมายประชาชนและประเทศชาติ การเหมือนต้องไปทางเดียวกันอยู่แล้ว พร้อมยกตัวอย่างตนมีพื้นที่อำเภอเมือง จะให้ไปดูแลบางละมุงหรือสัตหีบก็คงทำไม่ได้ เพราะตนไม่ได้รู้จักประชาชนและเกิดที่นั่น
นายสุชาติ เปิดเผยว่าในส่วนที่ตนวางตัวผู้สมัครไว้แล้ว 5 เขต คือ เขตอำเภอเมือง พานทอง พนัสนิคม บ้านบึง บ่อทอง หนองใหญ่ ซึ่งชลบุรีมี 10 เขต พร้อมย้ำว่าตนเกิดมาอยู่อำเภอเมือง ไม่เคยข้ามไปศรีราชา บางละมุง พัทยา ถนัดแต่ฝั่งซ้าย ออกจากบ้านกี่โมงไปทางซ้าย
เมื่อถาม พรรคภูมิใจไทยนัดคุยระหว่างระหว่างนายสนธยาและนายสุขาติเพื่อแบ่งกันดูแลพื้นที่เบื้องต้น นายสุชาติเผยว่าเบื้องต้น ตนในฐานะที่เป็นสมาขิกพรรค แสดงเจตจำนงไว้แล้วว่า พื้นที่ไหนที่สามารถรับใช้ประชาชนในเขตนั้นได้เราก็เสนอตัวไปแล้ว ส่วนตรงอื่นเราก็ยองรับว่าเราไม่ได้ช่ำชอง หรือรู้จักผู้นำตรงนั้น จะไปเสนอตัวคุมพื้นที่ทั้งหมดก็คงจะไม่ได้ เราต้องยอมรับความเป็นจริงก่อนว่าเราถนัดตรงไหน
“เราไม่ถนันจะให้เราไปทำอย่างไร เอาคยให้เขาไปลงเพื่อ ประชาชนพึ่งพาได้ไหม ถ้าทำตัวไม่ดีเราก็เสียหายด้วย” นายสุชาติกล่าว
และเมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าเราจอง 5 เขตแล้วใช่หรือไม่ นายสุชาติออกตัวว่า ไม่เชิงจองแต่มันเป็นเขตที่เรามีความช่ำชองและชำนาญพื้นทีเพราะเรารู้จักผู้นำ และชาวบ้าน และตัวผู้สมัครที่วางไว้ก็เป็น สส. เก่า ถ้าไม่ให้เขาลงจะเอาเขาไปอยู่ตรงไหน
เตรียมพบทูตศรีลังกา 19 พ.ย.นี้ หารือ นำช้างพลาย“ประตูผา - ศรีณรงค์” กลับไทย
นายสุชาติ กล่าวถึงกรณีช้างพลายประตูผา และ พลายศรีณรงค์ ช้างไทยที่ถูกส่งไปศรีลังกา ขณะนี้ความคืบหน้าเป็นอย่างไร ว่า วันที่ 19 พฤศจิกายน ได้เชิญเอกอัครราชทูตศรีลังกาประจำประเทศไทย มาประชุมที่ทำเนียบรัฐบาล พร้อมฝากถึงประชาชนที่มีความรักและห่วงใย ช้าง 2 เชือกนี้ ต้องยอมรับว่า เป็นเรื่องที่ต้องใช้ขั้นตอนทางการทูต ซึ่งตนเองได้ขอพบทูตศรีลังกา เพื่อพูดคุยเรื่องแนวทาง ซึ่งจะไม่พูดว่าจะไปขอในสิ่งที่เขาดูแลไม่ดี เพราะพูดไม่ได้ แต่จะต้องพูดในลักษณะโดยมีวิธีการเจรจาในเรื่องของความเข้าใจกันมากกว่า และเห็นใจซึ่งกันและกัน
ส่วนแนวโน้มน่าจะเอากลับมาได้หรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า หากพูดตรงนี้ดูเหมือนเป็นสัญญาประชาคม จึงไม่กล้าพูด ขอรอพบทูตวันที่ 19 พฤศจิกายนนี้ก่อน พร้อมขอขอบคุณกระทรวงการต่างประเทศ และนายกรัฐมนตรี ที่เป็นหลักให้ตนเองและกระทรวงการต่างประเทศได้มาพูดคุยกัน เรื่องนี้เป็นเรื่องระดับรัฐบาลกับรัฐบาล ไม่ใช่ระดับกระทรวงกับกระทรวง