"จิตติพจน์" เพื่อไทยจวกอำนาจการเมือง แทรกแซงคดีเขากระโดง ที่ดินรัฐสงวนหวงห้าม-ละเมิดหลักนิติรัฐ

ส.ส.เพื่อไทย "จิตติพจน์" ซัดการเมืองแทรกแซงคดีที่ดินเขากระโดง ทั้งที่ศาลวินิจฉัยแล้วว่าเป็นที่ของรัฐ แต่กลับมีคำสั่งหลีกเลี่ยงการเพิกถอนโฉนด ส่อบิดเบือนหลักนิติรัฐ  

นายจิตติพจน์ วิริยะโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นอภิปรายนโยบายรัฐบาลกรณีปัญหาที่ดิน เขากระโดง จ.บุรีรัมย์ โดยระบุว่า คดีนี้เป็นตัวอย่างสำคัญที่สะท้อนการบิดเบือนหลักนิติรัฐ และการเมืองที่แทรกแซงกระบวนการยุติธรรมอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่ศาลยุติธรรมและศาลปกครอง ได้วินิจฉัยตรงกันและถึงที่สุดแล้วว่า พื้นที่กว่า 5,083 ไร่ เป็นกรรมสิทธิ์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ซึ่งได้มาตั้งแต่พระราชทานในรัชกาลที่ 5 และพระราชกฤษฎีกาสมัยรัชกาลที่ 6 ถือเป็น ที่ดินของรัฐและเป็นที่สงวนหวงห้าม

นายจิตติพจน์ กล่าวว่าคำพิพากษาศาลปกครองกลางเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2566 ได้อ้างอิงคำพิพากษาศาลฎีกาหลายฉบับ และยืนยันชัดเจนว่า การออกโฉนดทับที่ดินรถไฟเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมาย พร้อมมีคำสั่งให้กรมที่ดินและอธิบดีกรมที่ดิน ดำเนินการตาม มาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ และตรวจสอบแนวเขตร่วมกับการรถไฟ 

นายจิตติพจน์ เปิดเผยว่าในปี 2568 ขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกุล ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย อดีตอธิบดีกรมที่ดินในสมัยนั้นกลับมีคำสั่งว่า “ไม่สมควรเพิกถอนโฉนด” ทั้งที่ศาลมีคำพิพากษาชัดเจนแล้วว่าที่ดินเป็นของรัฐ ยิ่งไปกว่านั้น อดีตอธิบดีกรมที่ดินยังมีท่าทีต้องการ “ยุติเรื่อง” โดยอ้างเพียงว่า “ไม่ทราบว่าที่ดินเขากระโดงเป็นของใคร ไม่ทราบแน่ชัด ไม่ทราบแนวเขต” ทั้งที่มีการรังวัดแนวเขตใหม่ตั้งแต่เดือนมกราคม 2567 และแล้วเสร็จในเดือนสิงหาคมปีเดียวกัน แต่ผลการรังวัดกลับ ไม่ได้ถูกนำมาใช้ตรวจสอบหรือยืนยันสิทธิ์ แต่อย่างใด กลายเป็นข้ออ้างเพื่อหลีกเลี่ยงการปฏิบัติตามคำพิพากษาศาล

ตรงกันข้ามกับนายภูมิธรรม เวชยชัย เมื่อเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เดินหน้าผลักดันให้เป็นไปตามคำพิพากษา โดยตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และมีคำสั่งให้กรมที่ดินร่วมกับการรถไฟชี้แนวเขตอย่างชัดเจน พร้อมวางหลักการทำงานคือ ต้องนำที่ดินของรัฐกลับคืนมาให้การรถไฟ และ ต้องคุ้มครองประชาชนผู้สุจริตไม่ให้เดือดร้อน แต่จัดระบบเช่าที่ดินในราคาที่เหมาะสมแทน

นายจิตติพจน์ กล่าวทิ้งท้ายว่า กรมที่ดินในฐานะหน่วยงานรัฐมีหน้าที่โดยตรงในการคุ้มครองและป้องกันที่ดินของรัฐ หากเพิกเฉยหรือละเว้นถือเป็นการละเมิดกฎหมาย พร้อมตั้งคำถามว่า การอ้าง “ไม่รู้แนวเขต” ทั้งที่มีการรังวัดใหม่แล้ว แต่กลับไม่ดำเนินการใด ๆ นั้น อาจเข้าข่าย ผิดกฎหมายฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ เรื่องนี้สังคมกำลังจับตา
 
 

TAGS: #แถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา #จิตติพจน์วิริยะโรจน์ #พรรคเพื่อไทย #เขากระโดง #ละเมิดหลักนิติรัฐ