"จุลพงศ์" ส.ส.พรรคประชาชน ชี้คดีเขากระโดงควรจบนานแล้ว แต่ถูกเตะถ่วงใช้เป็นเครื่องมือต่อรองการเมือง จี้ "พิพัฒน์" ใช้อำนาจ รมว.คมนาคม สั่ง รฟท. ฟ้องเพิกถอน 2 แปลงที่มีหลักฐานชัดเป็นที่การรถไฟฯได้ทันที
ในการแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีต่อรัฐสภา จุลพงศ์ อยู่เกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายถึงกรณีคดีที่ดินเขากระโดง โดยระบุว่าหนึ่งในสามนโยบายหลักที่รัฐบาลอนุทิน ชาญวีรกูลกล่าวไว้ คือนโยบายยึดมั่นในหลักนิติธรรม การบังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรมและการบริหารราชการแผ่นดินบนพื้นฐานของธรรมาภิบาล เหมาะเจาะมากที่ท่านเขียนนโยบายนี้ลงในคำแถลง เพราะเมื่อคุณอนุทินขึ้นมาเป็นนายกฯ คนใหม่ ปฏิเสธไม่ได้ว่าหลายคนจับตาดูว่าการบังคับใช้กฎหมายและหลักนิติธรรมในยุคของท่านจะเป็นอย่างไร โดยเฉพาะเรื่องที่ดินเขากระโดง จังหวัดบุรีรัมย์
เรื่องที่ดินเขากระโดงที่จริงควรจบไปนานแล้ว คำพิพากษาทุกศาล ทั้งศาลยุติธรรมและศาลปกครอง ยืนยันว่าที่ดินเขากระโดงเป็นของการรถไฟแห่งประเทศไทย แต่ทุกรัฐบาลที่ผ่านมาเหมือนจงใจเตะถ่วงและปล่อยให้เรื่องนี้คาราคาซังอยู่ที่เดิมมานับสิบๆ ปี เดี๋ยวการรถไฟฯ ก็ไปร้องกรมที่ดิน เดี๋ยวกรมที่ดินก็ตั้งคณะกรรมการแล้วสรุปว่าไม่เพิกถอน ให้การรถไฟฯ ไปฟ้องศาลเพิกถอนโฉนดเอาเอง การรถไฟฯ ก็ไม่ยอมฟ้องเพิกถอน แต่เดินอ้อมไปฟ้องศาลปกครองให้กรมที่ดินเพิกถอนโฉนดเอง แล้วก็เอาเรื่องนี้มากดดันหรือต่อรองทางการเมือง
จนถึงตอนนี้กรมที่ดินยังไม่ยอมใช้อำนาจทางปกครองเพิกถอนโฉนดคืนให้กับการรถไฟฯ แล้วรอศาลปกครองว่าจะสั่งให้กรมที่ดินต้องเพิกถอนทั้ง 995 แปลง หรือบางแปลงทันที หรือจะให้ทำอย่างไร ซึ่งถ้าศาลปกครองสั่งให้กรมที่ดินตั้งกรรมการเพื่อเพิกถอนโฉนด มันก็จะวนไปเหมือนเดิมอีก
ส่วนกรณี พิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.คมนาคม ที่เพิ่งออกมาประกาศเมื่อสัปดาห์ก่อน ว่าจะให้การรถไฟฯ ฟ้องเป็นคดีแพ่งเพื่อเพิกถอนโฉนดรายแปลงบนที่เขากระโดงทั้ง 995 แปลง รวมเนื้อที่ 5,000 กว่าไร่นั้น ตนคิดว่ากำลังทำให้เป็นเรื่องใหญ่เกินไป สร้างแรงต่อต้านจากชาวบ้านจำนวนมาก ดังนั้นระหว่างกรมที่ดินรอคำสั่งจากศาลปกครอง ตนขอเสนอให้นายกฯ และ รมว.คมนาคม คนใหม่ แทนที่จะสั่งฟ้องเหมาเข่งทีเดียว 900 กว่าแปลง ท่านต้องจัดลำดับความสำคัญ โดยให้การรถไฟฯ ฟ้องเพิกถอนโฉนดบางแปลงที่ชัดเจนแล้วว่าเป็นที่ดินรถไฟแน่นอน 100% ก่อน การรถไฟฯ สามารถฟ้องได้เลยทันทีภายใน 4 เดือนนี้ ชนะคดีแน่นอน แล้วเมื่อมีคำสั่งจากศาลยุติธรรมเป็นรายแปลง อย่างไรกรมที่ดินก็ปฏิเสธไม่ได้
จุลพงศ์ยกตัวอย่างที่ดิน 2 แปลงที่เป็นจุดเริ่มต้นของมหากาพย์เขากระโดง คือที่ดินแปลง 3466 และที่ดินแปลง 8564 รวมกัน 44 ไร่ ถ้าจะเอาที่ดินเขากระโดงคืนให้การรถไฟฯ ต้องเริ่มจากที่ดิน 2 แปลงนี้ ซึ่งที่จริงเรื่องนี้ควรจะจบตั้งแต่ปี 2554 เพราะในปีนั้นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ชี้ว่าการออกโฉนดที่ดินแปลง 3466 และ 8564 นั้นมิชอบด้วยกฏหมาย เป็นการออกโฉนดทับที่ดินของการรถไฟฯ แต่ปรากฏว่าพอ ป.ป.ช. บอกดังนั้น กรมที่ดินก็ดื้อไม่ยอมเพิกถอน กลับดึงเรื่องไปถามอัยการสูงสุดว่าตัวเองต้องทำอย่างไร อัยการสูงสุดเลยตอบกลับกรมที่ดินว่าให้ไปแจ้งการรถไฟฯ ในฐานะผู้เสียหาย ให้การรถไฟฯ ไปฟ้องศาลเอาที่ดิน 2 แปลงนั้นคืน แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร การรถไฟฯ ไม่ยอมไปฟ้องเสียที
กรมที่ดินไม่ทำหน้าที่ของตัวเอง การรถไฟฯ ไม่ยอมฟ้องเอาที่ดินคืนมา ทุกรัฐบาลตั้งแต่สมัยนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร, ประยุทธ์ จันทร์โอชา, เศรษฐา ทวีสิน, แพทองธาร ชินวัตร ต้องรอจนกระทั่งพรรคภูมิใจไทยพ้นจากพรรคร่วมรัฐบาล ก่อนหน้านี้กระทรวงมหาดไทยถึงทำท่าทางเอาจริงเอาจัง ตั้งโต๊ะแถลงข่าวดิบดีเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ว่าจะเพิกถอนโฉนดที่ดินเขากระโดงทั้งหมด
เหมือนเรื่องจะจบลงด้วยดี แต่สุดท้ายไม่มี เพราะเรื่องแดงออกมาว่าภูมิธรรม เวชยชัย ไม่ได้มีคำสั่งให้เพิกถอนที่ดินเขากระโดงแม้แต่คำเดียว ส่วน สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม คนก่อนหน้านี้ ก็เกรงอกเกรงใจไม่สั่งให้การรถไฟฯ ฟ้องศาลเพิกถอนโฉนดที่ดินเองเสียที วนกลับไปศาลปกครองอีก ล่าสุดยังไม่ทันโปรดเกล้าฯ นายกฯ คนใหม่เสียด้วยซ้ำ ข้าราชการมหาดไทยก็ดาหน้ากันออกมาปกป้องที่ดินเขากระโดง ทั้งปลัดกระทรวงมหาดไทย รองปลัดกระทรวงที่เคยเป็นอธิบดีกรมที่ดินควงคู่กับอธิบดีกรมที่ดินคนใหม่ รีบตั้งโต๊ะแถลงเลยว่าไม่เพิกถอนแล้ว จะรอศาลปกครองตัดสินคดีที่การรถไฟฯ ไปฟ้องมหาดไทย
ดังนั้นระหว่างรอศาลปกครอง ตนขอย้ำว่าสิ่งที่รัฐบาลชุดใหม่สามารถทำได้ทันทีใน 4 เดือนนี้ หลังจากแถลงนโยบายครั้งนี้เสร็จ รมว.คมนาคม สามารถสั่งการให้การรถไฟฯ เริ่มฟ้องเพิกถอนที่ดินทั้ง 2 แปลงนี้ได้ทันที คือแปลง 3466 และแปลง 8564 โดยเหตุผลที่ตนเสนอให้การรถไฟฯ ไปฟ้องร้องเพิกถอนที่ดินกับศาลยุติธรรมได้เลย เพราะเคยมีกรณีที่การรถไฟฯ ชนะคดีในศาลฎีกามาแล้วตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8027/2561
จุลพงศ์กล่าวว่า หากนายกฯ และรัฐบาลชุดนี้มีความจริงใจที่จะทำให้ปัญหาที่ดินเขากระโดงได้ข้อยุติและไม่เป็นที่กังขา ไม่ต้องไล่ฟ้องทั้ง 995 แปลงตามที่ รมว.คมนาคม ออกมาให้สัมภาษณ์ขึงขังเมื่อสัปดาห์ก่อน ตนขอเสนอให้นายกฯ อนุทิน หรือรัฐมนตรีพิพัฒน์ ประกาศ ณ ตรงนี้เลยว่าจะให้การรถไฟฯ ดำเนินการฟ้องเพิกถอนโฉนดที่ดิน 2 แปลงที่ ป.ป.ช. ชี้แล้วว่าออกโฉนดโดยมิชอบ ถ้าศาลตัดสินจนถึงที่สุดว่าที่ดินเป็นของการรถไฟฯ รัฐก็ได้ที่ดินคืนมา แต่ถ้าศาลตัดสินเป็นอย่างอื่น เรื่องจะได้จบ
เรื่องนี้ไม่ยากเกินความสามารถ เพราะการรถไฟฯ มีพยานหลักฐานและแนวทางการต่อสู้คดีที่เคยทำให้ชนะคดีในศาลฎีกามาแล้ว ที่สำคัญเรื่องที่ดินเขากระโดงจะเป็นข้อพิสูจน์อย่างดีเลยว่ารัฐบาลภายใต้การนำของอนุทิน ชาญวีรกูล จะบริหารบ้านเมืองภายใต้หลักนิติธรรมหรือใช้ระบบพวกพ้องกันแน่