"พร้อมพงศ์"  พรรคประชาชนนิ่งเฉยต่อปัญหาหลุมยุบกลางกรุง ทั้งที่ กทม. มี ส.ส.เต็มสภา ซัดรัฐบาลอนุทินแบ่งงานรองนายกฯ แบบแบ่งโซนภูมิภาคเสมือนเตรียมทัพเลือกตั้งปี 69

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย ออกโรงตั้งคำถามถึงท่าทีของพรรคก้าวไกลที่เลือกนิ่งเฉยต่อปัญหาหลุมยุบขนาดใหญ่บริเวณหน้าวชิรพยาบาล ทั้งที่ กทม. มี ส.ส. ถึง 32 คน แต่กลับไม่ขุดคุ้ยตรวจสอบเหมือนในหลายกรณีก่อนหน้า เช่น ประเด็นแรงงานหรือถนนพระราม 2 จนทำให้แฟนคลับจำนวนมากผิดหวัง พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า พรรคฝ่ายค้านอาจกลายเป็น “ฝ่ายค้ำยันรัฐบาล” แทนที่จะทำหน้าที่ตรวจสอบอย่างจริงจัง

เขายังวิจารณ์รัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล ที่เพิ่งแบ่งงานให้รองนายกรัฐมนตรี 6 คน โดยมองว่าเป็นการจัดสรรอำนาจตามภูมิภาค เหนือ–อีสาน–ใต้–ตะวันออก เสมือนวางตัว “แม่ทัพเลือกตั้ง” เตรียมรับศึกต้นปี 2569 มากกว่าการทำเพื่อประโยชน์ของประชาชน พร้อมระบุว่าแนวทางนี้อาจเป็นการละเมิดข้อตกลงทางการเมือง (MOA) ที่เคยให้ไว้กับพรรคประชาชน

นายพร้อมพงศ์กล่าวต่อว่า ระหว่างวันที่ 29–30 ก.ย. ที่รัฐบาลจะแถลงนโยบาย ครอบคลุมทั้งเศรษฐกิจ ความมั่นคงชายแดน ปัญหาสังคม การพนันออนไลน์ และภัยพิบัติธรรมชาติ จำเป็นต้องพิสูจน์ให้เห็นถึงความจริงจัง โดยเฉพาะปัญหาหลุมยุบหน้าวชิรพยาบาลที่สะท้อนถึงความบกพร่องเชิงระบบ ไม่ใช่แค่ความรับผิดชอบของ รฟม. หรือ กทม. แต่เกี่ยวพันทั้งรัฐบาลและหน่วยงานคมนาคม

อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทยชี้ว่า หลังการแถลงนโยบาย รัฐบาลอนุทินจะมีเวลาเพียง 120 วันทำงาน ต้องแสดงผลงานเชิงรูปธรรม ทั้งแก้ปัญหาปากท้อง เกษตรกรราคาพืชผลตกต่ำ การท่องเที่ยว ตลาดทุน รวมถึงข้อพิพาทกับกัมพูชา และต้องห้ามสร้างปัญหาใหม่ โดยเฉพาะเรื่องทุจริตคอร์รัปชัน เพราะรัฐบาลผสมที่ประกอบด้วย “คนละครึ่ง บ้านใหญ่ครึ่ง” หากผิดพลาดเพียงเล็กน้อย อาจกระทบเสถียรภาพทันที

“เวลานี้ไม่ใช่ช่วงมูเตลู แต่เป็นโหมดเดินหน้าพิสูจน์ฝีมือ ขณะเดียวกันก็นับถอยหลังสู่การยุบสภาในต้นปี 2569 สิ่งที่สังคมอยากเห็นคือรัฐบาลพูดแล้วต้องทำ ไม่ใช่เล่นการเมืองเพื่อตัวเอง” นายพร้อมพงศ์กล่าว